ในกระแสปัจจุบันที่คนหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม และรณรงค์ให้คนเลิกใช้พลาสติก ผู้ประกอบการทุกธุรกิจเลยคำนึงถึงปัญหาและผลเสียจากการใช้พลาสติกกันมากขึ้น และพยายามหาสิ่งที่สามารถใช้ทดแทนพลาสติกได้ การเลือกแพคเกจจิ้งสำหรับบรรจุอาหารเสริมเลยเป็นอีกหนึ่งเรื่อที่สำคัญ โดยผู้ประกอบการต้องใช้ข้อมูลอะไรประกอบการตัดสินใจบ้าง กูรูเช็ครวบรวมเกร็ดเล็กเกล็ดน้อยที่พอเป็นประโยชน์มาให้แล้ว

ความแตกต่างระหว่างแพกเกจจิ้งแบบพลาสติก vs กระดาษ

1.พลาสติก
- ทำมาจากพลาสติก
- ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
- ถุงพลาสติกใช้เวลาย่อยสลาย 10-20 ปี
- ขวดพลาสติกใช้เวลาย่อยสลาย 450 ปี
- นำไปรีไซเคิลได้น้อย โดยขยะจากพลาสติกประมาณ 200,000 ตัน ถูกรีไซเคิลได้ไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือถูกฝังหรือเล็ดลอยสู่ทะเล
- เกิดสารพิษปนเปื้อน ที่อันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
- การรีไซเคิลทำให้เกิดโลหะหนักกระจายในอากาศ และเป็นสาเหตุของก๊าซเรือนกระจก

2.กระดาษ
- ทำมาจากฟาง หญ้า ยูคาลิปตัส ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย มีพื้นที่สำหรับการผลิตโดยเฉพาะ
- ใช้เวลาย่อยสลาย 2-3 เดือน
- รีไซเคิลได้เกือบทั้งหมดของจำนวนที่ใช้งาน
- มีการควบคุมการผลิตของโรงงานกระดาษที่ไม่ก่อให้เกิดสารพิษ
 

แพคเกจจิ้งที่ควรเลือกใช้

อาหารเสริมหลายประเภทสามารถใช้แพคเกจจิ้งที่ทำจากกระดาษ และวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย อย่างเช่นอาหารเสริมรูปแบบเจลลี่และผง ที่สามารถใส่ในซองกระดาษแบบฉีกได้ และแพคเกจจิ้งรูปแบบกล่องสำหรับอาหารเสริมรูปแบบแผงแคปซูล ที่ก็นิยมใช้กล่องในรูปแบบกระดาษเหมือนกัน

แต่อาหารเสริมบางประเภทก็มีข้อจำกัดในเรื่องของวิธีการจัดเก็บ ที่ต้องคงคุณภาพของอาหารเสริมไว้อยู่ เช่น วิตามิน แคปซูล ที่ต้องใส่ในแพคเกจจิ้งที่ปิดมิดชิดเพราะไวต่อแสง ความร้อน ความชื้นต่าง ๆ เลยจำเป็นต้องบรรจุในซองแบบทึบ หรือขวดพลาสติก
 

สรุป

ระหว่างพลาสติกและกระดาษเองต่างมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป กระดาษจะย่อยสลายได้เร็วตามธรรมชาติ ส่วนพลาสติกที่สังเคราะห์มาจากสารเคมี แม้จะเอาไปรีไซเคิลแล้วก็ยังจะมีสารเคมีหลงเหลือไว้อยู่ อาหารเสริมบางประเภทเปลี่ยนแพคเกจจิ้งจากพลาสติกไปใช้กระดาษไม่ได้ 100% ด้วยข้อจำกัดที่ต้องรักษาคุณภาพของอาหารเสริม แต่ยังมีทางเลือกอื่น ๆ อีก เช่น ใช้ขวดพลาสติกแบบ PET, HDPE หรือ PP ที่นำไปรีไซเคิลได้ หรือการออกสินค้าในรูปแบบรีฟิล ที่จะช่วยลดปริมาณการใช้ขยะพลาสติกด้วย สำหรับผู้ประกอบการอาหารเสริมที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและ Sustainability ยังสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตลาดแบบ Sustainability ได้ค่ะ

ทางทีมกูรูเช็คก็หวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาสินค้าของตัวเอง และใครที่สนใจ Consult สร้างแบรนด์ ฟรี!! ก็สามารถ แอด LINE : @gurucheckacademy หรือคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://line.me/R/ti/p/@gurucheckacademy