ในยุคนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเรื่องไมโครไบโอมเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพส่วนใหญ่รวมทั้งอาหารเสริมจะมุ่งเน้นไปที่การปรับสมดุลลำไส้ เพื่อการดูแลสุขภาพเฉพาะด้าน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การใช้โพรไบโอติกที่เคยมีงานวิจัยว่ามีผลต่อสุขภาพด้านนั้นๆ แต่ถ้าดูรายละเอียดเฉพาะบุคคลไป บางคนอาจจะไม่สามารถใช้โพรไบโอติกสายพันธุ์นั้นได้ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการทำ precision probiotics โดยอาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม

จากข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด Spherical Insights ความสนใจนี้เป็นที่ต้องการของตลาดโพรไบโอติกทั่วโลกซึ่งมีกำหนดจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปีที่ 7.6% และแตะเกือบ 114 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยคาดว่าจะเติบโตเร็วที่สุดในอเมริกาในช่วงระยะที่เวลาคาดการณ์ กูรูเช็คเลยรวบรวมความรู้เกี่ยวกับเป้าหมายในอนาคตที่มีการมุ่งเน้นการใช้โพรไบโอติกเฉพาะบุคคลมากขึ้น พร้อมยกตัวอย่างบริษัทที่มีการทำโครงการนี้ขึ้นมาแล้ว เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจด้านไมโครไบโอมได้อัปเดตกันค่ะ

ที่มาและความสำคัญของโพรไบโอติกเฉพาะบุคคล

ไมโครไบโอมในร่างกายคนเราถือว่าเป็นบัตรประจำตัวของแต่ละบุคคลได้เลย เพราะแต่ละคนก็จะมีชนิดและปริมาณของโพรไบโอติกหรือสภาพแวดล้อมไมโครไบโอมที่แตกต่างกัน จึงทำให้โพรไบโอติกเหล่านี้มีความรับผิดชอบและบทบาทในการตัดสินใจเรื่องสุขภาพของคนเราแตกต่างกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพและจุลินทรีย์ในลำไส้สามารถสร้างโอกาสในการควบคุมดูแลสุขภาพของแต่ละบุคคลได้

มีความพยายามในการจัดการองค์ประกอบของจุลินทรีย์ในลำไส้หลายวิธี เช่น การรับประทานโพรไบโอติก พรีไบโอติก ซินไบโอติก การปลูกถ่ายเชื้อจุลินทรีย์ในอุจจาระ (Fecal Microbiota Transplantation, FMT) เพื่อบรรเทาภาวะความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ แต่ผลกระทบของแนวทางเหล่านี้มีลักษณะทั่วไปและไม่เฉพาะเจาะจง ทำให้มีความจำเป็นในการออกแบบโพรไบโอติกเฉพาะบุคคลที่เน้นการรักษาโรคเฉพาะ โดยพิจารณาจากจุลินทรีย์ในลำไส้เฉพาะบุคคล คำแนะนำเหล่านี้ถูกกำหนดให้เป็นโปรไบโอติกรุ่นต่อไป (Next-generation precision probiotics, NGP)

การใช้เทคโนโลยี Nex Generation sequencing (NGS)

Nex Generation sequencing คือ เทคโนโลยีการหาลำดับนิวคลีโอไทด์หรือลำดับเบสของดีเอ็นเอ เพื่อศึกษาความผันแปรทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับลักษณะต่างๆ ในที่นี้เพื่อให้สร้างความเข้าใจในการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างร่างกายคนเราและจุลินทรีย์ในลำไส้ ที่สามารถดูรายละเอียดเฉพาะบุคคลได้เลย

โดยจากแผนภาพการศึกษาเริ่มจากการนำอุจจาระของบุคคลนั้นๆ มาทำการการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยี Nex Generation sequencing เพื่อหาลำดับเบสของจุลินทีย์ในร่างกาย และหาความสัมพันธุ์ของจุลินทรีย์นั้นกับสุขภาพของบุคคลนั้น แล้วผ่านการออกแบบเชื้อที่เหมาะสม ทำการทดลองเชื้อนั้นทั้งในหลอดทดลอง สัตว์ทดลอง และในคน ก่อนที่จะได้ Nex Generation Probiotics ซึ่งเหมาะกับการออกแบบโพรไบโอติกเพื่อมาใช้รักษาทางการแพทย์เฉพาะบุคคล 1

ตัวอย่างบริษัทที่กำลังพัฒนาเกี่ยวกับ Next-gen precision probiotics

Verb Biotics บริษัทสตาร์ทอัพด้านสุขภาพและไมโครไบโอมในสหรัฐฯ และ Evogene บริษัทชีวสารสนเทศของอิสราเอล บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาโปรไบโอติกสายพันธุ์ใหม่ที่ผลิตสารเมตาบอไลต์ของโพรไบโอติกด้วยคุณสมบัติขั้นสูงเพื่อสุขภาพที่แม่นยำ

ความร่วมมือดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การระบุและปรับปรุงทางพันธุกรรมในจุลินทรีย์ที่ยังไม่ทราบในปัจจุบัน ซึ่งการปรับปรุงดังกล่าวจะเพิ่มการผลิตสารเมตาบอไลต์ชนิดใหม่ให้ฟังก์ชันหลักเพื่อสุขภาพ โดยใช้กลไกเทคโนโลยี MicroBoost AI ของบริษัท Evogene และการเข้าถึงจีโนมของจุลินทรีย์สายพันธุ์ต่างๆ ของบริษัท Verb Biotics โดยออกแบบกลไกการออกฤทธิ์ของสารเมตาบอไลต์จากโพรไบโอติกที่กำหนดเป้าหมายในด้านต่าง ๆ เช่น สุขภาพทางเดินอาหาร ความเครียดและอารมณ์ การสูงวัยอย่างมีสุขภาพดี กีฬา การฟื้นฟูและสุขภาพของผู้หญิง 2

ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทด้วยโดยบริษัท Evogene ใช้กลไกเทคโนโลยี 3 ตัว ได้แก่

• MicroBoost AI สำหรับจุลินทรีย์
• ChemPass AI สำหรับโมเลกุลขนาดเล็ก
• GeneRator AI สำหรับองค์ประกอบทางพันธุกรรม

ด้วยความร่วมมือของ Evogene กับ Verb Biotics ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างมากในด้านนวัตกรรมโพรไบโอติก และเพื่อขยายขอบเขตของสิ่งที่สามารถทำได้ในเรื่องไมโครไบโอมนี้ ความร่วมมือนี้สอดคล้องกับความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการวิจัยไมโครไบโอมทั่วโลก และการเพิ่มความตระหนักของผู้บริโภคเกี่ยวกับบทบาทสำคัญขององค์ประกอบของจุลินทรีย์ในลำไส้ในแง่มุมต่างๆ ของสุขภาพ

สรุป

ไมโครไบโอมที่กำลังมีบทบาทในสุขภาพของคนเรากำลังจะมีการพัฒนาไปอีกขั้นคือการพัฒนาให้เป็นโพรไบโอติกเพื่อให้ผลิตสารเมตาบอไลต์จากโพรไบโอติกให้จำเพาะกับเป้าหมายทางสุขภาพมากขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยี AI มาช่วยในการออกแบบนี้ แต่การพัฒนาไมโครไบโอมเพื่อใช้ในการรักษาเฉพาะบุคคลโดยใช้เทคโนโลยี Nex Generation sequencing ก็มีรายงานการวิจัยออกมาแล้ว นับว่าเป็นประโยชน์ในวงการไมโครไบโอมในขณะนี้ค่ะ