เวลาที่เล่นโซเชียลมีเดีย เรามักจะเห็นโฆษณาที่ขึ้นมาพร้อมกับคำว่า “Flash Sale”, “Promotion 11.11” หรือ “สินค้ามีจำนวนจำกัด” มันจะทำให้รู้สึกได้ว่าอยากรีบซื้อ ก่อนที่จะพลาดโอกาสไป สิ่งนั้นคือการตลาดแบบ “FOMO” ที่จะกระตุ้นให้ลูกค้าได้ตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว แล้วเราสามารถเอามาปรับใช้กับการตลาดสำหรับแบรนด์อาหารเสริมได้ง่าย ๆ ตามที่กูรูเช็คได้รวบรวมมาให้ตามนี้เลยค่ะ

FOMO คืออะไร

การตลาด FOMO หรือ Fear Of Missing Out เป็นการตลาดจิตวิทยาที่เล่นกับความรู้สึกของคน ให้เกิดความรู้สึกกลัวที่จะตกเทรนด์ จะพลาดประสบการณ์ดี ๆ จนต้องไล่ตามเทรนด์บนโลกออนไลน์ให้ทัน การตลาด FOMO เลยทำให้คนมักจะติดโทรศัพท์ มีการเข้าไปดูโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ เพราะไม่อยากพลาดโอกาสในการได้เป็นเจ้าของสินค้า

ทริคการทำการตลาด FOMO

1.กำหนดระยะเวลาและจำนวนการขาย
การมีเวลาและจำนวนสินค้าแสดงให้เห็นชัดเจนว่าโปรโมชันนี้จะจัดถึงเวลาไหน และมีสินค้าจำนวนกี่ชิ้น จะยิ่งกระตุ้นให้ลูกค้ารีบซื้อมากขึ้น เช่น “ลดราคา 25% ถึงเที่ยงคืน”, “ส่งฟรีถึงสามทุ่ม” หรือ “ของแถมเฉพาะ 50 ออเดอร์แรก” จะทำให้ลูกค้าเกิดการตั้งตารอและรีบซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว

2.สร้าง Sense of Urgency
Sense of Urgency เป็นเทคนิคที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเร่งด่วน เป็นการกระตุ้นอีกขั้นให้รีบซื้อสินค้าทันที แทนที่จะรอเลือกสินค้าจากแบรนด์อื่น ๆ รอเปรียบเทียบกัน ด้วยการส่งข้อความแจ้งเตือนบนแอปพลิเคชันต่าง ๆ ว่าสินค้าในตะกร้าเหลือน้อยแล้ว หรือโค้ดส่งฟรี พร้อมใช้งาน ทำให้ลูกค้าต้องรีบตัดสินใจซื้อทันที

3.โปรโมตบน Social Media เยอะ ๆ
การตลาดแบบ FOMO จะทำให้คนติดโซเชียลหนักมาก เพราะงั้นแบรนด์ก็ต้องใช้ช่องทางนี้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการทำคอนเทนต์อัปเดตโปรโมชัน อาหารเสริมที่น่าซื้อต่าง ๆ ของทางแบรนด์ ทำการแจ้งเตือนช่วยกระตุ้นให้คนรีบเข้ามาดูคอนเทนต์ที่ได้อัปเดต และรีบไปซื้ออาหารเสริมของแบรนด์ทันที
 

ข้อดีของการตลาด FOMO

1.กระตุ้นให้คนซื้อเร็วชึ้น (Create Urgency)
การตลาดแบบ FOMO ที่รวดเร็ว และเร่งด่วน ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความอยากซื้ออยากได้เป็นอย่างมาก ช่วยให้ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว

2.สร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness)
เมื่อจัดโปรโมชันต่าง ๆ จะทำให้ได้รับความสนใจจากผู้คน บนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และมีคนพูดถึงกันปากต่อปาก ทำให้แบรนด์เป็นกระแสได้ ซึ่งการตลาดแบบปากต่อปากนี้สามารถทำควบคู่ไปกับการตลาด FOMO ได้ โดยผู้ประกอบที่สนใจอ่านเพิ่มเติม สามารถคลิ๊กอ่านได้ที่บทความการตลาดแบบปากต่อปาก (WOM) 

3.เพิ่มยอดขาย
เพราะคนจะไม่อยากพลาดสินค้าของทางแบรนด์ที่กำลังสนใจ และรีบมาซื้อ ยอดขายอาหารเสริมของแบรนด์ก็จะได้เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ คนกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้งได้ในอนาคต
 

การตลาด FOMO หรือ Fear Of Missing Out เหมาะกับแบรนด์ที่อยากปิดการขายเร็ว ๆ และแบรนด์ที่ถนัดการใช้โซเชียลมีเดียในการอัปเดตและโปรโมทเป็นอย่างมาก แต่การตลาดแบบ FOMO ก็ไม่ควรที่จะใช้ทำบ่อยมากเกินไป มันจะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ว่าจริง ๆ ราคาที่จัดโปรโมชันมันเป็นราคาปกติของแบรนด์ เลยไม่ได้รีบซื้อ และลูกค้าก็อาจจะรู้สึกได้ว่าสินค้าไม่ได้มีความพิเศษมากจากเดิม และเชื่อถือแบรนด์น้อยลงได้
 
ทางทีมกูรูเช็คก็หวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาสินค้าของตัวเอง และใครที่สนใจ Consult สร้างแบรนด์ ฟรี!! ก็สามารถ แอด LINE : @gurucheckacademy หรือคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://line.me/R/ti/p/@gurucheckacademy