วันนี้กูรูเช็คจะมาฝอยเรื่อง “อาหารที่กินแล้วสิวจะบุก” กันนะ ต้องบอกว่า ถึงแม้วิจัยของอาหารกับสิวจะมีไม่มาก เพิ่งจะมีมากขึ้นช่วงหลังมานี้ แต่ก็พอชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของ อาหารกลุ่มให้น้ำตาลในเลือดสูงกับสิว แต่ก็ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมนะคุณๆ

เพราะด้วยงานวิจัยทางโภชนาการ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นวิจัย RCT หรือแบบเดียวกันกับงานวิจัยยาด้วย จำนวน RCT ทางด้านโภชนาการจึงมีน้อยกว่ามาก เพราะปัญหาทางจริยธรรม และข้อจำกัดอื่นๆ อย่างเช่น dose ของอาหาร ชนิดอาหารได้ไม่กี่อย่าง พูดง่ายๆคือ RCT มันไม่ใช่วิถีชีวิตที่ทำกันจริงๆ ด้วย จะให้คำตอบแบบฟันธงเลยก็ไม่ได้
แต่สรุปแล้วในมุมมองของนักกำหนดอาหารวิชาชีพ ก็จะมองว่า ทางที่ดีที่สุด คือลดสิวเป็นรายบุคคลไป ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะคะ นักกำหนดอาหารวิชาชีพก็จะต้องประเมินอาหารการกินเป็นรายบุคคลอยู่แล้วนะคะ

ก็สอดคล้องกับแนวทางวิจัยที่พูดไปมะกี้นะคะ คือผู้เข้าร่วมที่ไม่มีสิวมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าผู้เข้าร่วมที่เป็นสิว ก็ได้แก่ 
1. กลุ่มทานไขมันเป็นประจำ 
2. กลุ่มทานน้ำตาลประจำ 
3. กลุ่มที่ทานอาหารแปรรูป ไส้กรอก เบอร์เกอร์ประจำ 
4. กลุ่ม pastry ขนมเค้ก โดนัท 
มีแนวโน้มกับความเสี่ยงในการเกิดสิวมากขึ้น

1. เวย์โปรตีน (WHEY PROTEIN)

สำหรับเวย์โปรตีน ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคุณๆ แต่ใจเย็นก่อน เรามาดูที่เหตุผลกันก่อน...ก็เพราะว่า มี กรดอะมิโนลิวซีน(LEUCINE)และกลูตามีน(GLUTAMINE) ทำให้เซลล์ผิวหนังเติบโตและแบ่งตัวเร็วขึ้น ซึ่งอาจมีส่วนทำให้เกิดสิว แถมยังสามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอินซูลินมากขึ้น ก็เชื่อมโยงกับการเกิดสิวอีก
แล้วก็มีการศึกษาด้วย เราไม่ได้พูดมาลอยๆค่ะ การศึกษาเค้ามีทดลองกันมาเป็นสิบๆปีแล้วนะคุณๆ เค้าศึกษาและพบความเกี่ยวพันกันถึงสิวในนักกีฬาชายกับการทานเวย์โปรตีน และอีกการศึกษา ก็เจอความสัมพันธ์เช่นเดียวกัน เค้าพบว่าจากการสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างอาหารเสริมโปรตีนเวย์กับอาการสิวผด อาสาสมัครเริ่มมีอาการสิวหรือรอยสิวเพิ่มขึ้น ตามจำนวนวันที่ทานอาหารเสริมเวย์โปรตีน
แต่สำหรับกูรูเช็คว่ายังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อเช็คนะว่าเวย์โปรตีนทำให้เกิดสิวมั้ยนะคะ

2. ช็อกโกแลต (CHOCOLATE)

ช็อกโกแลต ที่เค้าว่ากินแล้วจะสิวขึ้น แต่หลายคนรู้มั้ย ว่า ช็อกโกแลต กิน! แล้ว! สิว! ขึ้น! จาก! น้ำตาลในช็อกโกแลต!!  โอ้โห เห็นหมอออกมาพูดชัดเจนฟันธงเลย ว่าเพราะน้ำตาลเองแหละ ซึ่งความจริงก็สอดคล้องกันอยู่นะ 

แต่แต่แต่แต่... คุณๆขา กูรูเช็คก็ดันไปเจอมา ถึงงานทดลองที่อาสาสมัครชายเป็นสิวง่ายทานดาร์กช็อกโกแลต99% แบบขมเลยนั่นแหละ 25 กรัมทุกวัน มีรอยของสิวเพิ่มขึ้นหลังผ่านไป 14 วัน

หรือจากการศึกษาอื่น ที่ได้ผงโกโก้(ผงช็อกโกแลต) 100% แบบแคปซูลทุกวัน ก็มีสิวเกิดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังผ่านไป 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้ยาหลอก

เอาสิ เรื่องนี้มันเป็น INDIVIDUAL หรือส่วนบุคคลมากๆ ที่ความไว การดูดซึมของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ก็สอดคล้องกับตอนต้นคลิปที่นักกำหนดอาหารวิชาชีพลงความเห็นไว้นะ เพราะงั้น งานวิจัยนี้ถึงแม้เค้าจะเจอผลการสนับสนุนความเชื่อมโยงระหว่างการทานช็อกโกแลตกับการเกิดสิว แต่ก็ยังระบุไว้นะว่า ก็ยังไม่ชัดเจนว่าช็อกโกแลตทำให้เกิดสิวจริงมั้ย

กูรูเช็คเลยสรุปจากข้อมูลที่ทางทีมรวบรวมมาได้ตอนนี้ให้ว่า ดูเอาสังเกตอาการของเราเอา ไม่ต้องเชื่อใครดีที่สุดนะคะ

3. นมวัว/ผลิตภัณฑ์จากนม (DAIRY PRODUCTS)

ก็เป็นอีกตัว ที่แมสพอกันกับอันเมื่อกี้ ก็เพราะว่าเชื่อมโยงกับเวย์โปรตีน เหตุผลคล้ายกันเลยค่ะ คือมีกรดอะมิโนที่กระตุ้นการผลิต IGF-1 มากขึ้น ซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันกับการเกิดสิว อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้เลย อย่างงานวิจัยเองก็พบว่าวัยรุ่นที่ทานนมหรือไอศรีมเป็นประจำ มีแนวโน้มเป็นสิวมากขึ้น 4 เท่า แต่การศึกษาบางเรื่องที่ SENSITIVE เกี่ยวกับอาหารการกิน ที่รวมถึงเรื่องนี้ ก็เป็นการแสดงให้เห็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างนมกับสิวเท่านั้น ไม่ใช่วิจัยแบบรู้สาเหตุและผลลัพธ์ที่แน่ชัดนะคะ

4. ขนมปัง(WHITE BREAD)

ใครสายขนมปังมื้อเช้าบ้างยกมือขึ้นนนน แซนวิชชิ้นใหญ่ๆ แผ่นหนาๆ , EGG BENEDICT , ขนมปังขาวไส้ผลไม้ครีมสด รวมถึง HONEY TOAST  แน่นอนว่ามีน้ำตาลด้วย รีบเปลี่ยนขนมปังขาวเป็นโฮลวีตเลยคุณๆ ขนมปังขาวถือเป็นอาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมากกว่าขนมปังโฮลวีต ก็คุณๆที่ทานขนมปังอยู่ไม่ต้องสะเทือนใจไป เรายังทานขนมปังเป็นมื้อเช้าที่เร่งรีบได้อยู่ แต่ก็ถ้าเปลี่ยนเป็นโฮลวีตได้ ก็จะดีมากกว่าขนมปังขาว เท่านั้นเอง ซึ่งก็เหมือนๆกันกับข้าวขาว ก็ถือเป็นอาหารหลักของเราหลายๆคน ซึ่งเค้ามีค่าน้ำตาลสูงกว่าข้าวกล้องนั่นเองนะ

5. อาหารโอเมก้า 6 (FOODS RICH IN OMEGA-6 FATS)

กูรูเช็คเจอรายงานมาว่าอาหารที่มีโอเมก้า 6 เยอะๆ อย่างในเมนูอาหารฝั่งยุโรป มีแนวโน้มที่จะมีการอักเสบและเป็นสิวเพิ่มขึ้น เพราะว่าอาหารเค้าจะมีพวก ข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลืองเนี่ยอยู่เยอะ ก็จะอุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 6 แต่โอเมก้า 3 เนี่ยน้อย ปัญหาก็จะมาจากตรงนี้ เพราะอะไรมากไป ก็ไม่ดี ก็เกิดเป็นภาวะการอักเสบ และสิวที่หนักมากขึ้นนั่นเองนะคุณๆ

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ และฝากติดตามข้อมูลสุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ