เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 2501

2024-06-26 18:00

(กูรูเช็ค) รีวิว “วิตามิน” ที่ควรกินแต่ละช่วงวัย!

กูรูเช็ค

วิตามิน คือ สารอาหารที่จำเป็นกับร่างกาย ได้จากการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หรือในปัจจุบันที่เราสามารถทานวิตามินเสริมได้ แต่ในช่วงวัยต่างๆ ก็มีความต้องการวิตามินที่แตกต่างกันออกไป วันนี้กูรูเช็คเลยสรุปมาให้คุณๆแล้วว่าในแต่ละช่วง ควรได้รับวิตามินอะไรบ้าง

• ช่วงอายุ 0-2 ปี หรือ เด็กแรกเกิด

สำหรับวัยนี้ยังไม่จำเป็นต้องมีสารเสริมอาหาร เนื่องจากได้รับวิตามินและแร่ธาตุจากน้ำนมแม่แล้ว เวลาที่ผู้ใหญ่บอกว่านมแม่มีประโยชน์มากนี่คือเรื่องจริงนะคุณๆ ในน้ำนมแม่เนี่ยจะมีสารที่ชื่อ COLOSTRUM ซึ่งเป็นสารที่ได้จากน้ำนมแม่หลังคลอด 24-48 ชั่วโมง ซึ่งนมเป็น LOT แรกและจะออกมาแค่ LOT เดียว ลักษณะจะเป็นน้ำนมสีเหลืองข้นๆ ซึ่งบอกเลยว่านี่แหละคือภูมิคุ้มกันชั้นดี ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคง่าย แถมยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตด้วย 
ที่สำคัญในนมแม่ยังมีโพรไบโอติกที่มีประโยชน์ต่อลูกเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้อย่างดี เด็กวัยนี้จึงไม่ต้องเสริมอาหารเสริมใดๆ (อ้างอิง) (อ้างอิง)

 

• ช่วงอายุ 2-5 ปี

ส่วนวัยนี้กูรูเช็คแนะนำให้กิน DHA เสริมสักวันละ 250-500 mg/วัน เพื่อช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง เพราะเป็นวัยแห่งการสร้างเซลล์สมองนะ (อ้างอิง)

 

• ช่วงอายุ 5 ปีขึ้นไป หรือ วัยเริ่มไปโรงเรียน

เป็นวัยที่จะต้องเจอแดด เจอลม เจอฝน พบเจอกับผู้คนมากขึ้นนอกจากพ่อแม่ทำให้ป่วยได้ง่ายก็เลยแนะนำให้เสริมเป็น VITAMIN C วันละ 100-500 mg/วัน ก็ได้นะเพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันค่ะ (อ้างอิง)

 

• ช่วงอายุ 10 ขวบขึ้นไป หรือ วัยแห่งการเจริญเติบโต

แนะนำให้เสริมเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยกระตุ้น GROWTH HORMONES ได้ ไม่ว่าจะเป็น 
- ARGININE ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการหลั่ง GROWTH HORMONES
- LYSINE ช่วยเสริมภูมิ+เพิ่มการเจริญเติบโต
- ORNITHINE นอกจากจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อแล้วยังเป็นสารตั้งต้นในการสร้าง GROWTH HORMONES ด้วย
- VITAMIN D ช่วยดูดซึมแคลเซียม เสริมความหนาแน่นให้กระดูก หรือจะเป็น FISH OIL ก็ดี มีทั้ง EPA+DHA
นอกจากช่วยเรื่องการทำงานของสมองแล้วยังช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้อีกด้วย (อ้างอิง)

 

• ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป หรือ วัยเจริญพันธุ์

วิตามินที่กูรูเช็คอยากแนะนำสำหรับวัยนี้ก็คือ ให้กินเป็น FISH OIL เพื่อช่วยลดการอักเสบในร่างกาย สำหรับผู้หญิงแนะนำให้กิน VITAMIN D3 3,000 IU/วัน, FOLIC ACID 400 microgram/วัน และ VITAMIN B รวม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง VITAMIN B1 ที่เป็นฟอร์ม BENFOTIAMINE ที่มี BIOAVAILITY ดีกว่า THIAMINE ทั่วไป เพราะช่วยในเรื่องการปฏิสนธิได้ (อ้างอิง)

 

• ช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป 

เป็นวัยที่ควรต้องได้รับวิตามินที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งเกิดจาก OXIDIZED LDL เกาะติดกับผนังหลอดเลือด จนทำให้หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบหรือตัน กระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่ผนังหลอดเลือด เพราะฉะนั้นวิตามินที่จะทำให้ลดการเกิด OXIDIZED LDL ได้เพื่อป้องกันการอักเสบก็คือ FISH OIL (1,000 mg/วัน หรือกิน 1-2 เท่า), COENZYME Q10 (1,000 mg/วัน), TOCOTRIENOL (100-200 IU/วัน), ALA (600 mg/วัน) และ PYCNOGENOL (40-120 mg/วัน) (อ้างอิง)

 

• ช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป 

เรียกว่าวัยนี้เป็นวัยทำงานแบบเต็มตัวเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าปัญหาหลักเลยก็คือความเครียด ควรได้รับวิตามินที่เกี่ยวกับการปรับสมดุลฮอร์โมน อย่าง VITAMIN D3 ก็ควรกินนะ มีส่วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน กินวันละ 5,000 IU/วันก็ได้ค่ะ
หรือจะเป็น CHELATED ZINC มีความสัมพันธ์กับการสร้าง Thyroid Hormones ที่เกี่ยวกับควบคุมเมตาบอลิซึมของร่างกาย ซึ่งถ้าเป็นผู้ชายก็แนะนำให้กิน 45 mg/วัน และผู้หญิงกิน 30 mg/วันนะ
หรือจะทาน CHELATED MAGNESIUM ก็ได้เหมือนกัน ช่วยเสริมการหลั่งเมลาโทนินที่ช่วยในเรื่องการนอนหลับได้ เนื่องจาก MAGNESIUM ทำหน้าที่เป็น cofactor ให้กับเอนไซม์ Aralkylamine N-acetyltransferase (AANAT) ที่จะช่วยเปลี่ยน Serotonin ให้กลายเป็น N-Acetylserotonin เพื่อเปลี่ยนเป็น Melatonin ต่อไป เพื่อช่วยเรื่องการนอนหลับ ซึ่งกินวันละ 100-200 mg/วันก็ได้นะ (อ้างอิง)

อีกอย่างคือกิน COENZYME Q10 100 mg + NADH 10 mg เพื่อมาช่วยทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ โดยตัว NADH จะไปเพิ่มการนำ COQ10 กลับมาใช้ได้ใหม่อีกด้วย หรือใครที่มีปัญหานอนไม่หลับจริงๆก็กินเป็น MELATONIN เลยก็ได้แต่ให้เริ่มจากน้อยๆก่อนนะคะ วันละ 1-3 mg/วันได้ค่ะ

 

• ช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป 

วัยนี้อยากแนะนำให้ลดปัญหาจากกาารเจอโลหะหนัก มลพิษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น PM 2.5 อันนี้แนะนำให้กินเป็น ALA วันละ 600-1,00 mg/วัน
กินชาเขียวหรือรางจืด สลับกับชาใบย่านางเพื่อช่วย DETOX สารพิษออกจากตับ ขอย้ำว่าให้กินสลับๆ กันนะเพื่อลดการอักเสบที่ตับ
กิน VITAMIN D3 วันละ 5,000 IU/วัน และ VITAMIN K2 75-150 microgram/วัน เพื่อช่วยดึง CALCIUM มาเก็บที่กระดูก (อ้างอิง) 
มีอย่างเดียวเลยที่อยากแนะนำคือผู้หญิงอย่างเราควรหยุดกิน FOLIC ACID เพราะวัยนี้ไม่ใช่วัยเจริญพันธุ์แล้วนะคุณๆ (อ้างอิง)

 

• ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป 

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปชัดเจนที่สุดสำหรับคนในวัยนี้คือ HORMONES ค่ะ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เลยว่าเราขาด HORMONES ตัวไหนไปบ้าง อย่างใครที่มีปัญหาด้านการนอนหลับก็ให้เน้นเสริม MELATONIN หรือเสริม DHEA ที่เป็นสารตั้งต้นที่ช่วยสร้างฮอร์โมนกลุ่ม STEROID หรือจะกินเป็น PREGNENOLONE วันละ 50-100 mg/วัน เพราะตัวก็สามารถช่วยสร้างฮอร์โมนได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น PROGESTERONE, DHEA และ ESTROGEN

สำหรับผู้หญิงแนะนำให้กินเป็น BLACK COHOSH ตัวนี้จะช่วยลดอาการวัยทองในผู้หญิงได้นะ

สำหรับผู้ชายก็แนะนำให้กินเป็น SAW PALMETTO และ LYCOPENE เพราะสามารถช่วยสร้างฮอร์เพศชาย TESTOSTERONE และป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้

ถ้าจะเอาแบบรวมๆหน่อยก็คือ VITAMIN B รวม โดยเฉพาะ B1 และ B12 ที่ช่วยเพิ่มการสร้างพลังงานในร่างกาย (อ้างอิง) 
ส่วน B12 เป็นตัวที่สามารถช่วยให้ร่างกายผลิตเมลาโทนิน เพื่อเสริมสุขภาพในการนอนหลับให้ดีขึ้นได้ด้วย
(อ้างอิง) หรือจะเป็น VITAMIN D3 เพื่อเสริมสร้างความหนาแน่นให้กับกระดูกก็ได้น้าา

ปริมาณ DOSE ที่ใช้ เป็นไปตามหลักของ ANTI-AGING เพราะถ้าเอาตามอ.ย.บ้านเราจะให้ใช้น้อยกว่านี้ค่ะ

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ

เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

2501

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “