เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 12247

2023-05-22 13:00

(กูรูเช็ค) รีวิว ทริคง่ายๆ เลือกครีมกันแดดป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำ ก่อนจะสายเกินแก้!

แสงแดด หรือ แสงอาทิตย์ที่ร้อนแรง มีอันตรายต่อผิวของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผิวหน้าที่มีความบอบบางมากกว่าผิวกาย เราจึงจำเป็นที่จะต้องปกป้องผิวหน้าจาก “แสงแดด” เพราะแสงแดดเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่าย
ทำให้ปัจจุบันครีมกันแดดกับผิวของเราถือว่าเป็นของคู่กัน ขาดไม่ได้เลยนะคุณๆ เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดแล้วยังช่วยปกป้องเราจากปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่ถือว่าเป็นปัญหาหลักๆที่เจอกันบ่อย ๆ และถ้าเป็นแล้วก็ใช้เวลานานในการรักษานะ
ซึ่งต้นตอนึงก็มาจากการที่เราไม่ทาครีมกันแดด หรือใช้ครีมกันแดดที่ไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง แล้วเราจะเลือกครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพอย่างไร วันนี้กูรูเช็คจะมารวบรวมวิธีการเลือกให้ตอบโจทย์สำหรับคุณๆเลยค่ะ

• แสงแดดเป็นตัวการเรื่อง ฝ้า กระ จุดด่างดำ จริงมั้ย?

ภัยร้ายจากแสงแดด ทำร้ายผิวหน้า หากไม่ใช้ครีมกันแดด

ทั้งรังสีอัลตราไวโอเลต รังสีอินฟราเรด แสงสีฟ้า เหล่านี้เป็นรังสีที่อยู่ในแสงแดดที่เป็นอันตรายกับผิวพรรณของเราถึงชั้นเซลล์ผิว ระดับความเข้มของรังสียูวีในแสงแดดส่งผลให้ผิวดำคล้ำเสีย เกิดเป็นผิวไหม้ได้ รวมถึงทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ นอกจากนี้แสงแดดยังเป็นตัวการทำให้ เกิดสารอนุมูลอิสระในเซลล์ผิว ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดเป็นริ้วรอยได้ง่าย  และยิ่งถ้าไม่ดูแลผิวให้ดีเมื่อโดนแสงแดดแรงๆบ่อยๆก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียเป็นมะเร็งผิวหนังได้ แต่ปัญหาที่เรามักเจอกันบ่อยๆ จากผลกระทบของแดดก็จะมี

•    ฝ้า กระ จุดด่างดำ

การถูกแดดเผาเป็นเวลานานๆ ในขณะที่เราออกไปนอกบ้าน หรือตอนออกไปทำงาน โดยที่ไม่มีการปกป้อง สามารถที่่จะก่อให้เกิด ฝ้า กระ และจุดด่างดำ รวมไปถึง ริ้วรอยต่างๆ กับผิวได้อย่างง่ายดาย ถ้าเราไม่ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวเป็นประจำ ก็จะทำให้เกิดการสะสมไปเรื่อยๆ ซึ่งช่วงแรกๆเราจะมองไม่เห็นนะคุณๆ เพราะมันเกิดขึ้นในชั้นผิวของเรา พอมันเกิดการสะสมเม็ดสีผิวเข้มนานๆไป ปริมาณมากขึ้นจนเห็นเป็นฝ้ากระจุดด่างดำแล้ว การรักษาก็ต้องใช้เวลาเยอะกว่าจะหาย ถ้าไม่พึ่งเลเซอร์ตามคลินิกซึ่งราคาก็จะค่อนข้างแรงเลยนะคุณๆ

•    ผิวลอกไหม้

หนึ่งในสิ่งที่หลายคนกังวลเกี่ยวกับแสงแดดเวลาต้องออ
กนอกบ้าน หรือ ต้องโดนแสงแดดเป็นเวลานานๆ ก็คือ การที่ผิวของเราจะ “ไหม้” โดยจะมีอาการแสบไหม้ มีทั้งเคสที่รุนแรง และไม่รุนแรง บางรายถึงกับมีอาการผิวลอกตามมา คุณๆหลายคนน่าจะรู้แล้วว่า แสงแดดที่เราเจออยู่ทุกวัน จะมาพร้อมรังสีต่างๆ ที่สามารถตรงเข้าสู่ผิวหนังได้ทันที ถ้าไม่ป้องกัน ในระยะเวลานานๆ ในปริมาณมากๆ อาจจะก่อให้เกิด มะเร็งผิวหนังได้อีกด้วยนะ 

ดังนั้นการทาครีมกันแดด กูรูเช็คถือเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ต่อให้เราอยู่ในที่ร่ม เราก็สามารถรับรังสียูวีได้อย่างง่ายดาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ ครีมกันแดดมีหลายรูปแบบที่นิยมใช้กัน แล้วเราจะเลือกยังไงให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์สำหรับคุณๆ ก่อนอื่นกูรูเช็คอยากให้คุณๆทำความรู้จักกับเรื่องน่ารู้ของครีมกันแดดกันก่อนค่ะ

• ครีมกันแดดคืออะไร ?

ครีมกันแดด คือ ผลิตภัณฑ์ทาผิวที่ช่วยป้องกันผิวเราจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวี (Ultraviolet) ที่มาจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง และสร้างเม็ดสีเมลานินทำให้ผิวคล้ำได้ เพราะสารในครีมกันแดดเค้าจะมีคุณสมบัติมาช่วยปกป้องเซลล์ผิวเราจากรังสีแสงแดดต่างๆ ด้วยการทำงานอย่าง การดูดซับรังสียูวี ปกป้องผิวหนังชั้นลึก หรือสะท้อนแสงยูวีออกจากผิว

• เรื่องน่ารู้ของครีมกันแดด

ครีมกันแดดในปัจจุบันนับเป็นสกินแคร์ยอดนิยม และมีวิธีใช้รวมถึงส่วนประกอบที่ต่างกันมากมาย ทำให้คุณๆ หลายคนอาจไม่แน่ใจว่าเลือกซื้อถูกไหม กำลังใช้ผิดวิธีอยู่หรือเปล่า ดังนั้นกูรูเช็คจะมาบอกเรื่องน่ารู้ของครีมกันแดดกันค่ะ

ลักษณะการทำงานของครีมกันแดด 
ลักษณะการทำงานของครีมกันแดดแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับส่วนผสมของตัวกรองรังสีในเนื้อครีม 
- ครีมกันแดดที่มีสารเคมี อย่าง โฮโมซาเลต เป็นส่วนผสมจะทำงานโดยการซึมเข้าสู่ชั้นผิวแล้วดูดซับรังสี  
  ก่อนที่จะสามารถทำอันตรายผิวหนังได้ 
- ครีมกันแดดแบบธรรมชาติ จะมีซิงก์ออกไซด์ และ ไททาเนียมไดออกไซด์ ทำงานร่วมกันสร้างเกาะ 
  ป้องกันบนชั้นผิวเพื่อสะท้อนรังสีออกไป

ประเภทครีมกันแดดตามลักษณะการใช้งาน
•    Physical Sunscreen เป็นเหมือนเกราะสะท้อนรังสี UV ออกไปจากผิวหนัง 
สารกันแดดแบบ Physical : Titanium Dioxide และ Zinc Oxide จะอยู่บนผิวหนังโดยไม่ซึมเข้าสู่ผิว 
•    Chemical Sunscreen ช่วยดูดซับรังสี UV ไว้ ไม่ให้ทะลุผ่านไปสัมผัสกับผิวหนัง เช่นสาร
Oxybenzone, Octinoxate, Octisalate 
•    Hybrid Sunscreen กันแดดแบบผสมทั้งคุณสมบัติสะท้อนรังสีของ Physical และดูดซับรังสี
ของ Chemical เอาไว้ เช่น สาร Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol หรือ Tinosorb M ซึ่งจะรวมครีมกันแดดทั้ง 2 แบบเข้าไว้ด้วยกัน

SPF ในครีมกันแดด คืออะไร?
ค่า SPF บนฉลากครีมกันแดด จะบ่งบอกถึงความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVB (ในช่วงความยาวคลื่น 280-320 นาโนเมตร) โดยค่ายิ่งสูงเท่าไหร่ประสิทธิภาพก็ดีขึ้นตามไปด้วย เช่น ค่า SPF 50+

ค่า PA ในครีมกันแดดคืออะไร?
ค่า PA ในครีมกันแดด จะบ่งบอกถึงความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVA (ในช่วงความยาวคลื่น 320-400 นาโนเมตร) โดยค่า PA จะจำแนกเป็นระดับได้ดังนี้
• PA+ ค่าระดับนี้ถึงจะป้องกันรังสี UVA ได้ถึง 2-4 เท่าแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่น้อย
• PA++ ค่าระดับนี้ถึงจะป้องกันรังสี UVA ได้ถึง 4-8 เท่า ถือว่าปกป้องได้ในระดับกลาง
• PA+++ ค่าระดับนี้ถึงจะป้องกันรังสี UVA ได้มากถึง 8-16 เท่า ป้องกันได้สูง
• PA++++ ค่าระดับนี้ถึงจะป้องกันรังสี UVA ได้มากกว่า 16 เท่า ป้องกันได้สูงสุด

รูปแบบครีมกันแดดในท้องตลาด
ครีมกันแดดนอกจากจะแยกเป็นครีมกันแดดทาหน้า และครีมกันแดดแบบทาตัวแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดยังแบ่งได้อีกหลายประเภทตามลักษณะ มาดูกันค่ะคุณๆว่ากันแดดมีรูปแบบไหนกันบ้าง
1) ครีมกันแดดแบบสเปรย์ : ใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ 
2) ครีมกันแดดแบบโลชั่น : เนื้อสัมผัสของครีมนุ่ม ซึ่งครีมกันแดดโลชั่นรุ่นใหม่ก็ได้พัฒนาสูตรให้มีเนื้อครีมบางเบาและซึมผิวได้รวดเร็ว
3) ครีมกันแดดแบบสติ๊ก : พกพาง่ายใช้งานสะดวกเช่นกัน มีเนื้อบางเบาเกลี่ยได้รวดเร็ว 
4) ครีมกันแดดแบบเจล : ทาแล้วบางเบา สบายผิว ส่วนใหญ่จะเป็นกันแดดผิวแพ้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวบอบบางหรือผิวมันโดยเฉพาะ ใช้แล้วไม่อุดตัน 
ซึ่งทางกูรูเช็คเองก็ได้รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดรีวิวครีมกันแดดไว้แล้ว(ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ คลิ๊ก)

• วิธีใช้ครีมกันแดด ป้องกันปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ

ปริมาณที่ควรใช้ทาครีมกันแดด
ในทางทฤษฎีแล้ว การทาครีมกันแดดให้ได้ผลจะต้องใช้ปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อตารางเซนติเมตร 
นั่นหมายถึง การทาครีมกันแดดบนใบหน้า หากเปรียบเทียบโดยการใช้ช้อนชาเป็นตัววัดปริมาณ การทาครีมกันแดดบนใบหน้าจะต้องใช้ครีมกันแดดในขนาดครึ่ง-1 ช้อนชา หรือประมาณ 2 ข้อของปลายนิ้วกลาง จึงจะเพียงพอต่อการป้องกันแสงแดด

แม้ตามหลักของการทาครีมกันแดดจะแนะนำให้ทามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ในชีวิตประจำวันอาจเป็นการยากที่จะใช้ครีมกันแดดในปริมาณมากๆ ดังนั้น การเลือกครีมกันแดดที่ดีตามปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจึงมีความสำคัญที่จะช่วยปกป้องผิวสวยๆ จากแสงแดดได้นะคะคุณๆ

ถ้าไม่ใช้ครีมกันแดด จะเกิดอะไรขึ้น ?

การใช้ครีมกันแดดนอกจากจะช่วยป้องกันรังสีจากแสดงแดดแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิวของคุณๆอีก 
มากมาย มาดูกันว่าถ้าไม่ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะคะ

1. ผิวคล้ำเสีย 
รังสี UVB อาจจะไม่ได้ทำร้ายผิวได้รุนแรงเท่ากับรังสี UVA แต่ว่ารังสี UVB เป็นรังสีจากดวงอาทิตย์ที่เข้าถึงผิวหนังชั้นบนสุด ส่งผลทำให้ผิวเราไหม้แดด แล้วก็ผิวคล้ำเสีย คนที่ไม่ทาครีมกันแดดเลย ก็เลยมีผิวหน้าที่ค่อนข้างคล้ำนั่นเองค่ะคุณๆ

2. ผิวไหม้ เพราะเซลล์ผิวถูกทำลาย(SUNBURN)
ถ้าหากออกไปเจอแดดแรงๆ เป็นเวลานาน แล้วไม่ทาครีมกันแดด ผิวบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง จะโดนแสงแดดทำร้าย จนเกิดปัญหาผิวไหม้แดด ทำให้เรารู้สึกปวด ร้อน แล้วก็รู้สึกแสบผิว เพราะฉะนั้น ถ้าจำเป็นต้องออกไปเจอแดดแรงๆ กูรูเช็คแนะนำทากันแดดที่มีค่า SPF 30 - 50+ นะคะ จะได้ป้องกันผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการโดนแสงแดดเข้ามาทำร้าย

3. ปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ
แน่นอนว่า แสงแดดเป็นตัวการสำคัญเลยที่ทำให้เรามีปัญหาฝ้าแดด กระแดด เพราะแสงแดดจะเข้ามากระตุ้นการสร้างเม็ดสีในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้มีเม็ดสีเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวเราเกิดการอักเสบของผิวหนัง แล้วก็ทำให้เราเป็นฝ้านั่นเองค่ะ กูรูเช็คได้สรุปต้นตอการสร้างเม็ดสีผิวฉบับเข้าใจง่ายๆ ไว้ในคลิปนี้แล้วนะคะคุณๆ (กด skip ไปที่นาที 1.04 ได้เลยค่ะ คลิ๊ก)  

4. มีริ้วรอยก่อนวัย
ในแสงแดดจะมีรังสีที่เราคุ้นหูอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ก็คือรังสี UVA และรังสี UVB .. ซึ่งทั้งรังสี UVA และ UVB ล้วนเป็นตัวการที่เข้ามาทำร้ายผิวของเราทั้งนั้น อย่าง รังสี UVA .. รังสี UVA ตัวนี้จะเข้ามาทำให้เซลล์ผิวหนังเราเหนื่อยล้า เสื่อมเร็ว และส่งผลทำให้ผิวเราสูญเสียคอลาเจนแล้วก็ความชุ่มชื้น พอไม่ทาครีมกันแดดนาน ๆ หรืออาจจะทา แต่ทาในปริมาณที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวเราเหี่ยวเร็ว แล้วก็มีผิวหน้าแก่ก่อนวัย

5. เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
อันนี้น่ากลัวมาก แต่เกิดขึ้นได้จริงแน่นอน เพราะว่าการที่เราโดนแสงแดดทำร้ายนานๆ โดยไม่มีการป้องกัน หรือไม่มีการใช้ครีมกันแดด อาจเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เราเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้เลย เพราะ รังสี UV ที่อยู่ในแสงแดด จะเข้ามาทำลาย DNA จนทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากในแสงแดดจะมีสารกระตุ้นมะเร็ง ยิ่งเมื่อได้รับแสงแดดจัดโดยตรงเป็นเวลานาน ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากขึ้น น่ากลัวมากเลยค่ะ

แสงแดด คือ ตัวการทำร้ายผิว ทั้งฝ้า กระ จุดด่าดำ ทำให้ผิวแก่ละเหี่ยวก่อนวัย และหากโดนแสงแดดเป็นเวลานานอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ อย่าลืม! ทาครีมกันแดดผิวหน้ากันด้วย เริ่มตอนนี้ยังไม่สาย เพื่อป้องกันและชะลอผิวให้ไม่ดูแก่ก่อนวัย ที่สำคัญคือ ต้องทาทุกวัน แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของผิวหน้าค่ะคุณๆ

• ทริคการเลือกครีมกันแดด

• เช็กค่า SPF : โดยปกติเวลาเราเลือกครีมกันแดดเราก็มักจะดูค่า SPF กันก่อนอยู่แล้ว ค่านี้จะบอกระยะเวลาที่ผิวสามารถทนแสงแดดได้ เช่น SPF50 จากปกติที่เคยทนแดดได้ประมาณ 15 นาที ก็จะทนได้ 50 x 15 = 750 นาทีค่ะ (แต่ก็แนะนำให้ทาซ้ำบ่อยๆ ระหว่างวันนะคะ)
• เช็กค่า PA : ค่า PA จะวัดกันที่ความแรงของแสงแดดค่ะ ค่าสูงสุดในบ้านเราตอนนี้คือ PA++++ สำหรับคนทำกิจกรรมกลางแจ้ง ดังนั้นใครที่ไม่ได้โดนแดดจ้าขนาดนั้นก็สามารถลด PA ลงได้นะ
• เช็กประเภทครีมกันแดด : เพราะครีมกันแดดจะมีทั้งแบบ Physical Sunscreen และ Chemical Sunscreen และ Hybrid Sunscreen ซึ่งป้องกันแดดด้วยวิธีต่างกัน โดยแบบแรกจะเหนียวกว่า แต่ไม่ทำร้ายผิว ส่วนแบบที่สองจะไม่เหนียวเท่าแบบแรก แต่บางคนอาจแพ้สารเคมีได้ และแบบสุดท้ายเป็นกันแดดแบบผสมทั้งสองตัวแรกเข้าด้วยกัน เนื้อไม่เหนียวเหมือนแบบแรกและไม่ได้ทำร้ายผิว เป็นการรวมข้อดีของกันแดดทั้งสองแบบไว้ด้วยกัน สำหรับคุณๆที่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้แบบแรก และแบบที่สามได้ค่ะ
• สภาพผิวกับครีมกันแดด : เพราะครีมกันแดดมีเนื้อสัมผัสหลายแบบ ทั้งเจล ครีม ฟองน้ำนม สเปรย์ ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา ให้สามารถใช้ได้อย่างสบายผิว และไม่เกิดอาการแพ้ค่ะ 

 

เเละนอกจากเราจะใช้ครีมกันแดดเป็นประจำเเล้ว ก็ควรมีไอเทมอื่นๆเข้ามาช่วยเสริมการทำงานของกันเเดดเพื่อปกป้องผิวของเราด้วยนะ 

อัพเดต 7 ไอเทมปกป้องผิวจากเเดดประเทศไทย คลิ๊ก

 

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ 
 

กูรูเช็คขอบคุณข้อมูลจาก

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/19962787/
เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

12247

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “