เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 1792

2024-07-05 18:30

(กูรูเช็ค)สารสกัด SAFFRON อาหารเสริม ตัวช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

กูรูเช็ค

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อาการน่าเป็นห่วงสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน เพราะการปล่อยให้ร่างกายมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงนาน จะส่งผลต่อเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทำให้อวัยวะในร่างกายเสื่อมประสิทธิภาพในการทำงานลง คุณๆ หลายคนพอได้รู้แบบนี้แล้วก็อาจจะเริ่มกลัว และสงสัยว่าอาการแบบไหนคือมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแล้ว หรือถ้าคนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานแต่ติดกินหวานเป็นประจำจะเสี่ยงน้ำตาลในเลือดสูงได้หรือไม่?

ในปัจจุบัน ประเทศไทยยึดหลักเกณฑ์ตามสมาคมเบาหวานแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาในการจำแนกผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยการตรวจปริมาณน้ำตาลในเลือด หากผลการตรวจหลังงดอาหารและเครื่องดื่มที่ให้พลังงานอย่างน้อย 8 ชม. หากพบว่ามีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือดไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แสดงว่าระดับน้ำตาลในเลือดปกติ ทั้งนี้ระดับน้ำตาลในเลือดยังบ่งบอกถึงภาวะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้ด้วย (Prediabetes) ซึ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะเป็นเบาหวานสามารถพัฒนาการเกิด โรคเบาหวานประเภทที่ 2 คือเบาหวานที่เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอ นำไปสู่โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดในสมองในอนาคตได้ง่ายขึ้น

กูรูเช็คจึงอยากนำเสนอข้อมูล การเสริมด้วยอาหารเสริมโปรไบโอติกที่มีสารสกัดจากหญ้าฝรั่นสารสกัดที่เป็นตัวช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานในระยะเวลา 6 เดือน ที่สามารถปรับปรุงระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดในผู้ป่วย เบาหวานชนิดที่ 1 (DMT-1) และอาจเป็นส่วน เสริมที่มีคุณค่าในการเพิ่มการควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือดที่น่าสนใจ สำหรับผู้ประกอบการ

SAFFRON คืออะไร

Saffron หรือ หญ้าฝรั่น มีชื่อวิทยาศาสตร์ Crocus sativus L. เป็นเครื่องเทศสมุนไพรที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้มาตั้งแต่สมัยกรีกและโรมันโบราณ โดยหญ้าฝรั่นนิยมนำไปใช้ในเป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในตำรับยาหลายชนิด หญ้าฝรั่นนั้นมีสารประกอบจากพืชหลากหลายชนิด ซึ่งสิ่งเหล่านั้นทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่คอยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ มี โครซิน (Crocin) และ โครเซติน (Crocetin) ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหายที่เพิ่มขึ้น ปรับปรุงการอักเสบ ลดความอยากอาหารและช่วยลดน้ำหนัก  

ประโยชน์ด้านสุขภาพอื่น ๆ ของหญ้าฝรั่น
หญ้าฝรั่นนั้นยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางเช่น
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ : ลดคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันหลอดเลือดและหลอดเลือดอุดตัน
ปรับปรุงสายตา : หญ้าฝรั่นปรับปรุงสายตาในผู้ใหญ่ และป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระที่เชื่อมโยงกับ AMD
ปรับปรุงความจำ : หญ้าฝรั่นอาจช่วยปรับปรุงความรู้ ความเข้าใจในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์
ลดระดับน้ำตาลในเลือด : ลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไวของอินซูลิน จากการศึกษาในหลอดทดลองและหนูที่เป็นโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานประเภท 1 (DMT-1) เป็นโรคทางเมตาบอลิซึม ซึ่งส่วนใหญ่มีต้นกำเนิดเกิดจากเซลล์ตับอ่อนถูกทำลายจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป) เกิดจากการขาดการหลั่งอินซูลิน
ความเป็นไปได้ของหญ้าฝรั่นในการรักษาภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง หลอดเลือด และความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจ การศึกษาในปัจจุบันกล่าวว่า มีการทดลองทางคลินิกหลายครั้งใน หัวข้อนี้ซึ่งโพรไบโอติกแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าสนใจในการปรับปรุงสุขภาพการเผาผลาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลด น้ำหนักตัว ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร(HbA1c) และอินซูลินในผู้ที่มี DMT2

จุดมุ่งหมายของการศึกษาวิจัยแบบควบคุมด้วยยาหลอกแบบสุ่ม เพื่อประเมินประสิทธิภาพของสารสกัดจากโพรไบโอติกที่มี Crocus sativus L. ต่อการควบคุมการเผาผลาญในผู้ที่ มี DMT-1 โดยใช้ระบบการตรวจเพื่อติดตามระดับน้ำตาลกลูโคส

เนื่องจากหญ้าฝรั่นไม่ได้วางตลาดในรูปแบบอาหารเสริมเดี่ยวๆ มีแค่ใช้ร่วมกับโพรไบโอติกและพรีไบโอติกเท่านั้น นักวิจัยจึง ตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผสม LactoLevure ProbioMood ซึ่งจัดหาโดย Uni-Pharma Greek
การค้นพบของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าการให้อาหารเสริมในช่วง 6 เดือนช่วยเพิ่มการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ และลดระดับไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันชนิดหนึ่งในเลือด) ในบุคคลที่มี DMT-1 ที่ควบคุมอย่างดี การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าการรวมสารสกัด หญ้าฝรั่นเข้ากับแผนการรักษาผู้ป่วย DMT-1 อาจให้ประโยชน์เพิ่มเติมแก่การรักษาที่ได้มาตรฐาน รักษาและฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงการเผาผลาญโดยรวม

การศึกษาสารสกัดหญ้าฝรั่น

นักวิจัยได้คัดเลือกบุคคลที่มี DMT-1 จำนวน 61 คน (อายุเฉลี่ย 48 ปี เป็นผู้หญิง 26 คน) และสุ่มให้พวกเขาได้รับประทานอาหารเสริม ที่ประกอบด้วยโพรไบโอติก พรีไบโอติก แมกนีเซียม และสารสกัด Crocus sativus L. หรือ ยาหลอกเป็นเวลา 6 เดือน จากนั้นประเมินการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่การตรวจวัดพื้นฐาน และเมื่อสิ้นสุดการศึกษาด้วยระบบการตรวจเพื่อติดตามระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่อง และการวัดอื่นๆ ได้แก่ ระดับการออกกำลังกาย ตรวจระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) ไขมัน และความดันโลหิต

ประเมินความผู้ทดลองที่เป็นโรคเบาหวานผ่านแบบสอบถาม และประเมินองค์ประกอบของร่างกายด้วยความต้านทานไฟฟ้าชีวภาพ ข้อมูลผลลัพธ์เผยให้เห็นว่าเมื่อสิ้นสุดการรักษา ทั้งสองกลุ่มมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ของไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ในกลุ่มที่ทดลองหลังจากการรักษาเป็นเวลา 6 เดือน glycated hemoglobin ก็ลดลง อย่างมีนัยสำคัญเช่นเดียวกับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด  และพบว่าโรคเบาหวานดีขึ้นอย่างมี นัยสำคัญเฉพาะในกลุ่มที่ใช้สารสกัด ซึ่งบ่งชี้ถึงการรักษาโดยรวมของโรคเบาหวานในบุคคลเหล่านี้ แต่ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัย สำคัญระหว่างทั้งสองกลุ่ม

ผู้ทดลองรายงานว่าจุดแข็งสำคัญของการศึกษาของพวกเขาคือระยะเวลาการทำการทดสอบ 6 เดือน อย่างไรก็ตาม พวกเขาสังเกตว่าข้อมูลการติดตามกลูโคสที่รวบรวมไว้ สะท้อนถึงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเพียง 2 สัปดาห์ที่ทำการตรวจวัดพื้นฐานและสิ้นสุดการรักษา และสันนิษฐานว่าการรวบรวมข้อมูล ศึกษาข้อมูลเป็นระยะเวลานาน จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการทำความเข้าใจและยืนยันการศึกษาการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ที่แสดงให้เห็นด้วย HbA1c  นอกจากนี้ ตัวแปรสามารถควบคุมได้ดีขึ้นด้วยข้อมูลการบริโภคอาหารตลอดระยะเวลา 6 เดือน สามารถพิจารณาได้ว่าการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของฮีโมโกลบิน ไตรกลีเซอไรด์ ของคนเป็นโรคเบาหวานที่สังเกตได้ในกลุ่มทดลองนั้น สาเหตุหลักมาจากการรับประทานอาหารเสริม

การวิจัยในอนาคตควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพของหญ้าฝรั่นเป็นอาหารเสริม และการพัฒนาอาหารเสริมที่มีสัดส่วนของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพเหล่านี้ให้มากขึ้น และใช้เวลานานขึ้นในบคนที่มีภาวะ DMT-1 หรือ DMT-2 เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารสกัดหญ้าฝรั่นในผู้ป่วยเบาหวาน

กลไกของสารสำคัญหญ้าฝรั่น

หญ้าฝรั่นสามารถลดความดันโลหิต ซิสโตลิกได้ด้วยฤทธิ์ของหลอดเลือดและฤทธิ์ต้านการอักเสบ ตามที่ผู้เขียนรายงานการศึกษา ในปัจจุบันผลกระทบความดันโลหิตตกอาจเกิดจากการปิดกั้นช่องแคลเซียมและการโต้ตอบที่ เป็นไปได้กับไนตริกออกไซด์บุผนังหลอดเลือด และมีกลไกสำคัญ ดังนี้
• กลไกการลดไขมันที่เป็นไปได้อย่างหนึ่ง คือการลดปัจจัยการเกิดออกซิเดชันของไขมัน เช่น Malonaldehyde (MDA) โดยการเพิ่มการออกฤทธิ์และการแสดงออกของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันกาเกิด phosphorylation ของโปรตีนไคเนสบางชนิด และลดการผลิตสายพันธุ์ออกซิเจนที่เกิดปฏิกิริยา (ROS) (อ้างอิง)
• กลไกการควบคุมการแสดงออกของปัจจัยการเจริญเติบโต เช่น เนื้อร้าย เนื้องอก, อะดิโพเนกติน และไขมันหรือมวลไขมัน (อ้างอิง
• กลไกของการออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ของหญ้าฝรั่นในการควบคุมการเผาผลาญ คือลักษณะของสารต้านอนุมูลอิสระ หลักฐานในการศึกษา ทดลองแสดงให้เห็นว่า crocin สามารถลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้โดยการลด MDA และเพิ่มกลูตาไธโอน (อ้างอิง)

นอกจากนี้ หญ้าฝรั่นยังช่วยเพิ่มการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่เซลล์ ปรับปรุงการส่งสัญญาณอินซูลิน และเพิ่มตัวขนส่งกลูโคสประเภท 4 (GLUT-4) เข้าไปในเยื่อหุ้มเซลล์ได้ (อ้างอิง)

สรุป

ทั่วโลกมีสารสกัด มีเครื่องเทศหลายชนิด และมีเครื่องเทศจำนวนไม่น้อยที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในโรงงานรับผลิตอาหารเสริมยกตัวอย่าง เช่นพริกไทยดำ อบเชยเป็นต้น แต่ก็ยังมีเครื่องเทศอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์หลากหลาย และที่สำคัญได้รับขนานนามว่าเป็นเครื่องเทศที่แพงที่สุดในโลก นั่นก็คือ หญ้าฝรั่น (Saffron) ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น โดยหญ้าฝรั่น หรือ saffron สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แถมยังมีประโยชน์ที่หลากหลาย ทั้งในด้านต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงการลดความอยากอาหารและลดน้ำหนัก หญ้าฝรั่นจึงอาจถูกนำไปเป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารเสริมในอนาคตอีกเยอะ ด้วยเหตุนี้โรงงานอาหารเสริม หรือเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริม ควรให้ความสนใจนำสารสกัดนี้ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารเสริม

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ

เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

1792

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “