Views 4510
2024-09-06 15:00
(กูรูเช็ค) อัปเดตเทรนด์อาหารเสริมปี 2025
บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทางบริษัทผลิตอาหารเสริมรายใหญ่ Vitaquest จาก USA รวมรวมข้อมูลและการคาดการณ์จากบริษัทวิจัยตลาดว่าอาหารเสริมประเภทต่างๆ เหล่านี้จะครองตำแหน่งยอดนิยมสูงสุดในปี 2025 วันนี้กูรูเช็คเลยรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจนี้มาให้ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลเทรนด์อาหารเสริมปี 2025
ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี 2022 มีมูลค่า 360.2 พันล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) ที่ 6.7% ภายในปี 2032 คาดว่าตลาดจะมีมูลค่าถึง 688.9 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปีแนวโน้มของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นไม่เหมือนกันเสมอไป รวมถึงผู้บริโภคที่อยู่ในช่วงการเจริญเติบโตนั้นด้วย ดังนั้นการทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากแนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารเสริมที่กำลังจะเกิดขึ้นในทุกๆ ปี จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ
จากข้อมูลของ Grand View Research ที่เป็นบริษัทวิจัยตลาดพบว่าโซนอเมริกาเหนือมีส่วนแบ่งรายได้ 33% สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในปี 2023
ปัจจัยที่กระตุ้นความสนใจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในสหรัฐอเมริกา ได้แก่
ในทำนองเดียวกันผลสำรวจตลาดจาก Valuates Reports บ่งชี้ว่าการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว การเพิ่มขึ้นของรายได้ที่จับจ่ายได้ และความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพ ยังส่งผลกระทบต่อสถิติของอุตสาหกรรมอาหารเสริมในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
จากการวิจัยตลาดที่ครอบคลุมในแหล่งอุตสาหกรรมต่างๆ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์และหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้จะเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2025
ขนาดตลาดคอลลาเจนทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 10.08 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 และคาดว่าจะสูงถึงประมาณ 23.02 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) ที่ 8.9% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ปี 2023 ถึง 2032
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คอลลาเจนได้รับความนิยมก็คือ ประชากรเข้าสู่การสูงวัยเพิ่มขึ้น สัญญาณภายนอกที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุดของความชราคือการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของผิวหนัง เมื่อระดับคอลลาเจนลดลง ริ้วรอยและความยืดหยุ่นของผิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในทำนองเดียวกัน การลดลงของคอลลาเจนอาจส่งผลต่อสุขภาพข้อต่อ ซึ่งเป็นอีกปัญหาหนึ่งสำหรับผู้สูงวัย
แหล่งของคอลลาเจนมีอยู่หลายแหล่งที่มา เช่น วัว หมู กระดูกอ่อนอกไก่ และปลาทะเล ล่าสุดมีการนำ “VEGAN COLLAGEN” มาใช้ แม้ว่าพืชจะไม่มีคอลลาเจนก็ตาม โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ VEGAN เหล่านี้ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่เลียนแบบโปรไฟล์กรดอะมิโนของคอลลาเจนที่แท้จริง
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนรูปแบบผงเป็นหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผลิตภัณฑ์ชนิดผงมีข้อดีคือสามารถผสมกับเครื่องดื่มได้ เช่น น้ำ น้ำผลไม้ กาแฟ ฯลฯ รูปแบบกัมมี่ก็เป็นรูปแบบการจัดส่งที่ได้รับความนิยม แต่การให้คอลลาเจนในกัมมี่ในปริมาณที่เกี่ยวข้องกับทางคลินิกและงานวิจัยนั้นเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้กัมมี่ยังสามารถละลายในขวดได้หากอุณหภูมิในการเก็บรักษาสูงเกินไป ส่วนรูปแบบแคปซูลก็ยังไม่ได้รับความนิยมหากเป็นคอลลาเจนเพราะปริมาณคอลลาเจนที่ควรได้รับนั้นจะสูงทำให้อาจต้องกินหลายแคปซูลเพื่อให้ได้ปริมาณตามโดสจากงานวิจัย
จากข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด Grand View Research พบว่าขนาดของตลาดอาหารเสริมสัตว์เลี้ยงทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 2.49 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโต CAGR ที่ 5.9% ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2030
เนื่องจากจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกกำลังผลักดันความต้องการอาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง ตัวอย่างเช่น ตามการศึกษาการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงในปี 2020 ของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของสหรัฐอเมริกา การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นจาก 67% ของครัวเรือนเป็นระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 70% ตามที่ได้รับการยืนยันโดย APPA ของสมาคมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงแห่งอเมริกา
อาหารเสริมช่วยเพิ่มสมาธิ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมสุขภาพของหัวใจและระดับพลังงานให้กับสัตว์เลี้ยง อาหารเสริมต่อต้านความเครียด คลายความวิตกกังวล รวมถึงอาหารเสริมเพื่อสุขภาพข้อต่อ ผิวหนัง และขน ยังเป็นที่ต้องการสูงและคาดว่าจะได้รับความสนใจมากขึ้นในหมู่เจ้าของสัตว์เลี้ยง
อาหารเสริมโภชนาการการกีฬาเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬา หรือผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นประจำ จากข้อมูลของ Grand View Research พบว่าขนาดของตลาดโภชนาการการกีฬาทั่วโลกมีมูลค่า 45.24 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และคาดว่าจะขยายตัวที่ CAGR ที่ 7.5% ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2030
โภชนเภสัชบางชนิดที่มีหลักวิทยาศาสตร์ที่ดีสำหรับสมรรถภาพทางกีฬาและการออกกำลังกาย ได้แก่:
ความชุกของการขาดวิตามินดีและระดับของวิตามินดีไม่เพียงพอเป็นปัญหาหลัก งานวิจัยจากวารสาร Nutrients ระบุว่า 29% ของประชากรสหรัฐอเมริกาขาดวิตามินดี และอีก 41% มีวิตามินดีไม่เพียงพอ เมื่อพิจารณาถึงบทบาทหลายประการของวิตามินดีต่อสุขภาพของมนุษย์ รวมถึงการช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ส่งผลต่อสุขภาพกระดูก ไปจนถึงช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
เมื่อพิจารณาจากประโยชน์ของวิตามินดี จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดวิตามินดีจะมีมูลค่า 1.69 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 7.48% จนถึงปี 2032
ควรสังเกตว่าวิตามินดีส่วนใหญ่ที่ขายให้กับผู้บริโภคคือวิตามินดี3 สิ่งนี้มีความสำคัญเนื่องจากมีวิตามินดีสองรูปแบบหลักสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: cholecalciferol (วิตามิน D3) และ ergocalciferol (วิตามิน D2)
Cholecalciferol คือรูปแบบของวิตามินดีที่ผลิตในร่างกายมนุษย์และมีฤทธิ์มากกว่า ergocalciferol ประสิทธิภาพของวิตามิน D2 น้อยกว่าหนึ่งในสามของวิตามิน D3 โดยทั่วไปแล้ว D3 จึงถือเป็นวิตามินดีในรูปแบบที่ต้องการ วิตามิน D3 สามารถใช้ในรูปแบบน้ำมันหรือแบบผง (encapsulated) นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบสังเคราะห์ (การเปลี่ยนลาโนลินเป็น D3 ในห้องปฏิบัติการ) หรือเป็น vegan ธรรมชาติที่สกัดจากไลเคนกวางเรนเดียร์หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cladonia rangeiferina ซึ่งมีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกลุ่มสมุนไพรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตามการวิจัยการตลาดของ Market Research Future ในปี 2023 ขนาดตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรมีมูลค่า 48.1 พันล้านดอลลาร์และคาดว่าจะเติบโตจาก 52.43 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 เป็น 87.98 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยมี CAGR 9.01% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์
คนทั่วไปอาจจะเข้าใจว่าใช้สมุนไพรในการรักษาโรค แต่อาหารเสริมสมุนไพรก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเขตเศรษฐกิจใหม่ คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้น การใช้จ่ายด้านสุขภาพและความสมบูรณ์แข็งแรงที่เพิ่มขึ้น
ส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพร ได้แก่ Echinacea, Moringa เมล็ดแฟลกซ์ ขมิ้น ขิง และโสม กลุ่ม Echinacea ครองส่วนแบ่งส่วนใหญ่ในปี 2023 โดยสร้างรายได้ประมาณ 25-27% ของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพร ในสหรัฐอเมริกา Echinacea เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรที่เป็นที่นิยมมากที่สุด 1 ใน 3 ของร้านค้าปลีก และการศึกษาทางคลินิกที่เพิ่มขึ้นซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของ Echinacea ยังช่วยกระตุ้นความต้องการ ซึ่งส่งผลให้ส่วนแบ่งรายได้สูงสุดของกลุ่มธุรกิจนี้
Nootropics เป็นอาหารเสริมที่ส่งเสริมสุขภาพทางปัญญาและระดับพลังงานของเซลล์ จากข้อมูลของ Future Market Insights ตลาดอาหารเสริม nootropic คาดว่าจะขยายจาก 2.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 เป็น 4.18 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2033 จากปี 2023 ถึง 2033 ยอดขายอาหารเสริม nootropic ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นที่ 9.0% CAGR
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร nootropic ที่นิยม ได้แก่ คาเฟอีนและแปะก๊วย อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภคใหม่ที่มีความสนใจอาหารเสริมกลุ่มนี้คือ นักเรียนและผู้สูงอายุ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เคยออกมาแล้วคือ L-theanine ร่วมกับคาเฟอีน การผสมผสานนี้อาจทำให้เกิดการเชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์ที่เพิ่มขึ้น ส่วนผสม nootropic ตามหลักฐานงานวิจัยอื่น ๆ ได้แก่
ขนาดของตลาดอาหารเสริมเพื่อความงามจากภายในทั่วโลกมีมูลค่า 3.56 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 และคาดว่าจะสูงถึง 9.22 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 โดยมี CAGR ที่ 11.4% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ปี 2023 ถึง 2031 ในหมวดหมู่นี้ประกอบด้วยผิวหนัง ผม และเล็บ
ไมโครไบโอมซึ่งประกอบด้วยจุลินทรีย์และแบคทีเรียนับล้านล้านที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสุขภาพของลำไส้ ภูมิคุ้มกัน และอื่นๆ อีกมากมาย อาหารเสริมสนับสนุนไมโครไบโอมมักจะมีพรีไบโอติก โพรไบโอติก และโพสไบโอติก
พรีไบโอติก (เช่น ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์และกาแลคโตโอลิโกแซ็กคาไรด์) เป็นเส้นใยพิเศษที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์โพรไบโอติก
โพรไบโอติก (เช่น Lactobacillus acidophilus และ Bifidobacterium longum) เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้ของเราซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
โพสไบโอติกเป็นโพรไบโอติกที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์หรือผ่านความร้อนซึ่งยังคงมีประโยชน์ต่อสุขภาพแม้ว่าจะไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม
หมวด 'biotic' กำลังได้รับความนิยม การวิจัยตาลจาก Future Market Insight พบว่าตลาดพรีไบโอติกทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 6.67 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2023 โดยมี CAGR ที่ 6.3% ในช่วงปี 2023 ถึง 2033 ขนาดของตลาดโพไบโอติกทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 213.1 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยเติบโตที่ CAGR ที่ 12.4% ในช่วงปี 2023 ถึง 2032 ตลาดโพสต์ไบโอติกคาดว่าจะมีมูลค่า 10.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 และคาดว่าจะบันทึก CAGR ที่ 10.9% ในช่วงปี 2024 ถึง 2034 ซึ่งมีมูลค่าถึง 30.5 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2034 ซึ่งตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพของจุลินทรีย์ในลำไส้นี้ยังขยายตัวออกไปได้เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง
ตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพของผู้หญิงมีมูลค่า 41.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และคาดว่าจะสูงถึง 66.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยมี CAGR ที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.6% ตลอดระยะเวลาคาดการณ์ โดยอาหารเสริมสำหรับผู้หญิงที่กล่าวถึง คือ
ตลาดอาหารเสริมสีเขียวทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 563.3 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 และคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR ที่ 3.8% แตะที่ประมาณ 818.0 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์อาหารสีเขียวจะพบได้ในเครื่องดื่มผงชงดื่มรวมถึงซุปเปอร์ฟู้ดสีเขียวด้วย ซุปเปอร์ฟู้ดสีเขียวหมายถึงสาหร่าย (คลอเรลลา สาหร่ายสไปรูลิน่า ฯลฯ) หญ้า (อัลฟัลฟา หญ้าข้าวบาร์เลย์ หญ้าข้าวสาลี ฯลฯ) ผักใบเขียวทั่วไป (บรอกโคลี ผักโขม ฯลฯ) เครื่องดื่มผสมซุปเปอร์ฟู้ดสีเขียวชนิดผงอาจมีสารอาหารอื่นๆ เช่น ผงผลไม้ สมุนไพร สารอาหารรอง เอนไซม์ และพรีไบโอติก โดยทั่วไป ผู้คนใช้เครื่องดื่มซุปเปอร์ฟู้ดสีเขียวแบบผงผสมโดยคาดหวังว่าจะให้ประโยชน์ เช่น ชดเชยการกินผัก/ผักใบเขียวในอาหาร สนับสนุนและ/หรือส่งเสริมกระบวนการล้างพิษในร่างกาย เพิ่มส่วนประกอบที่เป็นด่างลงในอาหารเพื่อช่วยป้องกันโรค
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมส่งเสริมการเผาผลาญในหมวดช่วยสนับสนุน GLP-1 เป็นหมวดหมู่ใหม่ ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตของตลาดในปัจจุบัน อาหารเสริมเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานของ glucagon-like peptide-1 (GLP-1) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความอยากอาหาร และการย่อยอาหาร จึงมีประโยชน์ในการลดน้ำหนักและสุขภาพการเผาผลาญ งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าโภชนเภสัชบางชนิดอาจช่วยส่งเสริม GLP-1 เช่น Berberine, Curcumin, Cinnamon, Soybean และ Resveratrol
แม้ว่าตัวเลขยอดขายที่เกี่ยวข้องกับอาหารเสริมออร์แกนิกจะไม่ปรากฏให้เห็น แต่เนื่องจากภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดของอุตสาหกรรมอาหารในสหรัฐฯ ยอดขายอาหารออร์แกนิกจึงเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักต่อปี ยอดขายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ผ่านการรับรองในสหรัฐฯ มีมูลค่าแตะ 70 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่สำหรับภาคส่วนนี้ สรุปได้ว่าอาหารเสริมออร์แกนิกก็กำลังมาแรงเช่นกัน ผู้บริโภคชอบอาหารเสริมที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติจากพืช ซึ่งถือว่าอ่อนโยนต่อร่างกายและดูดซึมได้ง่ายกว่า
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากพืช ลองพิจารณาว่าตลาดโปรตีน vegan ทั่วโลกในปี 2023 มีมูลค่าประมาณ 10.8 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสูงถึง 22 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2033 โดยมี CAGR ที่ 7.4% นอกจากนี้ แหล่งวิตามินจากธรรมชาติ ซึ่งรวมถึง nutraceuticals ที่ได้จากอาหารทั้งหมด คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 15.79 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 โดยมีอัตรา CAGR อยู่ที่ 6.4% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์โดยใช้ nutraceuticals จากพืช เช่น
ขนาดของตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพภูมิคุ้มกันทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจาก 25.92 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 เป็น 44.04 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยมี CAGR อยู่ที่ 6.9% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ nutraceuticals ที่เป็นที่ต้องการได้แก่
เทรนด์อาหารเสริมทั้ง 13 หมวดนี้ เป็นการคาดการณ์และรวบรวมผลการวิจัยตลาดจากฝั่งอาหารเสริมของประเทศสหรัฐอเมริกาที่จะเกิดในปี 2025 เท่านั้น ซึ่งตลาดอาหารเสริมของสหรัฐอเมริกาก็เป็นตลาดอาหารเสริมที่ใหญ่ของโลก การกำหนดเทรนด์และแนวโน้มของผู้บริโภคอาหารเสริมในไทย ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะตามเทรนด์ของตลาดอาหารเสริมของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ข้อมูลที่รวบรวมมาในครั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการวางแผนงานตลาดอาหารเสริมปี 2025 ในอนาคตต่อไป
ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ
(สำหรับติดต่อโฆษณา)
“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “