เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 12549

2023-05-19 15:00

(กูรูเช็ค)สารผลัดเซลล์ AHA BHA PHA LHA ให้หน้าใส ต่างยังไง ฉบับเข้าใจง่าย มีงานวิจัยรับรอง

กูรูเช็ค

สารผลัดเซลล์ในสกินแคร์มีความสำคัญขนาดไหน? ถ้าเช็คที่ส่วนผสมหลายๆแบรนด์ เกิน 50% ก็ใส่สารผลัดเซลล์กันมาเยอะนะ 1 ตัวบ้าง 2 ตัวบ้าง แล้วต้องเลือกใช้สูตรที่มีสารอะไรที่มันอ่อนโยน ไม่ระคายเคือง หรือใช้ตัวไหนแล้วดีต่อผิว ในเมื่อมันเป็นสารผลัดเซลล์เหมือนกัน จริงๆสารผลัดเซลล์เค้ามีหลายกลุ่มนะ ขึ้นอยู่กับขนาดโมเลกุล วันนี้กูรูเช็คเลยหยิบเนื้อหาของสารผลัดเซลล์ตระกูล AHA, BHA, LH และ PHA มาบอกให้ฟังกันค่ะ
โดยปกติผิวของเรามีรอบผลัดเซลล์อยู่ที่ 28 วันนะ เมื่อไหร่ที่ผิวเราไม่เกิดการผลัดเซลล์หรือผลัดเซลล์ช้า ผลที่ตามคือ อุดตัน เกิดขนคุด ผิวหมอง ดังนั้นสกินแคร์บ้านเราที่เราเจอส่วนใหญ่เค้าก็จะใส่มาเป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เผยผิวใหม่มาแทน


ส่วนใหญ่เราจะเจอสารผลัดเซลล์ 4 กลุ่ม เดี๋ยวเรามาเริ่มไปทีละกลุ่มกันนะ

1. AHA(ALPHA HYDROXY ACID) หรือกรดผลไม้

สารในกลุ่มนี้จะแยกย่อยได้อีก 5 ด้วยกันคือ 
- GLYCOLIC ACID พบในอ้อย
- LACTIC ACID พบในนมหรือของที่ต้องหมัก 
- MALIC ACID พบในแอปเปิ้ล
- CITRIC ACID พบในผลไม้รสเปรี้ยว
- TARTARIC ACID  พบในองุ่น
หน้าที่ของ AHA คือเร่งผลัดเซลล์ให้เร็วขึ้น ซึ่งในขณะเดียวกันก็เป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวเราด้วย ในกลุ่มนี้ GLYCOLIC ACID จัดว่าเป็นตัวที่ดีที่สุดในหลายๆด้าน (อ้างอิง)  
แล้วถ้าให้พูดถึงตัวที่อ่อนโยนที่สุดของ AHA คงหนีไม่พ้น Lactic acid คุณๆคนไหนที่ผิวบอบบางอาจจะต้องพึ่งสารนี้นะ ทำสกินแคร์ง่ายสามารถละลายในน้ำได้ ไม่ต้องพึ่งน้ำมันเป็นตัวละลาย โดยความเข้มข้นที่ใช้ได้ห้ามมากว่า 10% pH อยู่ที่ 3.5 ขึ้นสำหรับคนผิวธรรมดา เพื่อลดความไวต่อแสงแดด (อ้างอิง)   
สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง เป็นขุย เป็นสิว จะใช้อยู่ที่ไม่เกิน 20% สามารถใช้ได้ทุกวัน (อ้างอิง)  
กรณีที่มีโรคผิวหนังบางชนิดอาจใช้ที่ 70%  โดยขึ้นกับวิจรณญาณของแพทย์ค่ะ

ข้อดีของ AHA
- ระคายเคืองต่ำนิยมใช้เป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า(Lactic Acid) ให้ผิวดูกระจ่างใส
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอยเล็กๆได้
- ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง
ข้อเสียของ AHA
- AHA บางตัวไม่เหมาะกับผิวบอบบางระคายเคืองง่าย
- ไม่แนะนำในคนที่เป็นสิวอักเสบ
(อ้างอิง

ตัวอย่างแบรนด์

• LOREAL GLYCOLIC BRIGHT 1.0% GLYCOLIC SERUM

สูตรนี้ใส่มา GLYCOLIC มา 1% เป็น AHA ที่มีขนาดเล็กที่สุด ช่วยลดเม็ดสีเมลานินได้ นอกจากนี้ยังมี 3-O-ETHYL ASCORBIC ACID เป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่มีความเสถียร เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว (อ้างอิง)   

เช็คโปรโมชั่น LOREAL GLYCOLIC BRIGHT 1.0% GLYCOLIC SERUM คลิ๊ก

 

• PAULA’S CHOICE ADVANCED SMOOTHING TREATMENT 10% AHA 

สูตรนี้ใส่มา AHA มาจุกๆ 3 ตัวด้วยกัน ทั้ง LACTIC ACID, GLYCOLIC ACID และ MALIC ACID ทำหน้าที่เสริมฤทธิ์กันได้ดี ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ลดริ้วรอย ผลัดเซลล์เพิ่มความกระจ่างใส ในคนที่ผิวปกติสามารถใช้ได้ทุกวัน แต่แนะนำแค่ตอนเย็นนะคะ
 

เช็คโปรโมชั่น PAULA’S CHOICE ADVANCED SMOOTHING TREATMENT 10% AHA คลิ๊ก

 

• THE ORDINARY AHA 30% +  BHA 2% PEELING SOLUTION

ใส่สารผลัดเซลล์มาเข้มเข้นมาก โดยเฉพาะ AHA 30% สูตรนี้เน้น  ผลัดเซลล์ผิว กระชับรูขุมขนโดยเฉพาะเลยนะคุณๆ ตอนทาจะคันยิบๆมาก พอทิ้งไปสัก 5 นาทีก็หายนะ แต่ไม่แนะนำพอกทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาทีนะคะ ต้องล้างออกนะคุณๆ เดี๋ยวจะระคายเคือง 
 

เช็คโปรโมชั่น THE ORDINARY AHA 30% +  BHA 2% PEELING SOLUTION คลิ๊ก

• DR.WU MANDELIK SERUM  

คือเค้าใส่ MANDALIC ACID 18% มาเป็นสารหลัก ข้อดีของเค้า เหมาะกับผิวบอบบาง เพราะว่า ขนาดเค้าจะใหญ่ทำให้การดูดซึมจะช้า โอกาสการระคายเคืองจะน้อยกว่าพวกกรดไกลโคลิคเนอะ  
 

เช็คโปรโมชั่น DR.WU MANDELIK SERUM คลิ๊ก 

 

2. BHA(BETA HYDROXY ACID)

สกัดจากเปลือกไม้ WILLOW เป็นสารที่ละลายในไขมันได้ จึงสามารถซึมเข้าสู่รูขุมขนได้ล้ำลึก ทำความสะอาดรูขุมขนได้ เหมาะกับคนที่มีผิวมัน และใช้ในการรักษาสิวเป็นหลัก
โดยสารในกลุ่มนี้เค้าจะมี 
- SALICYLIC ACID ที่เราเจอบ่อยในสกินแคร์นะ  
แล้วก็ที่ไม่ค่อยเจอหรือว่าเจอน้อยเลยก็ว่าได้ อย่าง
- TROPIC ACID 
- TRETHOCANIC ACID 
เค้าจะต่างจาก AHA ตรงที่ช่วยเรื่องสิวนะคุณๆ มีงานวิจัยได้บอกความสามารถของ SALICYLIC ACID ช่วยฆ่าเชื้อและลดอัตราการเกิดสิวได้ แถมเป็นสารผลัดเซลล์ที่ดีตัวนึงเลยคุณๆ ซึ่งเค้าจะใช้ที่ความเข้มข้น 0.5-10% ในการเป็นสารออกฤทธิ์ลดสิวและ 30% ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าพร้อมลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย (อ้างอิง) (อ้างอิง) (อ้างอิง

ข้อดีของ BHA
- ซึมลึกถึงรูขุมขน ช่วยให้ทำความสะอาดรูขุมขนได้ดี ลดสิวอุดตัน
- ลดสิวอักเสบ
- ลดหน้ามัน
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวเพิ่มความกระจ่างใส
- ออกฤทธิ์ได้ดีตั้งแต่ความเข้มข้นน้อยๆ ไม่ต้องใช้เยอะ ตรงนี้บางสูตรคนที่ระคายเคืองง่ายก็ใช้ได้
ข้อเสียของ BHA
- ใช้ความเข้มข้นสูงก็ระคายเคืองได้
- นิยมใช้ในสกินแคร์รักษาสิวมากกว่าผลัดเซลล์ผิว กรณีเน้นผลัดเซลล์ต้องใช้ร่วมกับ AHA

ตัวอย่างแบรนด์

• CERAVE SA SMOOTHING CLEANSER

คลีนเซอร์ขายดีจากเซราวี เค้าเล่น SALICYLIC ACID มาเป็นสารหลัก เน้นผลัดเซลล์ผิว และลดความมันบนใบหน้าได้ แถมเค้ามีเซราไมด์ 3 ชนิดมาช่วยให้ความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองให้กับผิวด้วยนะคุณๆ 
 

เช็คโปรโมชั่น CERAVE SA SMOOTHING CLEANSER คลิ๊ก

 

• GRAVICH ACNELOGY CORRECTIVE SERUM 

เป็นเซรั่มสำหรับคนเป็นสิวทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน ซึ่งตัวที่ใส่ SALICYLIC ACID ที่ผ่านการ ENCAPSULATION แล้ว ทำให้ดูดซึมเค้าสู่ผิวได้ดีกว่าเดิมและลดการระคายเคืองได้ค่ะ 
 

เช็คโปรโมชั่น GRAVICH ACNELOGY CORRECTIVE SERUM คลิ๊ก 

 

3. LHA(Beta-Lipohydroxy Acid)

สารผลัดเซลล์ในกลุ่มนี้เค้าพัฒนามาจากสารในกลุ่มของ BHA อย่าง SALICYLIC ACID นะ คือเรียกง่ายๆว่าเป็นอนุพันธ์ของ SALICYLIC ACID ดังนั้นการออกฤทธิ์เค้าจะคล้ายกันเลยค่ะ คุณๆคนไหนใช้ BHA แล้วระคายเคืองสามารถใช้ตัวนี้แทนหรือใช้ร่วมกับ BHA ได้นะ ซึ่งสารในกลุ่มนี้ที่นิยมคือ CAPRYLOYL SALICYLIC ACID นะคุณๆ 

ข้อดีของ LHA
-เหมาะกับคนเป็นสิวทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน
-เป็นตัวเลือกของคนที่ใช้ BHA แล้วแพ้ระคายเคือง
-ที่พิเศษกว่า BHA คือมีรายงานว่ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสตินและ Hyaluronic acid ด้วย
-มีรายงานกรณีที่ใช้ Benzoyl peroxide(Benzac) แล้วทนผลข้างเคียงไม่ได้ก็สามารถใช้ LHA แทนได้(ช่วยลดสิวอักเสบและสิวอุดตันได้ใกล้เคียงกัน) (อ้างอิง
-ระคายเคืองน้อย
ข้อเสียของ LHA
-ยังเจอน้อยในกลุ่มของสกินแคร์ 
-ยังไม่พบรายงานเรื่องลดความมันบนผิว

ตัวอย่างแบรนด์

• LA ROCHE POSAY EFFACLAR SERUM ULTRA CONCENTRE

เซรั่มจากลาโรส โพเซย์ ที่เค้ามักใส่ LHA มาเป็น Active หลักแทบจะทุกตัวเลยนะ นอกจากนี้ยังมี AHA และ BHA ด้วย คาดว่าสูตรนี้น่าจะใส่ LHA มาเพื่อลดการระคายเคืองในขณะที่ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการลดการอุดตันได้ดี เหมาะกับคนที่มีเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง และผิวมัน 
 

เช็คโปรโมชั่น LA ROCHE POSAY EFFACLAR SERUM ULTRA CONCENTRE คลิ๊ก

 

4. PHA(Poly Hydroxy Acid)

ทำหน้าผลัดเซลล์ผิวคล้ายกับ AHA และ BHA แต่แตกต่างกันตรงที่ PHA มีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า ซึมลงสู่ผิวได้ไม่ดีเท่า AHA และ BHA ทำให้ประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวน้อยเห็นผลช้า แต่ข้อดีของ PHA คือ มีความระคายเคืองน้อยกว่า เหมาะกับคุณๆ ที่มีผิวอ่อนแอ บอบบางแพ้ง่ายนะ 
ซึ่งสารที่เราเจอในกลุ่มของ PHA ก็จะเป็น GLUCONOLACTONE นะ ซึ่งสกินแคร์บ้านเรายังเลือกใช้ไม่เยอะมากนะ 

ข้อดีของ PHA
- ผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวใส
- ระคายเคืองต่ำ เหมาะกับผิวบอบบาง อ่อนแอ แต่ต้องการใช้สารผลัดเซลล์
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้
ข้อเสียของ PHA
- ประสิทธิภาพการผลัดเซลล์ไม่เท่า AHA BHA 

ตัวอย่างแบรนด์ 

• SOME BY MI AHA BHA PHA 30DAYS MIRACLE TONER

เป็นโทนเนอร์สำหรับคนเป็นสิว จริงๆสูตรนี้มีสารผลัดเซลล์ AHA และ BHA ด้วย แต่ตัวที่กูรูเช็คว่าน่าสนใจคือ เค้าใส่ PHA มาช่วยเสริมลดการระคายเคืองในคนที่ผิวบอบบาง แถมช่วยเสริมการผลิตคอลลาเจนได้ด้วยนะคะ ถือว่าตอบโจทย์คนเน้นที่สิวอุดตันเป็นหลัก 
 

เช็คโปรโมชั่น SOME BY MI AHA BHA PHA 30DAYS MIRACLE TONER คลิ๊ก

 

• ตารางสรุปประสิทธิภาพของสารผลัดเซลล์

และสิ่งสำคัญที่ห้ามขาดไม่ได้คือต้องทาครีมกันแดดกันทุกวันนะคุณๆ เนื่องจากผิวของเราเมื่อผลัดเซลล์บ่อยๆเป็นประจำก็ทำให้ผิวบางได้นะ ซึ่งการทาครีมกันแดดไว้ เพื่อป้องกันการเกิดผิวหมอง จุดด่างดำ ที่ตามมาเนอะ 

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ และฝากติดตามข้อมูลสุขภาพ ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ

เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

12549

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “