การปลูกผมแบบ FUE คืออะไร?

การปลูกผมแบบ FUE ย่อมาจาก Follicular Unit Extraction คือ เทคนิคการปลูกผมถาวรที่ใช้เซลล์รากผมของผู้รับบริการเอง โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษขนาดเล็กเจาะแผลเป็นจุดเล็กๆ บริเวณหนังศีรษะด้านหลัง เพื่อดึงกราฟต์ผม(Follicular Unit) ออกมาทีละกราฟต์ กราฟต์ผมแต่ละกราฟต์จะมีรากผมอยู่ 1-4 เส้น จากนั้นแพทย์จะนำกราฟต์ผมมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ

ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUE

• แผลเป็นจากการปลูกผมแบบ FUE มีขนาดเพียง 0.5-1 มิลลิเมตร ทำให้มองเห็นได้ยาก เหมาะกับคุณๆที่ต้องการไว้ผมสั้น
• แผลจากการปลูกผมแบบ FUE จะหายเองโดยไม่ต้องเย็บแผล
• ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1-2 วัน สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• สามารถเก็บเส้นขนจากเครา หน้าอก หรือ ขาหนีบ มาปลูกผมบนศีรษะได้
• เส้นผมที่ปลูกขึ้นมาใหม่จะดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับเส้นผมเดิม

ข้อเสียของการปลูกผมแบบ FUE

• การปลูกผมแบบ FUE ใช้เวลานานกว่าเทคนิค FUT
• เทคนิค FUE มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเทคนิค FUT
• บริเวณที่ดึงกราฟต์ผมออกมามีโอกาสบางลง
• กราฟต์ผมที่ดึงออกมาอาจเสียหาย

การปลูกผมแบบ FUE เหมาะกับใคร?

การปลูกผมแบบ FUE เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง ลักษณะแบบนี้
1. ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ 
การปลูกผมแบบ FUE เหมาะสำหรับคุณๆที่มีปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ในระดับปานกลางถึงมาก เพราะเป็นวิธีที่ถาวร ช่วยให้ได้ผมใหม่ที่แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย
2. คุณๆที่มีผมบาง ศีรษะล้าน 
การปลูกผมแบบ FUE สามารถแก้ไขปัญหาผมบาง ศีรษะล้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสริมสร้างบุคลิกภาพ
3. คุณๆที่ต้องการปรับโครงหน้าให้ดูดีขึ้น เช่น ปรับแนวผมให้ได้รูป หรือ ปลูกผมหนวดเครา
4. คุณๆที่ต้องการพักฟื้นน้อย เพราะแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก
5. คุณๆที่ไม่ต้องการให้เห็นแผลเป็น เพราะเป็นวิธีปลูกผมที่มีแผลขนาดเล็กมาก แทบมองไม่เห็น
6. คุณๆที่มีผมบริเวณท้ายทอยเพียงพอ

การเตรียมตัวก่อนและหลังปลูกผมแบบ FUE

การเตรียมตัวก่อนการปลูกผม
• งดการตัดผมทรงรองทรง หรือสั้นด้านหลังศีรษะ และ ท้ายทอย
• งดรับประทานยา พลาวิกซ์ (Plavix), แอสไพริน (Aspirin) และยาแก้เอ็น &กล้ามเนื้ออักเสบ(NSAID)
• งดดื่มแอลกอฮอล์
• งดสูบบุหรี่
• นอนหลับให้เพียงพอ
• เตรียมเสื้อเชิ้ตที่กระดุมอยู่ด้านหน้า เพื่อสะดวกในการเปลี่ยน
• เตรียมหมวกแก๊ป หรือ หมวกปีกกว้าง เพื่อสวมใส่หลังการปลูกผม
 
การดูแลหลังการปลูกผม
• ใช้ผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งประคบเย็นบริเวณหน้าผากและแก้ม เพื่อลดอาการบวม ประคบครั้งละ 15-20 นาที พัก 10 นาที ทำซ้ำ 3-5 รอบ
• ใช้หมอนรองคอหนุนศีรษะให้สูง เพื่อลดอาการบวม
• งดก้มศีรษะ หยิบของ หรือทำกิจกรรมที่ต้องก้มต่ำ
• ทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ และยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่ง
• สังเกตอาการบวม แดง คัน หรือมีเลือดออก หากมีอาการผิดปกติให้ติดต่อแพทย์ทันที
• ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือทานยาบางชนิด เช่น แอสไพริน
• ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่รุนแรง เช่น เจลแต่งผม สเปรย์
• ห้ามแกะ สะเก็ดแผล หรือแผลบริเวณท้ายทอย
• ห้ามว่ายน้ำ
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสหนังศีรษะ

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ