เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 1687

2024-09-13 17:00

(กูรูเช็ค)สรุปข้อมูล GLUTATHIONE ประโยชน์ไม่ได้มีแค่ทำให้ผิวขาว

กูรูเช็ค

สำหรับคุณๆ ที่อยากให้ผิวขาว กระจ่างใส มักจะมองหาอาหารเสริมมาเป็นตัวช่วยอย่าง กลูต้าไธโอน ที่ทำให้นึกถึงกันเป็นอย่างแรก เหมือนกับว่าถ้าอยากผิวขาวต้องกินกลูต้า แต่คุณๆ เองก็อาจจะไม่รู้ว่ากลูต้าไธโอนมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราได้มากกว่านั้นนะ วันนี้กูรูเช็ครวบรวมมาให้แล้วนะ แต่ก่อนจะไปพูดถึงประโยชน์ของกลูต้า เดี๋ยวเรามาทำความเข้าใจก่อนว่าจริงๆแล้วกลูต้าคืออะไร? สำคัญกับร่างกายเรายังไงบ้าง?

• กลูต้า หรือ GLUTATHIONE

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เองอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เจอมลภาวะมากขึ้น หรือแม้กระทั่งการทานยาหรือได้รับสารเคมีในปริมาณมาก ก็สามารถทำให้ GLUTA ลดลงได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นก็เลยต้องมีการกิน GLUTA เสริมเข้าไปเนอะ 

จริงๆแล้วกลูต้าเป็นโปรตีนชนิดนึงที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนสำคัญ 3 ชนิดรวมกัน ก็คือ CYSTEIN, GLYCINE, และ GLUTAMINE ทั้งหมดทั้งมวลจะทำหน้าปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และที่สำคัญยังช่วยตับในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย

GLUTATHIONE ในธรรมชาติมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน ก็คือ

1. REDUCED GLUTATHIONE หรือ GLUTATHIONE SULFHYDRYL(GSH) 
โดยในโครงสร้างจะมีกลุ่มไทออล(THIOL-SH) เป็น ACTIVE FORM ที่ทำให้มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การยับยั้งอนุมูลอิสระ โดยการให้กำจัดพิษของ HYDROGEN PEROXIDE(H2O2) โดยอาศัยเอนไซม์ GSH PEROXIDASE และอีกกลไกคือการกำจัดสารพิษโดยตับ โดยอาศัยเอนไซม์ GLUTATHIONE-S-TRANSFERASES(GSTs)

2. OXIDIZED GLUTATHIONE หรือ GLUTATHIONE DISULFIDE(GSSG) 
โครงสร้างเกิดจาก REDUCED GLUTATHIONE 2 ตัวที่ผ่านกระบวนการออกซิเดชัน เชื่อมกันด้วยพันธะไดซัลไฟด์ (S-S) ซึ่งปกติร่างกายสามารถเปลี่ยนรูป GSSG ให้อยู่ในรูป GSH ที่มีสมบัติด้านต่างๆ ได้ ด้วยเอนไซม์ GSH REDUCTASE และ RIBOFLAVIN ที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว แต่ถ้าร่างกายมีสัดส่วนของ GSSG ที่สูงกว่า GSH นั่นก็เป็นตัวชี้วัดได้ว่ามี OXIDATIVE STRESS สูง

ประโยชน์ของ GLUTATHIONE

จริงๆแล้วกลูต้าไม่ได้ช่วยให้ผิวขาวขึ้นเพียงอย่างเดียว เพราะนอกจากเรื่องผิวแล้วกลูต้ายังช่วยในเรื่อง
• ต้านอนุมูลอิสระ
แถมยังเป็นสารตั้งต้นของเอนไซม์ GLUTATHIONE PEROXIDASE สามารถกำจัด HYDROGEN PEROXIDE(H2O2) ที่เป็นอนุมูลอิสระในเซลล์ นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วย RECYCLING การทำงานของ VITAMIN C, VITAMIN E และ COENZYME Q10 และช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ                                      
• เสริมภูมิคุ้มกัน                                                            กลูต้าเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการเพิ่มจำนวนของเม็ดเลือดขาวเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค โดยไปเพิ่มความสามารถของเม็ดเลือดขาวชนิด NEUTROPHILS ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรค ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานของร่างกายด้วย (อ้างอิง)
• กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
หลักๆก็คือไปกำจัดสารพิษที่ตับ โดยอาศัยเอนไซม์ GLUTATHIONE-S-TRANSFERASES(GSTs) ให้เกิดการ CONJUGATE ระหว่างกลูต้าและสารพิษเพื่อให้เป็นสารที่ไม่มีพิษหรือละลายน้ำได้ดีขึ้น เพื่อขับออกจากร่างกายต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับจากการถูกทำลายด้วยแอลกอฮอล์ การสะสมของ ACETALDEHYDE ที่เกิดจาก OXIDATION PATHWAY ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้เกิดการเมาค้างได้อีกด้วย (อ้างอิง)                                                                 
• ด้านการเพิ่มความกระจ่างใสหรือช่วยเรื่องผิว
จะว่าเป็นประโยชน์ที่ได้จากกลูต้าก็ได้ แต่จริงๆแล้วมันแค่เป็นผลพลอยได้หรือผลข้างเคียงที่ได้จากการกินกลูต้าเข้าไปเท่านั้นเอง แต่ที่ว่าเป็นผลพลอยได้นั่นก็เพราะกลูต้าเขาสามารถไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ทำให้การสร้างเมลานินลดลง ผิวก็เลยดูขาวใสขึ้น (อ้างอิง)

ในเมื่อร่างกายเราผลิตกลูต้าได้เอง แต่ทำไมผิวเราถึงยังดูหมองคล้ำอยู่?
ต้องบอกก่อนว่าการที่ผิวเราดูหมองคล้ำหรือมีจุดด่างดำ เกิดจาก MELANOCYTE ผลิตเม็ดสี MELANIN ขึ้นมาเยอะกว่าปกติ ผิวเลยดูคล้ำขึ้น ซึ่งเมลานินถูกสร้างจากกรดอะมิโน TYROSINE โดยมีเอนไซม์ TYROSINASE ที่คอยเร่งกระบวนการสร้างเมลานิน เพราะจริงๆแล้วเมลานินจะมีอยู่ 2 ชนิด ก็คือ EUMELANIN ที่มีสีน้ำตาล-ดำ และ PHEOMELANIN ที่มีสีเหลืองหรือแดง ซึ่งปัจจัยที่สามารถเร่งกระบวนการสร้างเมลานินได้ก็คือรีงสียูวีนี่แหละตัวดีเลย

กลไกของ GLUTATHIONE ที่ทำให้ผิวขาวขึ้น                                           
กลูต้าช่วยให้ผิวขาวใส และช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้โดย 3 กลไกด้วยกัน ก็คือ
1.) ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดสีผิว (MELANIN)
2.) กระตุ้นกระบวนการสร้างฟีโอเมลานิน (PHEOMELANIN) มากกว่ายูเมลานิน (EUMELANIN)
3.) ยับยั้งอนุมูลอิสระจากรังสียูวีที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว

นอกจากนี้เขาก็มีรายงานที่พบว่ากลูต้าสามารถส่งผลต่อวิถีทางการสังเคราะห์เมลานินอื่นๆด้วย อย่างเช่น ไปลดการแสดงออกของยีนที่ควบคุมกระบวนการผลิตเมลานิน TYROSINASE-RELATED PROTEIN-1 ที่จะผลิตเอนไซม์ TRP-1 ที่จะผลิตเม็ดสี

กินกลูต้าคู่กับอะไรช่วยให้เห็นผลได้ดีขึ้น? 

โดยเราต้องอาศัย COFACTOR หรือ COENZYME อื่นๆที่ส่งผลต่อการทำงานของกลูต้าให้ทำงานได้ดีขึ้น จะเป็นวิตามินหรือเกลือแร่ หรือกลุ่ม AMINO ACID 3 ตัวที่เป็นสารตั้งต้นของกลูต้าก็ได้นะ อย่าง GLYCINE, GLUTAMINE, CYSTEINE ไปจนถึง N-ACETYL CYSTEINE(NAC) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโน L- CYSTEINE ที่เป็นกรดอะมิโนตั้งต้นของการสร้างกลูต้า ภายในเซลล์ เช่น VITAMIN B6, VITAMIN B12, และ FOLIC ACID ซึ่งแต่ละตัวมีความสำคัญในแง่ช่วยสร้าง CYSTEINE ที่เป็นกรดอะมิโนตั้งต้นของการสร้างกลูต้า และ VITAMIN B3(NADPH) เองก็เป็น COFACTOR ที่ช่วยสร้าง GLUTATHIONE

ยกตัวอย่างเช่น กินกลูต้าคู่กับ VITAMIN C และ VITAMIN E ก็จะช่วยเสริมฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของกลูต้าได้ดียิ่งขึ้น

กินคู่กับ ALPHA LIPOIC ACID(ALA) ให้ผลดีอย่างมากในการกำจัดสารพิษออกจากตับ ด้วยการเพิ่มการสร้าง GLUTATHIONE ในตับให้เพิ่มมากขึ้น (อ้างอิง

กินคู่กับ SELENIUM เพื่อช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างกลูต้าและช่วยให้กลูต้าที่อยู่ในรูปแบบ RECDUCED FORM ที่พร้อมออกฤทธิ์ทำงานได้ดี เพราะ SELENIUM ทำหน้าที่เป็น COFACTOR ของเอนไซม์ GLUTATHIONE PEROXIDASE อยู่แล้ว (อ้างอิง)

นอกจากจะมีตัวช่วยแล้วก็ควรจะมีเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมได้ด้วย
เอาตามจริงต้องบอกว่าการกินกลูต้าเข้าทางปากอาจจะไม่เห็นผลมาก เนื่องจากตัวโมเลกุลของกลูต้ามีขนาดใหญ่ จะต้องถูกย่อยจนเป็นกรดอะมิโนก่อนแล้วค่อยดูดซึมผ่านลำไส้เล็กเข้าไปได้ เพราะฉะนั้นการมีเทคโนโลยีที่มาช่วยเพิ่มการดูดซึมก็จะดีมาก และเทคโนโลยีที่พบได้บ่อยก็มักจะเป็นการห่อหุ้มกลูต้าไธโอนด้วยไลโปโซมโดยใช้เทคโนโลยี ENCAPSULATION เพื่อให้การดูดซึมดีขึ้น แต่มันจะมีอยู่นวัตกรรมนึงที่ดูดซึมได้ดีพอๆกับการฉีดเลยก็คือกลูต้าที่ทำมาในรูปของ SUBLINGUAL หรือแบบอมใต้ลิ้น ในทางการแพทย์แล้วถ้าอยากให้ยาออกกฤทธิ์ได้เร็ว เขาก็จะออกแบบยาให้เป็นแบบอมใต้ลิ้นนะ กลูต้าก็เช่นกัน เนื่องจากบริเวณใต้ลิ้นเรามีเส้นเลือดใหญ่อยู่ก็จะดูดซึมได้เลย

มีรายงานที่เปรียบเทียบการทาน NAC & GLUTATHIONE แบบทานและ GLUTATHIONE แบบอมใต้ลิ้น ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ทาน GLUTATHIONE แบบอมใต้ลิ้นมีปริมาณ GLUTATHIONE เพิ่งสูงขึ้นในเลือดมากกว่า

ปริมาณการทาน GLUTATHIONE
อย.บ้านเราจำกัดปริมาณการทาน GLUTATHIONE MAX DOSE อยู่ที่วันละ 250 mg ซึ่งเป็นปริมาณที่สามารถเห็นผลในเรื่องต้านอนุมลอิสระได้  แนะนำให้กินตอนท้องว่าง หรือก่อนอาหารเช้า 30 นาทีได้เลย
แต่ถ้าเอาตามการกินตามผลงานวิจัยพบว่ากลูต้าไธโอนที่จะช่วยเรื่องความใสของผิวจะต้องกินที่ขนาด 20 - 40 มก./ของน้ำหนักตัว (กก.)/วัน หรือกินครั้งละ 500 มก./วัน วันละ 2 ครั้ง ระยะที่เห็นผลผิวขาวใสขึ้นอยู่กับสภาพสีผิวแต่ละคน เช่น
-  ระยะเวลา 1-3 เดือน ในสภาพผิวสีน้ำตาล
-  ระยะเวลา 3-6 เดือน ในสภาพผิวสีน้ำตาลเข้ม
-  ระยะเวลา 6-12 เดือน ในสภาพผิวสีคล้ำ
-  ระยะเวลา 2 ปี ในสภาพผิวสีดำ (อ้างอิง)
 

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- หากได้รับปริมาณกลูต้าที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียง อย่างเช่น ปวดหัว ตาพล่ามัวได้
- แถมการทานกลูต้าในปริมาณที่มากเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานาน สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้มากกว่าที่คิด เพราะอย่างที่บอกว่ากลูต้าจะไปลดการสร้างเม็ดสีได้ทั่วร่างกาย ซึ่งร่างกายเรายังต้องการเม็ดสีเมลานินบางส่วนเพื่อช่วยปกป้องรังสี UV จากแสงแดดและช่วย ดูดซับแสงแดดที่มีความเข้มในระดับ UV ได้ ก็เลยสามารถป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้
- ซึ่งถ้าเราทานกลูต้าเกินขนาดติดต่อกันนานๆ ก็จะทำให้เม็ดสีเมลานินในจุดที่สำคัญอย่างดวงตาลดลงได้เช่นกัน ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยมหิดลพบว่าเมื่อเมลานินที่จอประสาทตาลดลงจะทำให้ตาเรารับแสงได้น้อยลง ส่งผลให้การมองเห็นมีประสิทธภาพน้อยลงด้วย (อ้างอิง)
- อย่างที่รู้กันว่าการฉีดกลูต้าในบ้านเราถือว่าผิดกฎหมาย ทั้งนี้เป็นเพราะการฉีดเข้าเส้นเลือดทำให้เกิด SIDE EFFECT มากมาย อย่างทำให้การทำงานของไตผิดปกติซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตวาย การทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ และพิษต่อระบบประสาท นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงต่อผิวหนัง เช่น อาการสตีเวนส์-จอห์นสันซินโดรมและภาวะผิวหนังลอกเป็นแผ่น (อ้างอิง)

สรุป

หลายคนอาจคิดว่า กลูต้าไธโอน มีประโยชน์เพื่อผิวขาวใสเท่านั้นแต่จริงๆ มีส่วนช่วยในการ DETOX ตับนะ แล้วการที่ผิวขาว กระจ่างใส ซึ่งจริงๆแล้วเค้ามีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย กำจัดพิษออกจากตับ แต่จะมี SIDE EFFECT ที่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสขึ้น เพราะ GLUTATHIONE จะยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวโดยยับยั้งเอนไซม์ TYROSINASE การจะกินกลูต้าให้ได้ผลจึงต้องกินในฟอร์มที่พร้อมออกฤทธิ์นั่นคือ REDUCED FORM และต้องมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเรื่องการดูดซึมด้วยนะ

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ

เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

1687

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “