บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลของคอลลาเจนตั้งแต่ความรู้พื้นฐานของคอลลาเจน ประเภทของคอลลาเจน คุณสมบัติของอาหารเสริมคอลลาเจนที่ดี ประโยชน์ของการกินคอลลาเจน สูตรล็อคคอลลาเจนบำรุงผิว คอลลาเจนกับคุณสมบัติลดสิวและผิวขาวใสจริงมั้ย? ไปจนถึงข้อควรระวังของผู้ประกอบการในการสร้างแบรนด์คอลลาเจน รีวิวคอลลาเจนยี่ห้อดังเพื่อเปรียบเทียบสูตร เปรียบเทียบแหล่งคอลลาเจนจากสัตว์ให้เหมาะกับธุรกิจ รวมโรงงานรับผลิตคอลลาเจน ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล กูรูเช็คหวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการหรือผู้สนใจธุรกิจอาหารเสริมคอลลาเจนนะคะ

คอลลาเจนคืออะไร?

คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดต่อกันเป็นสายยาว เป็นโปรตีนเส้นใย (fibrous protein) ที่พบมากที่สุดในร่างกาย เป็นส่วนประกอบราวร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัว หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดของร่างกาย คลิ๊กอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คอลลาเจน คืออะไร ควรกินไหม กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์?

คอลลาเจนมีลักษณะโครงสร้างที่เป็นระเบียบ ซึ่งสร้างจาก Fibroblasts Intracellularly มีลักษณะเป็นเกลียวของเส้นใย 3 เส้นพันกัน (Triple helix) ในหนึ่งเส้นใยประกอบไปด้วย กรดอะมิโนนับพันหน่วย และมีการสร้างพันธะโควาเลนระหว่างเส้นใย

ซึ่งลำดับกรดอะมิโนที่สำคัญของคอลลาเจน คือ Gly-X-Y

• - Glycine (Gly) จะเป็นตัวเริ่มต้นสำหรับกรดอะมิโน 3 หน่วยแรกเสมอ
• - X ส่วนใหญ่จะเป็น Proline (Pro) และ Y จะเป็น Hydroxylproline (Hyp)

ประเภทของคอลลาเจน

ปัจจุบันมีการจําแนกคอลลาเจนได้มากมายหลายชนิด ที่มีความแตกต่างกันตามองค์ประกอบของกรดอะมิโน ลําดับของกรดอะมิโนและคุณสมบัติหน้าที่ แต่กูรูเช็คจะมาพูดถึง 4 ชนิดหลักๆ ดังนี้

           1. คอลลาเจนประเภทที่ 1 (type I) พบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย พบที่ผิวหนัง และกระดูก 

          2. คอลลาเจนประเภทที่ 2 (type II) พบมากในกระดูกอ่อน ข้อต่อกระดูก กระดูกซี่โครง ส่วนประกอบภายในหู หลอดลมและหมอนรองกระดูกสันหลัง

          3. คอลลาเจนประเภทที่ 3 (type III) มักพบร่วมกับ คอลลาเจน type I แต่พบได้น้อยกว่า 10% มักแทรกซึมอยู่ในข้อต้อต่างๆ หลอดเลือด ผนังหลอดเลือด หลอดเลือดใหญ่ กล้ามเนื้อ และอวัยวะกล้ามเนื้อเรียบ (กระเพาะอาหาร, กระเพาะปัสสาวะ, ลำไส้, มดลูก และถุงน้ำดี)

          4. คอลลาเจนประเภทที่ 4 (type IV) พบใน basal lamina และ basement membrane ในส่วนของ epithelium-secreted layer เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบมากบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมันนอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือดอีกด้วย

คลิ๊กอ่านข้อมูลเพิ่มเติม รีวิวคอลลาเจน : collagen type 1, 2, 3 ต่างกันยังไง?

จำแนกประเภทของคอลลาเจนตามขนาดโมเลกุล จะแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้

          1. คอลลาเจนเปปไทด์ (Peptide) มีขนาดโมเลกุลใหญ่ที่สุดถึง 2,000 ดาลตัน เวลาที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ ก็จะถูกดูดซึมได้ช้า

          2. คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Tripeptide) มีขนาดของโมเลกุลไม่ควรเกินประมาณ 1,500 ดาลตัน ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ปานกลาง เป็นคอลลาเจนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนเรียงเชื่อมกัน 3 ตัว ด้วยขนาดโมเลกุลที่เล็กเพราะผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ (Hydrolyze) หรือก็คือการตัดสายคอลลาเจนให้สั้นลง เลยทำให้คอลลาเจนไตรเปปไทด์มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี ดูดซึมและย่อยได้ง่ายขึ้น

          3. คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Dipeptide) มีโมเลกุลมีขนาดเล็กมากๆ เพียง 200 ดาลตัน ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนปกติทั่วไป ซึ่งไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร จึงทำให้ถูกดูดซึมไปยังลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด และส่งผลต่ออวัยวะเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

**หมายเหตุ ดาลตัน (Dalton) คือ หน่วยในการเรียกขนาดของคอลลาเจน**

คุณสมบัติของอาหารเสริมคอลลาเจนที่ดี

1. วัตถุประสงค์การเลือกใช้คอลลาเจน

                - เพื่อบำรุงผิวและกระดูก เลือกคอลลาเจนประเภทที่ 1 (type I)

                - เพื่อบำรุงเอ็น ข้อต่อ เลือกคอลลาเจนประเภทที่ 2 (type II)

            2. เลือกคอลลาเจนโมเลกุลขนาดเล็ก เช่น เลือก dipeptide โมเลกุลเล็ก ดูดซึมได้ไว มากกว่าคอลลาเจน peptide และ tripeptide  คือสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการทำลายที่กระเพาะอาหาร

           3. มีการใช้นวัตกรรมมาล็อคโมเลกุลกรดอะมิโน เช่น มีการล็อคโมเลกุล Pro-Hyp หรือ Hyp-Gly เป็นนวัตกรรมที่ทำให้คอลลาเจนไปที่ผิวโดยตรง (Specific Target) เพราะการที่บอกว่าเป็นคอลลาเจนไดเปปไทด์เฉยๆ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ดูดซึมได้ดีก็จริง แต่ถ้าไม่มีการล็อคโมเลกุลตัวนี้ประสิทธิภาพที่จะจำเพาะไปที่ผิวของเราก็จะน้อยกว่าค่ะ

          4. ปริมาณคอลลาเจน เพื่อความคุ้มค่าและประสิทธิภาพสูงสุดในการทานคอลลาเจน จากหลายการศึกษาที่น่าเชื่อถือ ต้องทานคอลลาเจนวันละ 2,500-10,000 mg เพื่อให้ร่างกายเพียงพอนำไปสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้

          5. มีการตรวจหาและบอกปริมาณกรดอะมิโนในคอลลาเจนไว้ข้างกล่อง จุดนี้สำคัญมาก เพราะคอลลาเจนในอเมริกามีการแจ้งแล้ว แต่บ้านเรา อย. ยังไม่ได้บังคับ เพื่อให้มั่นใจว่าคอลลาเจนที่ทานเข้าไป มีส่วนผสมของกรดอะมิโนที่ร่างกายจะนำเอาไปใช้ในการสร้างคอลลาเจนได้จริง แสดงถึงความโปร่งใสและความใส่ใจต่อผู้บริโภคของแบรนด์นั้นๆด้วยคุณๆ

          6. ข้อมูลโภชนาการอื่นๆ การทานคอลลาเจนต้องทานอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน แนะนำเลือกคอลลาเจนสูตรที่ไม่ผสมน้ำตาล หรือไขมัน 0% ค่ะ เพื่อป้องกันพลังงานส่วนเกินที่ร่างกายได้รับเข้าไป

          7. ส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเสริมการทำงานของคอลลาเจน

                - มีวิตามินซีในสูตร จะช่วยเพิ่มการดูดซึมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน วิตามินซีที่แนะนำคือ L-ascorbic acid, Acerola cherry และ Citrus bioflavonoids

               - มี Antioxidant ในสูตร เมื่อเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิวแล้ว ก็ควรเพิ่มการป้องกันไม่ให้เสื่อมสลายด้วยนะคุณๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี กลูต้าไธโอน โคเอนไซม์คิวเทน และแอลฟาไลโปอิค แอซิด

ซึ่งข้อมูลคุณสมบัติที่ดีของคอลลาเจนนี้สามารถนำมาเป็นเทคนิค เลือกคอลลาเจนสำหรับผิว และเลือกคอลลาเจนสำหรับข้อเข่า แบบถูกต้องและครอบคลุมได้อีกด้วยค่ะ

ประโยชน์ของการกินคอลลาเจน

คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ช่วยยึดเหนี่ยว พยุงอวัยวะให้คงรูปอยู่ได้ ดังนั้นประโยชน์หลัก ๆ เมื่อเราทานคอลลาเจนก็เลยไปทางช่วยให้โครงสร้างหรืออวัยวะนั้นแข็งแรงขึ้นนั่นเองนะ เช่น

•  -   ช่วยเพิ่มให้ผิวยืดหยุ่น ลดความหยาบกร้านของผิว
•  -   ช่วยให้ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดดูจางลง
•  -   ช่วยลดการเปราะแตกของเล็บ
•  -   ช่วยเรื่องสุขภาพของข้อต่อ

ซึ่งถ้าตอนเด็กๆ อายุน้อยๆ ร่างกายเราก็มีการสร้างคอลาเจนมาทดแทนที่เสื่อมไปอยู่เสมอ แต่พออายุเพิ่มมากขึ้น ก็สร้างได้ลดลง อัตราการสังเคราะห์คอลลาเจนใต้ผิวหนังในชั้นหนังแท้จะลดลงถึง 1.5% ต่อปี ซึ่งจะนำไปสู่การหย่อนคล้อยของผิว จนเกิดริ้วรอย และจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งเราสามารถเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น โดยการกินอาหารที่มีคอลลาเจนเข้าไปหรือกินอาหารเสริมคอลลาเจนได้

 “คอลลาเจนจัดเป็นโปรตีน เมื่อเรากินเข้าไป จะถูกย่อยกลายเป็นกรดอะมิโนค่ะ ซึ่งอวัยวะที่ต้องการกรดอะมิโนไม่ได้มีแค่ที่ผิวนะคุณๆ (สมอง หลอดเลือด ข้อกระดูก และแทบทุกวัยวะก็ต้องการกรดอะมิโน ไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอค่ะ) การกินคอลลาเจนที่ไม่ได้ออกแบบมาดีพอ จึงมักไปซ่อมแซมส่วนอื่นของร่างกายก่อนที่จะมาที่ผิวเป็นลำดับสุดท้าย” เพื่อล็อกคอลลาเจนให้มุ่งเป้าไปยังผิวหนัง เสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว มีหลักการดังนี้

1. ควรเลือก Collagen type I เพราะเป็นคอลลาเจนที่พบได้มากที่สุดในผิว เพื่อให้ไป target ที่ผิวโดยตรง
2. เป็นคอลลาเจนขนาดเล็ก เพื่อจะได้ดูดซึมได้เร็ว คือ collagen dipeptide และ collagen tripeptide เป็นคอลลาเจนที่ดูดซึมได้เลยไม่ต้องผ่านการย่อยที่กระเพาะอาหารซะทั้งหมด
3. ควรมีนวัตกรรมล็อกการเรียงตัวของกรดอะมิโน เพื่อให้ออกฤทธิ์ที่ผิวได้ดี ซึ่งตรงนี้ยังเป็นงานวิจัยจากบริษัทผู้ผลิตนะคะ นั่นคือการเรียงตัวของคอลลาเจนควรมีการเรียงตัวของกรดอะมิโนที่ใกล้เคียงกับคอลลาเจนในชั้นผิวถ้าเป็น collagen tripeptide ควรมีการเรียงตัวเป็น Gly-Pro-Hyp หรือระบุว่าเป็น HACP แต่ถ้าเป็น collagen dipeptide ควรเป็นโครงสร้าง (Pro-Hyp) หรือ (Hyp-Gly) *ตรงนี้เจ้าของแบรนด์ต้องดู COA ถึงจะรู้นะคะ COA ต้องระบุไว้ ถ้าไม่ระบุ ให้คิดได้เลยว่ามีมีและควรเขียนเพิ่มไว้ที่หน้ากล่องเพื่อให้ลูกค้าเห็นด้วยค่ะ เพราะหลายๆ แบรนด์ละเลยเรื่องการเขียนที่หน้ากล่อง ทั้งที่วัตถุดิบเลือกมาได้ดี
4. มีปริมาณของคอลลาเจนมากพอที่จะออกฤทธิ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว คือไม่ต่ำกว่า 5,000 mg/วัน แต่ อย. กำหนดให้ไม่เกิน 10,000 mg/วัน (ทั้งนี้อยู่ที่เทคโนโลยีของ raw material ด้วยค่ะ)
5. ถ้าอยากให้ช่วยเรื่องผิวขาวใส ต้องเพิ่ม active ingredient ตัวอื่นมาช่วย เพราะคอลลาเจนเน้นลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว และควรเพิ่มวิตามินซีเข้ามาช่วยเรื่องกระตุ้นการสร้างและลดการแตกหักของคอลลาเจน

ความเข้าใจผิด!! กินคอลลาเจนผิวขาว

คอลลาเจนไม่ได้ช่วยเรื่องผิวขาวใส ในความเป็นจริงถ้าอาหารเสริมคอลลาเจนจะช่วยเรื่องขาวใสน่าจะมาจากสารออกฤทธิ์อื่นที่เป็นส่วนผสมมาในสูตรอาหารเสริมมากกว่า เช่น กลูต้าไธโอน วิตามินซี หรือสารสกัดอื่นๆ ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว ซึ่งถ้าไม่มีเลยหรือใส่มาน้อย สูตรนั้นก็อาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องขาวเลยก็ได้ค่ะ

คอลลาเจนรักษาสิวได้จริงไหม?

คอลลาเจนสามารถลดโอกาสการเกิดสิว ได้ หากมี Active Ingredients ตัวอื่นๆ เข้ามาช่วยค่ะ แต่ไม่สามารถรักษาสิวหรือลดสิวได้โดยตรง ซึ่งปกติแล้วคอลลาเจนมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับเซลล์ผิว ลดความหยาบกร้านของผิว ช่วยให้ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดดูจางลงค่ะ

• มี active ingredients มาช่วยเรื่องสิว

สูตรที่มีคอลลาเจนอย่างเดียวไม่พอที่จะช่วยเรื่องสิวได้นะคุณๆ อยากทานคอลลาเจนให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องผิวและเรื่องสิว กูรูเช็คแนะนำให้เลือกสูตรที่มีส่วนผสมอื่นๆที่มาช่วยเรื่องสิวได้ค่ะ เช่น

-    VITAMIN C: ลดการเกิดริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และยังมีส่วนช่วยให้คอลลาเจนดูดซึมได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

-     ROSE HIPS EXTRACT: ช่วยป้องกันการอักเสบของผิว

-     VITAMIN B3: ช่วยลดการอักเสบของสิว โดยการเป็นตัวไปยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว

-     POMEGRANATE EXTRACT: สารสกัดทับทิมสเปน อุดมไปด้วยสารสำคัญอย่าง PUNICALAGINS ที่พบในทับทิมเท่านั้น มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส

คลิ๊กอ่านข้อมูลเพิ่มเติม เช็กก่อนซื้อ! รีวิวคอลลาเจนลดสิว เลือกยังไงให้เห็นผล?

บริษัทผลิตวัตถุดิบคอลลาเจนที่มีคุณภาพ เพื่อผู้ประกอบการอาหารเสริมคอลลาเจน

ในปัจจุบัน คอลลาเจนกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และอาหารเสริมมากมาย ด้วยคุณสมบัติอันน่าทึ่งทำให้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่คอลลาเจนมีขนาดและประเภทที่หลากหลาย จึงทำให้มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุผลนี้ผู้ประกอบการจึงต้องทำความรู้จักคอลลาเจนเพื่อให้สินค้าของคุณๆ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและตรงตามความต้องของของผู้บริโภคมากที่สุดค่ะ คุณๆ อาจจะสงสัยกันว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าคอลลาเจนตัวไหนมีการล็อคกรดอะมิโนไว้บ้าง? หรือจะไปหามาจากไหน? วันนี้กูรูเช็คจะพาคุณๆ มารู้จักบริษัทผู้ผลิตคอลลาเจนชั้นนำ ในประเทศญี่ปุ่น และมีงานวิจัยรองรับค่ะ

• -   บริษัท Nitta Gelatin Inc. ซึ่ง Wellnex™ Collagen ก็เป็นคอลลาเจนที่ควบคุมการผลิตโดย Nitta Gelatin Inc. มีการเรียงตัวของกรดอะมิโน หรือล็อคกรดอะมิโนไว้แล้ว ซึ่งคุณๆอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาชื่อนี้กันบ้างแล้ว เพราะหลายๆแบรนด์ก็หยิบมาใช้กันเยอะแล้วเนอะ
• -   บริษัท Nippi Collagen NA Inc. Collagenomics™ คือ คอลลาเจนเปปไทด์รุ่นใหม่ ผลลัพธ์จากการวิจัยและพัฒนาของบริษัท Nippi Collagen NA Inc. จากประเทศญี่ปุ่น โดยควบคุมปริมาณและตัดแยกโครงสร้างโมเลกุลของคอลลาเจนโดยตรง ด้วยเทคนิคพิเศษ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังมีรีวิวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนที่มีการใช้คอลลาเจนจากบริษัทผลิตวัตถุดิบคอลลาเจนที่ได้มาตรฐานนี้มาให้ดูสูตรของแต่ละผลิตภัณฑ์กันค่ะ คลิ๊กอ่านข้อมูลเพิ่มเติม เจาะลึกสารสกัด “คอลลาเจน” เลือกยังไงให้เหมาะสมกับธุรกิจ

ข้อควรคำนึงถึงของผู้ประกอบการในการสร้างแบรนด์คอลลาเจน

• -   ทำให้คอลลาเจนขนาดเล็กสุดเพื่อให้ดูดซึมดีที่สุด ดีจริงมั้ย?

ตามรายงานของบริษัทผู้ผลิต Nitta Gelatin Inc. จะเห็นว่าการกินคอลลาเจนส่งผลให้ผิวชุ่มชื้น เพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง Fibroblast ในหนู ซึ่งเกิดจากคู่กรดอะมิโน Pro-Hyp และ Hyp-Gly นอกจากนี้ collagen dipeptide ที่เป็นโครงสร้าง Pro‑Hyp จะช่วยในเรื่องลดเลือนรอยแผลเป็นด้วย ดังนั้นจากรายงานที่ผ่านมาจะพบว่ากรดอะมิโนที่มาเรียงต่อกันเป็นคอลลาเจนที่จะช่วยเรื่องผิว ก็จะมี Glycine, Proline และอนุพันธ์ของกรดอะมิโน Proline นั่นคือ Hydroxyproline ถ้าเราจะเน้นเรื่องการตลาดเกี่ยวกับผิว คอลลาเจนของเราก็ควรมีกรดอะมิโนเหล่านี้เพื่อเข้าไปเสริมสร้างเป็นองค์ประกอบคอลลาเจนที่จะไป target ที่ผิวได้โดยตรง การทำให้คอลลาเจนขนาดเล็กที่สุดจนกลายเป็นกรดอะมิโนเดี่ยวๆ อาจไม่ได้มีประโยชน์ที่ผิว ที่บอกหลายคนกินคอลลาเจนแล้วไม่ได้ผลอาจเป็นเพราะคอลลาเจนนั้นไม่ไป target ที่ผิว

• -   อย่าโฟกัสแค่ที่ปริมาณคอลลาเจนอย่างเดียว ให้แข่งที่เทคโนโลยีด้วย

ยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่มีการใช้ เช่น CARTIDYSS^®  เป็น collagen type II ที่มี GAGs ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของข้อต่อ กระตุ้นให้มีการสังเคราะห์เซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่ง GAGs มักใช้เป็นสารหล่อลื่นในร่างกาย ช่วยเพิ่มระดับของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ ลดอาการปวดข้อ ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น หรือ White collagen ประกอบด้วย collagen peptide 8 ชนิด และมี Rho GTPase activating protein เป็นองค์ประกอบ เป็นคอลลาเจนตัวแรกที่มีงานวิจัยเรื่องการช่วยลดเม็ดสีผิว ทำให้ผิวขาวใสขึ้น ผ่าน activity ของ Rho GTPase ซึ่งจะมีกลไกช่วยยับยั้งการขนส่งเม็ดสี Melanin ขึ้นสู่ผิวหนังด้านบน ทำให้เม็ดสีดำ รอยดำที่ผิวเราเกิดน้อยลงได้

• -   คอลลาเจนไม่ใช่ active Hero ที่ยืนหนึ่งอีกต่อไป

มี Active compound ที่จะมาเสริมการทำงานของคอลลาเจนที่ส่งผลต่อ Telomere มีผลต่อการชะลอวัยได้ด้วย เช่น Telos 95^® และ TeloAge เป็นต้น

คลิ๊กอ่านข้อมูลเพิ่มเติม 3 ข้อผิดพลาดของผู้ประกอบการในการสร้างแบรนด์คอลลาเจน 

เปรียบเทียบ 4 คอลลาเจนจากสัตว์ เลือกยังไงให้เหมาะกับธุรกิจ?

• -   Fish Collagen (คอลลาเจนจากปลา) ส่วนใหญ่เป็น Collagen Type I แต่คอลลาเจนจากปลาในท้องตลาดมีอยู่ 2 แหล่งนะคุณๆ คือ Marine Collagen (คอลลาเจนจากปลาทะเล) และ Freshwater Fish collagen Collagen (คอลลาเจนจากปลาน้ำจืด) ซึ่งจุดเด่นคอลลาเจนจากปลาคือ โมเลกุลเล็ก ดูดซึมง่าย อุดมไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็น บำรุงผิวพรรณ เส้นผม เล็บ เสริมสร้างกระดูก ข้อต่อ
• -   Chicken Collagen (คอลลาเจนจากไก่) มักจะเห็นใน Collagen Type II สกัดมาจากกระดูก และผิวหนังของไก่ นิยมใช้เกี่ยวกับบำรุงกระดูกและไขข้อมากกว่านำมาใช้เพื่อผิวพรรณ ซึ่งจุดเด่นคอลลาเจนจากไก่คือ บำรุงข้อต่อ กระดูก หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ดูดซึมได้ดี
• -   Bovine Collagen (คอลลาเจนจากวัว) ซึ่งเป็น Collagen Type I และ Type III มีจุดเด่นที่บำรุงผิวพรรณ ผม เล็บ ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื่น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ดูดซึมได้ดี และก่อให้เกิดการแพ้ค่อนข้างต่ำ
• -   Porcine Collagen (คอลลาเจนจากหมู) ซึ่งเป็น Collagen Type I และ Type III มีจุดเด่นที่บำรุงผิวพรรณ ผม เล็บ ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื่น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ช่วยรักษาในเรื่องของกระดูกพรุน

ดังนั้นการเลือกประเภทของคอลลาเจนให้เหมาะกับเป้าหมายการออกฤทธิ์ไม่ว่าจะเป็นเน้นเรื่องของผิวพรรณ ชะลอการริ้วรอย หรือเน้นเรื่องข้อต่อต่างๆ และกระดูก ก็เลือกใช้ประเภทของคอลลาเจนให้ถูกแหล่งที่มา ที่สำคัญการเลือกแหล่งผลิตวัตถุดิบคอลลาเจนที่มีคุณภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน คลิ๊กอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเปรียบเทียบ 4 คอลลาเจนจากสัตว์ เลือกยังไงให้เหมาะกับธุรกิจ?

รวมโรงงานรับผลิตคอลลาเจน บำรุงผิว กระดูก ชื่อดัง

ข้อมูลสำหรับผู้ประกอบการอาหารเสริมคอลลาเจนเพื่อเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริมคอลลาเจน กูรูเช็คได้รวบรวมข้อมูลโรงงานผลิตคอลลาเจนที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล พร้อมทั้งสรุปข้อดีของแต่ละโรงงาน เรททุนขั้นต่ำของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จำนวนการสั่งผลิตอาหารเสริมขั้นต่ำ พร้อมช่องทางติดต่อ คลิ๊กอ่านข้อมูลเพิ่มเติม รวม 8 โรงงานรับผลิตคอลลาเจน บำรุงผิว กระดูก ชื่อดัง

สรุป

คอลลาเจนเป็นอีกหนึ่งอาหารเสริมที่ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องผิว ข้อต่อ และกระดูก แต่การจะผลิตอาหารเสริมประเภทนี้ผู้ประกอบการก็ต้องรู้จักตั้งแต่ความรู้พื้นฐานของคอลลาเจน ประเภทคอลลาเจน เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำมาใช้กับคอลลาเจน active ingredients ตัวอื่นๆ ที่ส่งเสริมการทำงานของคอลลาเจนและออกฤทธิ์ด้านอื่นๆ รวมถึงข้อควรระวังในการผลิตคอลลาเจน ไปจนถึงโรงงานที่ผลิตและบริษัทผู้ผลิตวัตถุดิบคอลลาเจนที่น่าเชื่อถือ บทความนี้จึงเป็นการรวมความรู้ทั้งหมดที่ผู้ประกอบการคอลลาเจนควรรู้

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ