• อาหารเสริมลดฝ้า รักษาฝ้าได้จริงไหม?

เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อนที่มีแสงแดดแรง ทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเป็นฝ้าได้ง่าย ลองใช้ครีมทาฝ้าแล้วอาจเห็นผลช้า หลายคนจึงมีความสนใจอยากรับประทานอาหารเสริมลดฝ้า เพื่อช่วยให้ผิวหน้าใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และตลาดอาหารเสริมบ้านเราตอนนี้บ้านเราทำมาหลายแบบมาก ทั้งแบบผง แคปซูล เม็ด ล่าสุดตอนนี้แบบเจลลี่มาแรงสุดๆ แล้วเราจะเลือกกกินแบบไหนเห็นผลที่สุด บทความนี้กูรเช็คมีวิธีเลือกมาแนะนำให้คุณๆ นะ

วิตามินลดฝ้า กระ จุดด่างดำ กินแล้วเห็นผล ควรมีสารสกัดที่ช่วยลดการก่อตัวของเม็ดสี Melanin ยับยั้บเอนไซม์ไทโรซิเนส และกระบวนการขนส่งเม็ดสี เช่น กลูต้า, สารสกัดเปลือกสนฝรั่งเศส (Pine Bark), L-Cysteine และควรมีสาร Anti-Oxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ปกป้องผิวถูกทำร้ายจากรังสี UV ช่วยให้ผิวทนทานต่อแดดได้ดีขึ้น คล้ำเสียน้อยลงอย่าง Lycopene, Astaxanthin, Alpha Lipoic Acid (ALA), Pomegranate, Red orange เป็นต้น
เช็คข้อมูล เลือกวิตามินกันแดด กินแล้วเห็นผล ผิวแข็งแรง ไม่เป็นฝ้า คลิ๊ก!
ดูรีวิว รวมวิตามินกันแดดที่มีสารออกฤทธิ์ช่วยดูดซับรังสี UV ได้ คลิ๊ก!

• วิธีเลือกทานอาหารเสริมลดฝ้าให้เห็นผล

ต้องบอกก่อนว่าฝ้าเป็นปัญหาผิวที่รักษาได้ค่อนข้างยากมาก ซึ่งวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การทาครีมกันแดด แต่ถ้าเป็นฝ้าขึ้นมาแล้ว ก็จะมีวิธีการรักษาฝ้าให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ทั้งเลเซอร์ฝ้า ทาครีมลดฝ้า ทายา ฝังเข็ม ก็แล้วแต่ว่าคุณๆ จะเลือกใช้วิธีแบบไหนกัน วันนี้กูรูเช็คมีอีกหนึ่งวิธีจัดการปัญหาฝ้ากวนใจมาแนะนำ ซึ่งก็คือ การทานอาหารเสริม วันนี้เราจะพาคุณๆ มารู้วิธีเลือกอาหารเสริมรักษาฝ้ายังไง ทานยังไงให้ได้ผลกันค่ะ

หลักในการเลือกกินอาหารเสริมให้ปลอดภัย เห็นผล

• ตรวจสอบข้อมูลบนฉลากของผลิตภัณฑ์ก่อนการซื้อและบริโภค เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา โดยสามารถตรวจสอบเลขทะเบียนง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 
• ไม่ควรรับประทานเกินขนาดที่แนะนำต่อวัน และรับประทานให้เหมาะสมตามช่วงวัย ช่วงอายุ             
• ตรวจสอบฉลากของอาหารเสริมว่ามีการระบุชื่อ ผู้ผลิต ส่วนประกอบ วันที่ผลิต และวันหมดอายุอย่างชัดเจน 
• พิจารณาโรงงานผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน เช่น GMP, ISO 
• เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ร้านค้าทางการในช่องทางออนไลน์ ร้านยา ห้างสรรพสินค้า
• ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมซ้ำซ้อน เพราะอาจจะส่งผลทำให้ได้รับปริมาณวิตามินหรืออาหารเสริมเกินปริมาณ
• ควรศึกษาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง รวมถึงการอ้างผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัย ไม่มีอาการข้างเคียง
• ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาโรคประจำตัวอยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจส่งผลเสียต่อโรคหรือยาได้

• สาเหตุการเกิดฝ้า

ฝ้า คือปัญหาผิวที่สร้างความกังวลใจให้กับทุกคน พบบ่อยในผู้หญิง แต่ผู้ชายก็มีโอกาสเป็นฝ้าได้เช่นกัน โดยเฉพาะฝ้าแดด ถึงแม้ว่าฝ้าจะไม่เป็นอันตราย แต่ส่งผลถึงความมั่นใจเรา ถ้าเราเข้าใจถึงสาเหตุการเกิดฝ้า ก็จะทำให้เราสามารถเลือกวิธีการรักษาฝ้าได้อย่างถูกต้อง และฝ้าจะค่อยๆ หายไปแต่ต้องใช้เวลาหน่อยนะ
เราสามารถป้องกันได้ง่ายๆ เริ่มต้นจากการใช้ครีมกันแดดปกปป้องผิวจากแสง UV ดูรีวิว ครีมกันแดด ป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำ คลิ๊ก!

ฝ้า เกิดจากเซลล์เมลาโนไซต์ที่ถูกกระตุ้น ซึ่งเซลล์เมลาโนไซต์เป็นเซลล์ที่อยู่ในชั้นผิวหนัง มีหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดสีที่เรียกว่าเมลานิน โดยฮอร์โมนเพศหญิงที่เรียกว่า เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ทำให้เกิดการผลิตเม็ดสีเมลานินในปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อผิวหนังกระทบกับแสงแดด ทั้งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไป ซึ่งอาจมาจากการทานยาคุมกำเนิด หรือฝ้าที่มาจากฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยมาจากเครื่องสำอาง เช่น การแพ้เครื่องสำอาง เป็นต้น แม้แต่ทางพันธุกรรมเอง ก็อาจจะมีโอกาสทำให้เราเกิดฝ้า รวมถึงกรรมพันธุ์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกันนะ

ลักษณะอาการฝ้าที่เกิดขึ้น
ฝ้าจะมีลักษณะเป็นรอยปื้นใหญ่ๆ สีเข้มกว่าสีผิว โดยมีหลายเฉดความเข้ม ตั้งแต่สีออกน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม รวมถึงหลายขนาดตั้งแต่ฝ้าขนาดเล็กไปจนถึงฝ้าขนาดใหญ่ และจะฝ้าขยายขนาดปื้นเพิ่มเป็นวงกว้าง จนฝังลึกลงไปในชั้นผิวมากขึ้น ถ้าเราไม่หาวิธีป้องกันฝ้า ดูรีวิว รวม 7 ไอเทมกันแดดเมืองไทยยอดฮิต ที่ทุกคนต้องมี! คลิ๊ก

สามารถแบ่งชนิดฝ้าตามสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าต่างๆ ได้ดังนี้
1. ฝ้าเลือด ในทางการแพทย์เรียกว่า Vascular Melasma หรือ Telangiectetic Melasma เป็นฝ้าเกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนผิวหน้า ผลมาจากการใช้เครื่องสำอาง หรือยา ที่มีส่วนผสมของเสตียรอยด์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแตกและมีเลือดกระจุกบริเวณพังผืดใต้ผิวหนังชั้นลึก โดยฝ้าจะมีสีน้ำตาลแดง จัดเป็นฝ้าที่รักษายาก ฝ้าเลือดพบในเพศหญิงได้มากกว่าเพศชาย เนื่องจากเป็นฝ้าที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นหลัก
2. ฝ้าแดด เกิดจากการโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ทำให้เกิดฝ้าแดดได้ง่าย ซึ่งแสงแดดเป็นอันตรายต่อผิว 
3. ฝ้าตื้น (Epidermal type) เกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังกำพร้า มีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีเทาดำ ฝ้าชนิดนี้จะเห็นขอบเขตของการเกิดฝ้าได้ชัดเจน
4. ฝ้าลึก (Dermal type) เกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังแท้ใต้หนังกำพร้า มีสีน้ำตาลอ่อน สีเทา สีเทาอมฟ้า มีขอบเขตของฝ้าไม่ชัดเจน สังเกตได้ว่าฝ้าชนิดนี้จะกลืนไปกับผิวหน้าเป็นบริเวณกว้าง
5. ฝ้าผสม (Mixed type) เป็นการผสมของฝ้าทั้งสองแบบ ลักษณะจะเป็นสีเข้ม แต่ขอบจาง ต้องรักษาด้วยวิธีหลายแบบรวมกันทั้งฝ้าลึก และฝ้าตื้น

สรุป

อาหารเสริมที่เรารับประทานเพิ่มเติมนอกเหนือจากอาหารมื้อหลักที่ทานอยู่ในแต่ละมื้อ อาจจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เราสามารถทานเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวที่อาจได้รับผลกระทบจากแสงแดดในแต่ละวันที่ทำให้เกิดฝ้า ผิวหมองคล้ำได้ แต่ไม่ได้มีคุณสมบัติช่วยป้องกันแดดเหมือนกับครีมกันแดด หรือวิตามินกันแดดที่ใช้กันนะ เพราะฉะนั้นต้องเสริมการดูแล ปกป้องผิวให้ครอบคลุมด้วย เพื่อให้การป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่จะทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญสภาพร่างกาย รวมถึงสุขภาพของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน จึงให้ผลที่แตกต่างกัน ดังนั้น เพื่อการรับประทานอาหารเสริมที่ได้ผลดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อรับคำแนะนำเรื่องการทานอาหารเสริมที่ถูกต้องด้วยนะ

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ