Views 3304
2024-06-24 16:00
(กูรูเช็ค) รวม 4 วิตามินที่ห้ามซื้อกินเองเด็ดขาด!
ดูเพิ่มเติม
เหตุผลที่ต้องตรวจ เพราะ จะได้รู้ว่าร่างกายเราขาดอะไรบ้าง แต่ค่าตรวจก็เป็นหมื่นเลยเหมือนกัน T^T หรืออีกวิธีนึงที่ไม่ต้องเสียตังค่าตรวจก็คือการดูจากอาการของร่างกายเราก็พอได้ มันจะมี SIGN บางอย่างที่บอกว่าขาดวิตามินนะ
• วิตามินเอถ้ากินถูกวิธีก็มีข้อดีเยอะนะ ทั้งช่วยบำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน และบำรุงผิวพรรณได้
• แต่ถ้ากินเยอะเกินไปยังไงก็ได้โทษมากกว่าประโยชน์นะ การกินวิตามินเอในปริมาณสูงถือเป็นสารพิษโดยตรงและมีผลต่อตับ ซึ่งวิตามินเอส่วนเกินจะถูกเก็บไว้ใน STELLATE CELLS ในตับ และมีการสะสม อาจทำให้เกิดการกระตุ้นและการเจริญเติบโตของเซลล์ตับที่มากเกินไป รวมถึงการผลิตคอลลาเจนส่วนเกินจนเกิดเป็นพังผืด จนนำไปสู่การบาดเจ็บของตับได้ (อ้างอิง)
• นอกจากนี้ก็ยังมีผลต่อกระดูก มีผลต่อสมอง และยังเอฟเฟคต่อผิวด้วย อาจทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่มากไปจนทำให้ผิวลอกได้ แล้วยังทำให้ผมร่วงได้ด้วยนะ (อ้างอิง)
• ไม่แนะนำให้ซื้อกินเอง ต้องเป็นคนที่ขาดเท่านั้น เพราะการกินธาตุเหล็กเกินสามารถ EFFECT ได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นตับ หัวใจ และตับอ่อน (อ้างอิง)
• กินเยอะเกินสามารถตุยได้เลยนะคะ ขอยกตัวอย่างเป็น CASE REPORT ของต่างประเทศที่เป็นผู้หญิงคนนึงกินยาเพื่อพยายามจะให้ตัวเองตุย แต่ก็มาหาหมอได้ทัน ตอนนั้นคือมีอาการหนักมากคือทั้งอาเจียน ท้องร่วง และหมดสติ แพทย์ก็ทำการรักษาไปจนตรวจไปเจอว่านางมีปริมาณธาตุเหล็กเยอะมากในร่างกาย แพทย์ก็ทำการรักษายื้อชีวิตต่อไป แต่อาการก็มีแต่ทรุดลงจนในที่สุดเขาก็ตุยภายใน 48 ชั่วโมงเลยค่ะ (อ้างอิง)
• อันนี้เพิ่งมีรายงานเลย ถือว่าสะเทือนวงการแพทย์มากนะ เพราะในรายงานเขาบอกว่าการกิน VITAMIN B3 ที่มากเกินไปจะทำให้เกิดสารที่ไปส่งผลให้เส้นเลือดอักเสบ เกิดเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ และเป็น STROKE หรือภาวะที่สมองขาดเลือดได้ (อ้างอิง)
• ซึ่งตัวเจ้าปัญหาเนี่ยก็คือ 2PY กับ 4PY ซึ่งเป็น niacin metabolite มันจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับปริมาณ VITAMIN B3 ที่มากเกินไป โดยโดสสูงสุดของปริมาณ Niacin คือ 35 มิลลิกรัมต่อวัน ถ้ากินเกินโดสนี้ อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ค่ะ (อ้างอิง)
• ซึ่งแคลเซียมเนี่ยเป็นอะไรที่คนมักไม่ค่อยขาด ก็คือถ้าตรวจเลือดไปเนี่ยค่าแคลเซียมก็ไม่ได้บอกว่าต่ำนะ แต่ปัญหาคือแคลเซียมไม่ดูดซึมเข้ากระดูก
• ยิ่งถ้าเป็นฟอร์ม CARBONATE เนี่ยถ้าร่างกายเอาไปใช้ไม่หมดก็มีรายงานพบว่าสามารถไปเกาะที่หลอดเลือดหัวใจได้เลยนะ (อ้างอิง)
• ถ้าดูจากตารางจะเห็นเลยว่าแคลเซียมมีหลายฟอร์มมาก ซึ่งฟอร์มที่ดูดซึมที่น้อยที่สุดก็คือ CALCIUM CARBONATE ซึ่งดูดซึมได้แค่ 10% ในขณะที่ฟอร์มที่ดูดซึมได้ดีที่สุดก็คือ CALCIUM L-THREONATE ที่สามารถดูดซึมได้ถึง 90-95% เลย เพราะฉะนั้นถ้าใครจะกินก็แนะนำให้กินเป็นฟอร์มอื่นที่ดูดซึมได้เยอะๆดีกว่านะ
• ที่สำคัญคือถ้าจะให้ดีเลยก็แนะนำให้กิน CALCIUM คู่กับ VITAMIN D3+ เพราะมีรายงานที่ทดสอบอาหารเสริมชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของ CALCIUM และ VITAMIN D3 พบว่าสามารถช่วยลดอาการท้องผูก ท้องอืด รวมไปถึงอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และอาการเบื่ออาหารได้ (อ้างอิง)
• หรือจะกินคู่กับ VITAMIN K ก็ดีนะ แต่ต้องเป็นฟอร์มที่เกี่ยวกับกระดูก นั่นก็คือ VITAMIN K2 หรือ MK7 อันนี้ก็มีรายงานที่บอกว่าสามารถป้องกันไม่ให้แคลเซียมสะสมในหลอดเลือด ช่วยปรับปรุงความหนาแน่นของกระดูก กระตุ้นการสร้างกระดูก การยับยั้งการสลายของกระดูก และสังเคราะห์โปรตีนอื่นๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เหมาะกับผู้สูงอายุด้วยนะคะ (อ้างอิง)
ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ
(สำหรับติดต่อโฆษณา)
“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “