ปัญหาฝ้า กระ  จุดด่างดำ เป็นปัญหาที่คุณๆ หลายคนกังวล เพราะเป็นจุดที่เห็นชัด พอเป็นแล้วก็รักษายาก บางคนแก้ไขที่ปลายเหตุโดยการใช้รองพื้นปกปิด แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หายขาดได้นะ เพราะรังสี UV ในแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินให้ทำงานมากขึ้น ยิ่งช่วงนี้ที่อากาศร้อนมากๆ แดดก็แรง ส่งผลทำให้ผิวคล้ำขึ้น ทั้งเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่ายมาก ถ้าไม่ป้องกันด้วยการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ก่อนที่จะเกิดเป็นฝ้าลึก และการโดนแดดสะสมเป็นเวลานานก็อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ น่ากลัวสุดๆ เพราะฉะนั้น วันนี้กูรูเช็คเลยรวบรวมวิธีรักษาฝ้าให้หายขาดมาให้คุณๆ ที่สนใจ จะมีวิธีไหนบ้าง มาเช็คกันเลยค่ะ

รวม 4 วิธีรักษาฝ้าให้หายขาด

วิธีที่ 1 รักษาฝ้าด้วยอาหารเสริมลดฝ้า

อาหารเสริมลดฝ้า คือ วิตามินหรืออาหารเสริมที่เน้นช่วยเรื่องเสริมการปกป้องผิว หรือบำรุงผิว ยับยั้งกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน ช่วยให้ผิวกระจ่างใส โดยรวบรวมส่วนประกอบวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งส่งผลให้การผลิตเม็ดเมลานินลดลง และช่วยให้มีผิวขาว กระจ่างใสเพิ่มขึ้น ซึ่งวิตามินเหล่านี้คือ กลูต้า Vit C, NAC, Amino Antioxidant หรือ Collagen ที่ช่วยเรื่องผิวนะคุณๆ
เช็คข้อมูล วิธีเลือกกินอาหารเสริมลดฝ้า ทานยังไงให้เห็นผล คลิ๊ก
เช็คข้อมูล อาหารเสริมผิวขาวอันตรายไหม? เหมาะกับใคร? คลิ๊ก
ดูรีวิว อาหารเสริมสลายฝ้า หน้าใส ผิวไบร์ท แบบไหนดีสุด! คลิ๊ก 
ดูรีวิว อาหารเสริม วิตามิน ผิวขาว ใส ยอดนิยมกลางปี 2023 คลิ๊ก

วิธีที่ 2 รักษาฝ้าด้วยสกินแคร์  

สกินแคร์รักษาฝ้า คือ ครีมทาฝ้าหรือเซรั่มรักษาฝ้า สกินแคร์บำรุงผิวหน้าที่มีสารไวท์เทนนิ่ง ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นสามารถช่วยลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าได้ ช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น แต่ควรเป็นครีมทาฝ้าที่ปลอดภัยได้รับเครื่องหมายรับรอง มีการยืนยันจากแพทย์ผิวหนัง และควรใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำเช้า-เย็น จึงจะเห็นถึงประสิทธิภาพสูงสุดนะ
โดยส่วนผสมหลักของสกินแคร์ แต่ละยี่ห้อจะมีส่วนช่วยเรื่องปรับสีผิวได้ในระดับไหน อาจลองมองหาส่วนประกอบเสริมการยับยั้งกลไกการเกิดฝ้า เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ดังนี้
• กลุ่มเร่งการผลัดเซลล์ที่ผิวชั้นบน เช่น GLYCOLIC ACID และ SALICYLIC ACID
• กลุ่มยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ยับยั้งการขนส่งเมลานินไปที่ผิวหนังชั้นบน เช่น ARBUTIN, LICORICE, ASCORBIC ACID, RESORCINO, NIACINAMIDE และ TRANEXAMIC ACID ก็เป็น ACTIVE ที่นิยมในสกินแคร์ลดฝ้านะคุณๆ เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ผิวขาวกระจ่างใสได้
ดูรีวิว สกินเเคร์ รักษาฝ้า กระ รอยสิว ตัวปัง กลางปี 2023 คลิ๊ก
ดูรีวิว สกินแคร์รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ตัวดัง ในวัตสัน คลิ๊ก
ดูรีวิว ครีมทาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว ที่ทุกคนควรตำ! คลิ๊ก

วิธีที่ 3 รักษาฝ้าด้วยการฉีดสลายฝ้า

วิธีรักษาฝ้าให้หายขาดโดยการฉีดฝ้า หรือฉีดเมโสหน้าใสลดฝ้า เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลที่ได้มาตรฐาน ตัวยาเมโสแท้ที่ฉีดจะเป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงให้ผิวให้ขาว ใส สุขภาพดีขึ้น 
เพราะเมโสหน้าใส คือ ทรีทเม้นท์บำรุงผิว เป็นทางลัดในการนำส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมต่างๆ โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมยากจากการทา มาทำให้สามารถฉีดเข้าในชั้นผิวได้โดยตรง และออกฤทธิ์ไวขึ้น จากปกติอาจใช้เวลาเป็นเดือน ทำให้เริ่มเห็นผลได้ใน 1 อาทิตย์หลังฉีด ซึ่งแต่ละคลินิกก็มีหลายยี่ห้อที่ใช้ แล้วแต่ความเหมาะสมของผิวหน้าแต่ละคนนะ  ดูรีวิว คลินิกฉีดหน้าใส เมโสหน้าใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ คลิ๊ก

ข้อดีของการฉีดสลายฝ้า 
• ฝ้า กระจางลง เห็นผลไวกว่าการทาครีม
• ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ลดปัญหาผิวหน้าได้
• ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน 
• ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
• ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีผลข้างเคียง
  
ข้อเสียของการฉีดสลายฝ้า
• อาจจะไม่ได้ช่วยรักษาให้ฝ้าหายขาดได้ถาวร แต่จะทำให้ฝ้ากระจางลง และชะลอการกระจายตัวของฝ้า จึงควรฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนนะ

วิธีที่ 4 รักษาฝ้าด้วยการเลเซอร์ฝ้า

เลเซอร์ฝ้า คือ หนึ่งในวิธีรักษาปัญหาผิวที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสีเมลานินมากเกินไป โดยการใช้เลเซอร์ช่วยปรับสีผิวให้กลับมาเรียบเนียน และลำแสงเลเซอร์ที่ใช้นั้นมีช่วงของความยาวคลื่นที่หลากหลายขึ้นอยู่กับความต้องการรักษาความผิดปกติบนผิวหนังนะ   
วิธีรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เป็นอีกวิธีที่เห็นผลเร็วนะคุณๆ เพราะความสามารถของเลเซอร์ที่ไปทำลายเม็ดสีที่เป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้าภายใต้ผิวหนังได้อย่างเจาะจง ไม่ไปทำลายเซลล์บริเวณอื่น ๆ ในวงการแพทย์ผิวหนังจึงได้นำเลเซอร์มาใช้ในการรักษาฝ้า จุดด่างดำ ผิวไม่สม่ำเสมอ เครื่องเลเซอร์รักษาฝ้าที่นิยม ได้แก่ เลเซอร์ Pico laser, ND-Yag , Dual yellow laser, Q-Switch เป็นต้น เป็นการยิงเพื่อปรับสภาพและรักษาความผิดปกติของสีผิว ยิง ลงไปบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรงและทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน เพื่อไปกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลัดผิวไวยิ่งขึ้น แต่หลังจากยิงเลเซอร์จะมีการตกสะเก็ดและอาจทำให้ผิวไวต่อแสง ดังนั้นจึงต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำประมาณ 1 สัปดาห์

ข้อดีของเลเซอร์ฝ้า
• ลดเลือนรอยฝ้าบนผิวหน้าได้ทันทีหลังทำ 
• สามารถผลัดเซลล์ผิวเก่าออกเผยผิวใหม่กระจ่างใสได้เร็ว
• เลเซอร์ฝ้าสามารถกำหนดจุดที่ต้องการรักษาได้อย่างเฉพาะเจาะจง ลดการไปรบกวนเนื้อเยื่อรอบข้าง ผลข้างเคียงต่ำ
• เลเซอร์ฝ้าสามารถใช้รักษาความผิดปกติอื่นๆ บนผิวหนังที่เกิดจากเม็ดสีเมลานินทำงานมากกว่าปกติได้ เช่น จุดด่างดำ รอยแผลเป็น รอยดำ กระ 

ข้อเสียของเลเซอร์ฝ้า
• เลเซอร์ฝ้าเป็นการใช้พลังงานแสงความเข้มข้นค่อนข้างสูง อาจทำให้เกิดการสะสมความร้อนบนผิวหนังและเกิดอาการแสบร้อน ระคายเคืองได้
• อาจพบอาการลอก แดง หลังจากเลเซอร์ฝ้าในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก
• ในบริเวณที่เลเซอร์ฝ้า มีความเสี่ยงที่เมลาโนไซต์อาจถูกทำลายไปด้วยและอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นบางลง ไม่สามารถปกป้องผิวต่ออันตรายจากรังสี UV ได้
• อาจเกิดรอยดำหรือจุดด่างขาวขึ้นได้ในผู้ที่มีผิวคล้ำ
ดูรีวิวคลินิกเลเซอร์ฝ้า กระ จุดด่างดำ ราคาไม่แรง คลิ๊ก 
ดูรีวิวคลินิกเลเซอร์รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วย PICO LASER คลิ๊ก
ดูรีวิวคลินิกเลเซอร์หน้าใส ลดฝ้า กระ ด้วย DUAL YELLOW LASER คลิ๊ก 
ดูรีวิวคลินิกเลเซอร์Q-SWITCH ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ยอดฮิต คลิ๊ก

สรุป

สำหรับ 4 วิธีการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำให้หายขาดที่กูรูเช็คมาแนะนำให้คุณๆ ในวันนี้เป็นวิธีที่สามารถช่วยให้หายขาดได้จริงหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณๆ ว่าจะดูแลผิวหน้าตัวเองได้ดีหรือป่าว เพราะฝ้าสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ตลอด หลังหยุดการรักษา หรือถ้าไม่ดูแลผิวหน้าของตัวเองให้ดี ถ้าคุณๆ เข้าใจถึงสาเหตุการเกิดฝ้า ก็จะทำให้สามารถเลือกวิธีการรักษาฝ้าได้อย่างถูกต้อง และฝ้าจะค่อยๆ หายไป แต่ต้องใช้เวลาหน่อยนะ เพราะว่าสุดท้ายแล้ววิธีรักษาฝ้าที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันไม่ให้เกิดฝ้านั่นเองค่ะ 
เช็คข้อมูล รู้ก่อนฝ้าเกิด สัญญาณเสี่ยงผิวพัง ฝ้าซ้ำซาก กระ จุดด่างดำ!! คลิ๊ก

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ