เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 13139

2023-06-23 11:00

(กูรูเช็ค) รีวิว 7 วิตามินซี ผิวขาว กระจ่างใส เลือกให้ดีและเห็นผล ต้องดูยังไงในสกินแคร์ เครื่องสำอาง!!

• 1. วิตามินซี รูปแบบ L-ASCORBIC ACID

หลายคนเรียกวิตามินซีสด 100 % เพราะเค้าไม่ได้ผ่านกรรมวิธีเปลี่ยนอนุพันธ์ใดๆนะคะ เค้าเป็นวิตามินซีชนิดแรก ให้นึกถึงต้นตระกูลแรกๆของเรา 
ข้อดี :
- L- ASCORBIC ACID มีความบริสุทธ์สูง ประสิทธิภาพสูง หลายๆงานวิจัยทดลองในความเข้มข้นต่ำก็เห็นผล แสดงว่า แค่ % น้อยๆก็เห็นผลแล้วในแง่ต้านอนุมูลอิสระ 
- ในวงการเครื่องสำอาง เป็นอนุพันธ์ที่นิยมใช้มากที่สุด
ข้อเสีย :
- เป็นวิตามินซีที่เอาใจยาก เสื่อมไวสุดๆ คือถ้าโดนแสงแดด  ความร้อน น้ำ  แป้ปๆก็เสื่อมแล้ว สีเค้าจะเปลี่ยนสี ออกแนวเหลือง-น้ำตาลทำให้หลายๆแบรนด์ทำสี vitamin c ออกแนวเหลืองๆหน่อย เพื่อกลบสี แบรนด์ไหนที่ใช้ ASCORBIC ACID แล้วทำสีใส หม่องซูฮกให้เลย แปลว่ามั่นใจว่าทำดี
- L- ASCORBIC ACID จะดูดซึมได้ดีที่ค่า PH เป็นกรด เลยต้องทำให้เซรั่มมีความเป็นกรด ตรงนี้อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แสบ ร้อนผิวได้ เช่น  CERAVE VITAMIN C SERUM  ในสูตรเค้าในวิตามินซี ASCORBIC ACID มาแค่ตัวเดียวนะคุณๆ ที่เหลือก็จะเป็นวิตามินสารสกัด 

- L- ASCORBIC ACID ดีก็จริง แต่ปัญหาเยอะ ดังนั้นเลยต้องแตกหน่อ กำเนิดลูกมาหลากหลาย เป็นการปรับปรุงให้มีความเสถียรขึ้น ที่เราเรียกว่า อนุพันธุ์วิตามินซี หรือก็คือสารที่กูรูเช็คจะพูดต่อจากนี้ไปนะ 

• 2. วิตามินซี รูปแบบ SODIUM ASCORBYL PHOSPHATE(SAP)

ข้อดี :
- มีความเสถียรกว่า ASCORBIC ACID แต่ ในเรื่องการดูดซึมมีรายงานจากบริษัทผู้ผลิต เค้าบอกว่า ตัว SAP มีการดูดซึมเข้าผิวได้น้อยว่า ASCORBIC ACID ซื่อแซ่บ แต่ไม่ค่อยแซ่บเท่าไหร่ 555 (อ้างอิง
- ผสมในตำรับครีมได้ง่าย ทำได้ง่ายกว่า

ข้อเสีย :
- ต้องอยู่ในสภาวะเป็นด่าง pH 7 เท่านั้น ต่างจากวิตามินซีชนิดอื่นๆ ไม่งั้นจะเสื่อมสภาพ อย่างแบรนด์ 111SKIN เป็นเคาท์เตอร์แบรนด์ที่ราคาแอบแรง ก็ใส่ SAPมานะ แถมใส่ผลัดเซลล์อย่าง CITRIC ACID มาด้วย คุณๆที่ระคายเคืองง่าย คิดว่าต้องระวังด้วยนะคะ

• 3. วิตามินซี รูปแบบ Magnesium Ascorbyl Phosphate(MAP)

คุณสมบัติเหมือน SAP ทุกอย่าง แต่ต่างกันตรงที่ประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระ ทำได้ดีกว่า SAP มีบทความจากบริษัทผู้ผลิตเค้าบอกว่า ช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิวได้เทียบเท่า ASCORBIC ACID เลย  แลดูประสิทธิภาพเค้าจะดีกว่า SAP เนอะ เช่น  the ordinary magnesium ascorbyl phosphate 10% ที่ช่วงนึงเป็นกระแสเลยค่ะ (อ้างอิง)

• 4. วิตามินซี รูปแบบ Ascorbyl-2- Glucoside(AA2G)

เป็นอนุพันธ์ที่เกิดจากน้ำตาลกลูโคลรวมตัวกับ L-Ascorbic Acid 
ข้อดี :
- มีความเสถียรพอสมควร 
- สามารถผสมในตำรับครีมที่มีน้ำได้
- ดูดซึมเข้าผิวได้ง่าย
ข้อเสีย :
- งานวิจัยยังมีงานทดสอบ Ascorbyl Glucoside ไม่ค่อยเยอะเท่าไร
- กูรูเช็คเห็นตามเว็บไซต์เค้าบอกว่าตัว AA2G อยู่บนผิวได้นาน ซึ่งหม่องไม่ชัวร์นะ เพราะตามงานวิจัย หม่องยังไม่พบข้อมูลนะคะ
แบรนด์ที่คุณๆน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาพอสมควร นั่นก็คือ the ordinary ascorbyl glucoside solution 12% หรือแบรนด์ DRUG STORE อย่าง OLAY LUMINOUS VITAMIN C SERUM ก็ใส่มานะคุณๆ

• 5. วิตามินซี รูปแบบ Ascorbyl Tetraisopalmitate

วิตามินซีชนิดละลายในน้ำมัน ในครีมมักใส่มาเป็นสาร ANTI-OXIDANT เพราะตามวิจัยเค้ามีผลการทดสอบว่าช่วยปกป้อง รอยแดงจากรังสี UV ได้ 50% เลยนะ ช่วยลดเม็ดสีผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสได้ จากคุณสมบัติน่าเอามาใส่ในครีมกันแดดเนาะ แต่กูรูเช็คก็ยังะถุไม่ค่อยเจอเลยคุณๆ (อ้างอิง
แต่ก็มีหลายแบรนด์เลยค่ะที่ใช้ Ascorbyl Tetraisopalmitate นะ เช่น Smooto Power C, JUV | Serum Brightening Vit C+ หรือ oriental princess natural intensive c serum ก็ใช้นะคุณๆ

• 6. วิตามินซี รูปแบบ Caprylyl 2-Glyceryl Ascorbate

เป็นวิตามินซีนวัตกรรมใหม่
ข้อดี : 
- เป็นสาร Antioxidant ยับยั้งเชื้อเกิดสิวได้ 
- ช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้นได้อีก
ข้อเสีย :
- น้อยแบรนด์มากที่ใส่อนุพันธุ์นี้มาเนอะ แทบไม่ค่อยเจอเลย 
แต่ที่กูรูเช็คเคยเห็น ก็เป็นแบรนด์ ZYRENE Bright C Serum คุณๆอาจจะไม่ค่อยคุ้นเนอะ เค้ามา 3 อนุพันธ์เลยนะ ทั้ง CAPRYLYL 2 GLYCERYL ASCORBATE , ASCORBYL PALMITATE และ ASCORBYL GLUCOSIDE

• 7. วิตามินซี รูปแบบ 3-O-Ethyl ascorbic acid

เป็นวิตามินซีตัวใหม่ล่าสุด ที่นักคิดค้นสูตรหลายๆคน บอกว่าเป็นวิตามินซีที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
ข้อดี :
- เป็นวิตามินซีที่มีความเสถียร ถึก ทนความร้อนได้ดี 
- มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดี ลดเม็ดสีผิว กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีเลยค่ะ  เดี๋ยวนี้ในครีมหลายๆตัวที่หม่องเห็นก็ใส่กันมาเยอะแล้วนะคะ 
และจากงานวิจัย 3-O-ETHYL ASCORBIC ACID (EAC) ได้ทำการทดลองแบบ HUMAN IN VIVO หรือผิวหนังของมนุษย์ พบว่า มีความสามารถในการยับยั้งกระบวนการ MELANOGENESIS ที่เป็นตัวการของผิวหมอง ผิวคล้ำ พร้อมทั้งยังมีรายงานอีกว่า EAC มีความสามารถในการซึมเข้าสู่ผิวมากกว่า ASCORBYL GLUCOSIDE (อ้างอิง)
ซึ่งแบรนด์ดังอย่าง GRAVICH TRIPLE VITAMIN C BOOSTER SERUM  หรือ L’OREAL PARIS GLYCOLIC-BRIGHT ก็ใส่มานะด้วยนะ

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ

เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

13139

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “