เขียนโดย : Gurucheck

Views 1190

2024-03-13 10:00

(กูรูเช็ค) อัปเดตการวิเคราะห์ตลาด Astaxanthin ทั่วโลกปี 2024-2030

กูรูเช็ค

การวิเคราะห์ตลาดของ Astaxanthin ทั่วโลก โดยบริษัทวิจัยการตลาด grand view research พบว่าการคาดการณ์ตลาด Astaxanthin เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปีที่คาดการณ์คือ ปี 2030 กูรูเช็คเลยอยากนำเสนอข้อมูลการตลาดในแง่ของ Astaxanthin ในแต่ละมุม ทั้งขนาดการเติบโต แหล่งที่มา รูปแบบผลิตภัณฑ์ การนำไปใช้ประโยชน์ ภูมิภาคที่มีการเติบโต ไปจนถึงบริษัทที่เป็น key companies ที่เกี่ยวข้องกับ Astaxanthin ทั่วโลก เป็นข้อมูลให้ผู้ประกอบการอาหารเสริม Astaxanthin นำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อแข่งขันกับความต้องการของตลาดโลก

ขนาดและการเติบโตของตลาด Astaxanthin

ขนาดตลาด Astaxanthin ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 2.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 16.1% ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2030 ความต้องการ Astaxanthin ที่เพิ่มขึ้นนั้นได้รับแรงหนุนจากการใช้ที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อาหารสัตว์ โภชนเภสัช เครื่องสำอาง ยา อาหารและเครื่องดื่ม และอื่นๆ อีกมากมาย มีการใช้ Astaxanthin กันอย่างแพร่หลายเป็นส่วนผสมอาหารสำหรับกุ้งและปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ และปลาสวยงาม เพื่อเพิ่มสีสันและเพิ่มมูลค่าทางการค้า ประโยชน์อื่นๆ สำหรับสัตว์น้ำ ได้แก่ ในการทนต่อความเครียดเพื่อเพิ่มการเจริญเติบโต ประสิทธิภาพการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน ความสามารถในการสืบพันธุ์ การอยู่รอดที่ดีขึ้น และความต้านทานต่อโรค

นอกจากนี้การมีองค์กรที่ส่งเสริมเกี่ยวกับการใช้งานที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์จาก Astaxanthin คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด Astaxanthin ต่อไป ตัวอย่างเช่น Natural Algae Astaxanthin Association (NAXA) มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม ปกป้อง และให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของ Astaxanthin ในการใช้งานด้านต่างๆ สมาคมนี้จะสนับสนุนการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับแอสตาแซนธินตามธรรมชาติและรับรองผลิตภัณฑ์ด้วย NAXA Verification Seal

หลายบริษัทต่างกำลังใช้กลยุทธ์เพื่อเพิ่มการตลาดเชิงรุกของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Astaxanthin จากธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ในเดือนพฤษภาคม 2022 ในความร่วมมือของ Algalif ผู้นำการผลิตแอสต้าแซนทีนและ Divi’s Nutraceuticals ร่วมมือกันเปิดตัว beadlets Astaxanthin ที่มีความเข้มข้นสูง ในชื่อแบรนด์ AstaBeads ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะเพิ่มการรุกของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในด้านโภชนาการการกีฬาและการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดี นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม 2020 บริษัท ได้เปิดตัวไมโครแคปซูล ASTAGILE™ ที่เคลือบด้วยสาหร่าย spirulina ที่เหมาะในการบรรจุ Astaxanthin เพื่อส่งเสริมการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจในคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ

New Dietary Ingredient (NDI) ได้ให้คำแนะนำและออกแนวปฏิบัติใหม่ โดยเพิ่มปริมาณที่ควรบริโภค Astaxanthin ต่อวันจาก 7.8 มก. เป็น 12 มก. ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่โดย ส่วนทางด้าน Food Safety and Standards Authority of India (FSSAI) ในอินเดีย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของส่วนผสมที่ใช้ในอาหารเสริม ได้ดึงดูดผู้บริโภคให้หันมาสนใจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การลงทุนที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติและเอกชนคาดว่าจะส่งผลต่อการเติบโตของตลาด Astaxanthin

จะเห็นได้ว่าตลาด Astaxanthin ในต่างประเทศมีการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันที่สูงขึ้นทั้งการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการผลิต ไปจนถึงการออกแนวทางปฏิบัติจากหน่วยงานรัฐเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

Source Insights

แหล่งของ Astaxanthin ตามธรรมชาติมีส่วนแบ่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดที่ถึง 56.40% ของอุตสาหกรรม Astaxanthin ในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตในอัตราที่รวดเร็วในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ เนื่องจากข้อได้เปรียบ เช่น ประสิทธิภาพสูงและความยั่งยืน Astaxanthin จากธรรมชาติยังส่งผลดีต่อผิวหนังและดวงตา ดังที่มีการศึกษาจำนวนมากรายงานว่าการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในการรักษาโรคเกี่ยวกับตา เช่น ต้อกระจก โรคม่านตาอักเสบ และต้อหิน และการรักษาริ้วรอยแห่งวัยของผิวหนัง เนื่องจากมีฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระสูงกว่าสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงคุณภาพและการใช้ Astaxanthin จากยีสต์คาดว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 จากการวิจัยร่วมมือกันของ China Medical University, National Chung Hsing University และ National Taiwan Ocean University ที่ดัดแปลงพันธุกรรมของยีสต์เพื่อสร้าง Astaxanthin ให้เป็นแหล่ง Astaxanthin ที่มีศักยภาพสำหรับอาหารกุ้ง ส่วน Astaxanthin สังเคราะห์คาดว่าจะเติบโตในอุตสาหกรรม Astaxanthin ในช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและอาหารสัตว์

Product Insights

รูปแบบของผลิตภัณฑ์ Astaxanthinn ส่วนใหญ่จะเป็น Dried algae meal มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 25.26% ในปี 2023 ส่วนแบ่งหลักเกิดจากการนำไปใช้เพื่อผลิตออกมาในรูปแบบแคปซูลหรือยาเม็ด นอกจากนี้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น AstaPure Arava gummies โดยบริษัท Solabia-Algatech Nutrition ในเดือนตุลาคมปี 2022 ยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการ Astaxanthin จากสาหร่ายที่เพิ่มขึ้นอีก ส่วนรูปแบบซอฟต์เจลคาดว่าจะเติบโตในอัตราที่มีกำไรในช่วงปีที่คาดการณ์ไว้ ซอฟท์เจลได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้บริโภคเนื่องจากปัจจัยด้านความสะดวกและสามารถนำไปใช้ในประชากรสูงอายุได้

Application Insights

ตลาดของ Astaxanthin ส่วนใหญ่จะใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและอาหารสัตว์มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 46.39% ในปี 2023 เนื่องจากมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในการเป็นสารเติมแต่งอาหารสัตว์ กลุ่มผลิตภัณฑ์โภชนเภสัชมีแนวโน้มที่จะเติบโตที่ CAGR เร็วที่สุดในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ เนื่องจากความต้องการ Astaxanthin จากธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ควบคู่ไปกับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่เหนือกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ ที่มีอยู่ นอกจากนี้การบริโภคสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอ วิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพทำให้เสี่ยงต่อมลภาวะมากขึ้น อุบัติการณ์ของโรคเรื้อรังและโรคติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจึงคาดว่าจะสร้างโอกาสอันดีให้กับตลาด Astaxanthin ในปีต่อๆ ไป นอกจากนั้นยังมีการนำ Astaxanthin ไปเป็นส่วนผสมใน เครื่องสำอาง อาหาร อีกด้วย แต่ก็ยังมีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอาหารเสริม

Regional Insights

อเมริกาเหนือเป็นตลาด Astaxanthin ที่มีการพัฒนามากที่สุดและมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดที่ 36.53% ในปี 2023 นอกจากนี้ผู้ผลิตหลัก เช่น Cyanotech, Piveg, Inc. และ Beijing Gingko Group (BGG) พร้อมด้วยผู้ผลิต Astaxanthin สังเคราะห์ เช่น Cardax, Inc. ในแถบอเมริกาเหนือ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงระยะเวลาคาดการณ์นี้ นอกจากนี้การเติบโตของตลาดในอเมริกาเหนือยังได้รับแรงหนุนจากผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพจำนวนมาก การนำอาหารเสริมมาใช้เพิ่มมากขึ้น และอุตสาหกรรมเวชสำอางที่มีชื่อเสียง ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้ความต้องการตลาดในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ การเพิ่มการผลิตในภูมิภาค ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยสำคัญบางประการที่ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มขึ้นในเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ BodyFirst Wellness Nutrition ซึ่งเป็นบริษัทด้านโภชนาการของอินเดีย ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ โดยเน้นย้ำถึงความโดดเด่นที่เพิ่มขึ้นของส่วนผสมจากธรรมชาติแบบดั้งเดิม เช่น โสมอินเดียและแอสตาแซนธินในตลาดอินเดีย

Key Astaxanthin Companies

รายชื่อบริษัทที่เป็น key companies ในตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ Astaxanthin ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เพื่อช่วยในการปรับปรุงและพัฒนา วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Astaxanthin เพื่อใช้ในหลายๆ อุตสาหกรรม เช่น

- Algatech อิสราเอลและสหรัฐอเมริกา

- MicroA นอร์เวย์

- Cyanotech Corporation สหรัฐอเมริกา

- Algalíf Iceland hf ไอซ์แลนด์

- Beijing Gingko Group (BGG) สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน

- PIVEG สหรัฐอเมริกา

- Fuji Chemical Industries Co., Ltd ญี่ปุ่น

- Atacama Bio Natural Products ชิลี

- E.I.D. – Parry (India) Limited อินเดีย

บริษัทต่างๆ เหล่านี้เป็นบริษัทที่ผลิตวัตถุดิบหลายๆ ประเภท และที่โดดเด่นคือ Astaxanthin

สรุป

การคาดการณ์ตลาด Astaxanthin จนถึงปี 2030 มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนั้นแหล่งของ Astaxanthin ที่สำคัญคือมีที่มาจากธรรมชาติ จากสาหร่าย Haematococcus Pluvialis ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมคือแบบซอฟเจลในอาหารเสริม ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากเป็นอันดับสองรองจากใช้ Astaxanthin ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และภูมิภาคที่มีการเติบโตของตลาด Astaxanthin มากที่สุดคือประเทศแถบทวีปอเมริกาเหนือ รองลงมมาคือแถบ APEC ที่ตลาด Astaxanthin ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะคนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณ ๆ ทุกคนที่เข้ามา อ่านบทความนี้ ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ

กูรูเช็คขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/global-astaxanthin-market
เขียนโดย : Gurucheck

Views

1190

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “