เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 2832

2024-06-28 18:00

(กูรูเช็ค) วิตามินบี รวมทุกข้อที่ควรรู้ก่อนกิน!

กูรูเช็ค

• ปริมาณของวิตามินบีที่ อย. ไทยกำหนด

ล่าสุดทางอย.ได้ออกประกาศอัปเดตปริมาณวิตามินและเกลือแร่ในอาหารเสริมมาใหม่ บางตัวอาจจะมากกว่าเดิม บางตัวก็เท่าเดิม หรือ ก็มีบางตัวปรับลงเล็กน้อยแหละ อันนี้เขามีผลบังคับใชต้ั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไปนะคะ (อ้างอิง) 
ซึ่งถ้าเป็นของ VITAMIN B เนี่ยเขาก็แบ่งมาให้ใหม่ทุกตัวเลย
• VITAMIN B1 : จากเดิมให้ปริมาณสูงสุดอยู่ที่ 1.5 mg ➡️ปรับใหม่เป็น 100 mg
• VITAMIN B2 : จากเดิมปริมาณสูงสุดอยู่ที่ 1.7 mg ➡️ ปรับใหม่เป็น 40 mg
• VITAMIN B3 อันนี้ เขาแบ่งเป็น
- NICOTINAMIDE : อันนี้ไม่ได้เปลี่ยนนะ ใช้ปริมาณเดิมเลยกค็อ 20 mg NE
- NICOTINIC ACID : จากเดิมปริมาณสูงสุดอยู่ที่ 20 mg NE ➡️ ปรับใหม่เป็น 15 mg NE
• VITAMIN B5 : ซึ่งเป็นตัว PANTHOTHENIC ACID จากเดิมปริมาณสูงสุดอยู่ที่ 6 mg ➡️ ปรับใหม่เป็น 200 mg
• VITAMIN B6 : ใช้ปริมาณเท่าเดิม อยู่ที่ 2 mg
• VITAMIN B7 : ในรูปของ BIOTIN จากเดิมปริมาณสูงสุดอยู่ที่ 150 ไมโครกรัม (µg) ➡️ ปรับใหม่เป็น 900 ไมโครกรัม (µg)
• VITAMIN B9 แบ่งเป็น
- FOLATE : จากเดิมปริมาณสูงสุดอยู่ที่ 200 ไมโครกรัม (µg) ➡️ปรับใหม่เป็น 330 ไมโครกรัม ดีเอฟอี(µg DFE)
- FOLIC ACID : ใช้ปริมาณเดิม ก็คือ 200 ไมโครกรัม (µg)
• VITAMIN B12 : จากเดิมปริมาณสูงสุดอยู่ที่ 2 ไมโครกรัม (µg) ➡️ ปรับใหม่เป็น 600 ไมโครกรัม (µg)

• วิตามินบีกับการเสริมสร้างพลังงาน(ATP) ให้ร่างกาย

อย่างที่รู้กันว่า VITAMIN B มีฤทธิ์ทำให้ร่างกายตื่นตัว นั่นเป็นเพราะวิตามินบีมีหน้าที่เปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานได้นะ อย่าง VITAMIN B1 / B2 / B3 / B5 / B6 / B7 / B9 / B12 พวกนี้จะช่วยผลิตฮอร์โมนเพื่อมากระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมองได้เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันที่ขั้นตอนเนอะ ซึ่งถ้าดูจากรูปนี้จะเห็นเลยว่าวิตามินบีเกือบทุกตัวสามารถช่วยสร้างพลังงานได้ (ATP) เมื่อเรากินน้ำตาลเข้าไป (อ้างอิง) 

• อาการชาจากการขาด VITAMIN B12

มีใครเคยชาตามปลายมือหรือเท้าบ้างไหมคะ? นี่แหละคืออาการเริ่มต้นที่บอกว่าเราอาจจะกำลังขาดวิตามินบี 12 เนื่องจาก B12 มีสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง รวมถึงทำให้การทำงานและการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาท เพราะฉะนั้นเมื่อเราขาดวิตามิน B12 เป็นเวลานานๆ จะส่งผลให้เนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มและป้องกันเส้นประสาทเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับเส้นประสาทอย่างอาการปลายประสาทอักเสบขึ้น เราก็เลยรู้สึกเป็นเหน็บชาตามปลายมือและเท้าเนอะ (อ้างอิง)

• นอนไม่หลับต้องกิน VITAMIN B6 หรือ B12 

ตอนแรกบอกว่าวิตามินบีมีส่วนช่วยให้ตื่นตัวใช่ไหมคะ แต่มันมีวิตามินบีบางตัวที่ช่วยในเรื่องผ่อนคลายสมองและช่วยเรื่องนอนหลับได้นะ อย่าง VITAMIN B6 และ 12 เขาก็มีรายงานว่ามีส่วนช่วยในการนอนหลับได้ ตัว VITAMIN B6 จะช่วยสร้าง SEROTONIN ทำให้การนอนหลับดีขึ้น (อ้างอิง)

และสำหรับ VITAMIN B12 ตัวนี้คือมีส่วนออกฤทธิ์โดยตรงต่อต่อมไพเนียลเพื่อกระตุ้นการปล่อยเมลาโทนินได้เร็วขึ้น ปรับ Circadian Rhythm ช่วยการหลับได้เร็วขึ้นนั่นเองนะ (อ้างอิง)

• ผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ต้องกิน FOLIC ACID 

FOLATE ก็คือ VITAMIN B9 ที่บอกว่าเป็นวิตามินที่เหมาะกับผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์เพราะ FOLIC ACID มีส่วนช่วยในการสร้างตัวอ่อน ช่วยป้องกันความผิดปกติของระบบประสาท ช่วยซ่อมแซมพันธุกรรม ควบคุมการสร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นในการแบ่งเซลล์ และยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวในไขกระดูกของลูกในครรภ์ได้ด้วย ยิ่งช่วงที่ตั้งครรภ์แล้วยิ่งอยากแนะนำให้กินโฟลิกมากกว่าปกติ เพราะขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ร่างกายจะดูดซึมโฟลิกได้น้อยกว่าปกติ เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้รับโฟลิกที่เพียงพอ ก็ต้องมีการเสริมเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อความสมบูรณ์ต่อการสร้างตัวอ่อนในครรภ์เนอะ 
ทางสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIH) และสถาบันการแพทย์ (IOM) เขามีการแนะนำผู้หญิงที่ตั้งครรภ์กิน FOLIC ACID วันละ 600 g เลย แถมให้กินต่อเนื่องตลอดการตั้งครรภ์เลย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้หญิงตั้งครรภ์จะมีปริมาณโฟลิกที่เพียงพอ ซึ่งพอคลอดแล้วและเป็นช่วงให้นมบุตรเขาก็แนะนำให้กินอยู่นะ แต่ลดปริมาณลงเหลือวันละ 500 g คะ (อ้างอิง)

 

• อยากฟื้นฟูร่างกายต้องฉีด NAD+ หรือกิน VITAMIN B3 

NAD+ ก็คือ NICOTINAMIDE ADENINE DINUCLEOTIDE หรือก็คืออนุพันธ์วิตามิน บี3 นี่แหละค่ะ NAD+ เนี่ยมีส่วนสำคัญอย่างมากกับอายุของเซลล์ในร่างกาย แถมยังเป็นสารตั้งต้นในการซ่อมแซมยีนส์หรือ DNA ด้วย ซึ่งเมื่อเรามีอายุเพิ่มขึ้น ระดับ NAD+ ก็จะลดลงไปตามวัย แต่ถ้าระดับ NAD+ ในร่างกายมันลดไวกว่าปกติ จะส่งผลให้มันไปเร่งกระบวนการความแก่ให้มาไวขึ้น 
คุณๆอาจจะได้ยินชื่อ NAD+ กันบ่อยๆจากคลินิกเนอะ เนื่องจากการฉีด NAD+ จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ในระดับ DNA  แถมยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ด้วย หลายๆคนเลยนิยมฉีดกันเพื่อชะลอวัยและฟื้นฟูร่างกายเนอะ นอกจากวิธีการฉีดแล้วเรายังสามารถได้รับ NAD+ จากการกินได้ด้วยนะคะ จะกินเสริมเป็นวิตามิน B3 หรือจะกิน NAD+ ตรงๆเลยก็ได้คะ

• ระวังกิน VITAMIN B3 เกิน อันตรายถึงชีวิต!!

เพราะเขาเพิ่งมีรายงานที่พบว่า การกิน VITAMIN B3 ที่มากเกินไปจะทำให้เกิดสารที่ไปส่งผลให้เส้นเลือดอักเสบ เกิดเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ และเป็น STROKE หรือภาวะที่สมองขาดเลือดได้นะคุณๆ (อ้างอิง)

ตัวแปรที่สำคัญคือ 2PY กับ 4PY ซึ่งเป็น NIACIN METABOLITE ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อร่างกายได้รับ VITAMIN B3 ที่มากเกินไป โดยโดสสูงสุดของปริมาณ NIACIN ที่ต้องกินคือ 35 mg/วัน เท่านั้นเอง ซึ่งถ้ากินเกินโดสนี้ แน่นอนว่าต้องมีผลเสียต่อร่างกายอยู่แล้วค่ะ (อ้างอิง) 

ซึ่งจริงๆแล้ว NIACIN เป็นทั้งยาและอาหารเสริมเลย ในทางยาเขาสามารถช่วยลด  CHOLESTEROL ได้นะถ้ากินในปริมาณที่เหมาะสม แต่ส่วนใหญ่เรามักจะเจอเจอสารนี้ปนมาในอาหารเสริมผิวขาวเนอะ แต่ก็ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการกินที่พอเหมาะก็สามารถช่วยลดการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจและ STROKE ได้นะ แต่ถ้าเมื่ีอไรที่กินเกินก็คือเป็นทางตรงกันข้ามเลยค่ะ

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ 

 

อัพเดตใหม่ ปริมาณวิตามินและเกลือแร่ในอาหารเสริมที่ อย. กำหนด ปี 2567 คลิ๊ก

เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

2832

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “