สำหรับกลุ่มคนวัยทำงาน หรือคนที่ทำงานหนักและพักผ่อนไม่เพียงพอ ควรเลือกทานวิตามิน อาหารเสริมเพื่อบำรุงสุขภาพ เนื่องจากวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท และระบบเผาผลาญพลังงาน รวมถึงกระดูกที่เสียสมดุลไปจากการพักผ่อนไม่เพียงพอหรือการได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนจากการทานอาหารน้อยหรือทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เพิ่มพลังงาน ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และชะลอความเสื่อมของระบบต่าง ๆ จากการใช้งานหนัก

วิธีการเลือกวิตามิน อาหารเสริมสำหรับคนทํางานหนัก พักผ่อนน้อย

ปัจจุบันมีวิตามินที่เหมาะสำหรับคนทํางานหนักพักผ่อนน้อยให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีส่วนผสมที่ต่างกันไป ผู้บริโภคจึงควรเลือกสูตรที่เหมาะกับความต้องการด้านสุขภาพมากที่สุด โดยกูรูเช็คแนะนำดังนี้

1. อันดับแรกควรเลือกวิตามินหรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมเหมาะสำหรับการบำรุงเฉพาะด้าน
2. พิจารณาช่วงอายุร่วมด้วย วัยเรียนและวัยทำงานเน้นวิตามินบำรุงสมองและสายตา วัยสูงอายุเน้นวิตามินชะลอความเสื่อม
3. ถ้าไม่ได้กังวลสุขภาพด้านใดเป็นพิเศษ ต้องการบำรุงแบบรอบด้าน แนะนำให้เลือกวิตามินรวม (Multivitamins)
4. เลือกรูปแบบวิตามินได้ตามต้องการ โดยแบบเม็ดหรือแคปซูลจะสะดวกในการทานที่สุด 

และกลุ่มวัยทำงานเมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงหนึ่งที่มักตามมาก็คือเรื่องของกระดูกพรุน บาง และเปราะ ซึ่งเกิดจากปริมาณของมวลกระดูกลดลงจนทำให้กระดูกสูญเสียความแข็งแรง จึงเกิดการแตกหักง่ายแม้จะประสบอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยอย่างการสะดุดล้มก็ตาม

แล้วคุณๆ รู้มั๊ยว่าโรคกระดูกพรุน รวมถึงข้อเข่าเสื่อม คือภัยเงียบที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก พบมากในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน โดยคนไทยประมาณร้อยละ 25 หรือ 1 ใน 4 ไม่ทราบว่าโรคกระดูกพรุนรุนแรงที่ทำให้พิการหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะคะ

โรคกระดูกพรุน ฟังดูเหมือนจะเป็นโรคสำหรับคนแก่ แต่ความเป็นจริงแล้ว โรคกระดูกพรุนเริ่ม เกิดได้ตั้งแต่อายุขึ้นเลข 3 เลยก็มีนะคะ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน เพราะนั่งทำงาน รวมถึงอายุเริ่มมากขึ้นการสร้างมวลกระดูกก็จะลดลง โดยเฉพาะช่วงวัยทอง ที่ฮอร์โมนเพศบางตัวลดลง ส่งผลให้การสร้างมวลกระดูกแทบจะหยุดนิ่งหรือไม่สร้างมาทดแทนส่วนที่โดนทําลายไป เลยทําให้กระดูกได้รับความเสียหาย และมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา

โรคข้อเข่าเสื่อม ก็เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อเข่า ทั้งทางด้านรูปร่าง โครงสร้างการทำงานของกระดูกข้อต่อ และกระดูกบริเวณใกล้ข้อมีการสึกหรอและเสื่อมลงตามอายุเช่นกัน

รวม 6 กลุ่มอาหารบำรุงกระดูกและข้อ กินแล้วดีต่อโรคกระดูกพรุน

1. อาหารแคลเซียมสูง เสริมสร้างกระดูก
2. แมกนีเซียม เสริมความแข็งแรงของกระดูก
3. วิตามินดีช่วยเสริมการดูดซึมของแคลเซียม
4. กรดไขมันโอเมก้า-3 ลดการอักเสบ เสริมสร้างข้อต่อ
5. วิตามินเค ช่วยบำรุงกระดูก
6. แมงกานีส ทองแดงและซิงค์ ช่วยพัฒนากระดูกและลดการสูญเสียแคลเซียม

วันนี้กูรูเช็คเลยเลือกสารสกัดหรือเทคโนโลยีที่น่าสนใจในอาหารเสริมเรื่องข้อเข่า จากต่างประเทศในหมวดอาหารเสริมกลุ่มนี้ดูนะว่ามีตัวไหนน่าสนใจบ้าง เริ่มกันที่

• ตัวอย่างสารสกัดหรือเทคโนโลยีที่น่าสนใจในอาหารเสริมเรื่องกระดูกข้อเข่าในต่างประเทศ

1. MediQ7®-Vitamin K2 MK7 
บริษัท GF Fermentech ได้คิดค้น MediQ7®-Vitamin K2 MK7 เป็นวิตามินที่ควบคุมกระบวนการ METABOLISM ของแคลเซียม มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพกระดูก หัวใจและหลอดเลือด ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนโดยยับยั้งการสะสมของแคลเซียมในหลอดเลือด กระตุ้นให้แคลเซียมดูดซึมเข้าสู่กระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

2. Univestin™
Univestin™ เป็นส่วนประกอบธรรมชาติจากพืช จากผลการวิจัยของบริษัทผู้ผลิตพบว่าบรรเทาอาการไม่สบายข้อต่อ ภายในระยะเวลา 3-7 วัน Univestin™ ประกอบด้วยสารไบโอฟลาโวนอยด์เฉพาะ 2 ชนิดที่สกัดได้จากพืช โดยงานวิจัยพบว่ามีความปลอดภัยต่อมนุษย์

3. AmLexin™
AmLexin™ เป็นส่วนผสมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจากพืชของสารสกัดแก่นไม้ Acacia catechu และสารสกัดเปลือกราก Morus alba งานวิจัยจากบริษัทผู้ผลิตพบว่า AmLexin™ มีคุณสมบัติช่วยปกป้องกระดูกอ่อนจากการถูกทำลายในการทดลองทางคลินิก ซึ่งทั้ง Univestin™ และ AmLexin™ เป็นวัตถุดิบที่ได้มาจากบริษัทผู้ผลิต Lehvoss Nutrition ประเทศอังกฤษ

4. OptiMSM
OptiMSM จากบริษัท Balchem Human Nutrition and Health จาก USA มีคุณสมบัติช่วยรักษาข้อต่อและกระดูกให้แข็งแรง 
OptiMSM มีองค์ประกอบของซัลเฟอร์ที่ช่วยสนับสนุนและรักษาเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ ข้อต่อ กระดูกอ่อน หรือเอ็น การวิจัยอย่างกว้างขวางแสดงให้เห็นว่า OptiMSM ช่วยลดอาการปวดข้อ ปรับปรุงความแข็งและบวม และเพิ่มระยะการเคลื่อนไหวและการทำงานทางกายภาพของผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม การลดอาการปวดข้อ กลไกที่เป็นไปได้ของ OptiMSM เกิดจากความสามารถในการลดไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ลดความเสียหายจากออกซิเดชัน 

5. FruiteX-B
FruiteX-B เป็นวัตถุดิบที่เป็นมังสวิรัติซึ่งมีแร่ธาตุเชิงซ้อนที่เรียกว่า calcium fructoborate และมีลักษณะเหมือนกันกับสารประกอบเดียวกันที่พบในธรรมชาติในผลไม้ ผัก ถั่ว และพืชตระกูลถั่วบางชนิด นักวิทยาศาสตร์ที่บริษัท FutureCeuticals จาก USA ค้นพบว่า calcium fructoborate บริสุทธิ์มีผลกระทบอย่างมากต่อร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อข้อต่อของเรา ด้วยการวิจัยมากว่า 20 ปี FruiteX-B มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพทางคลินิกในเรื่องความสบายและความคล่องตัวของข้อต่อที่ดีขึ้น ได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกแล้วว่าออกฤทธิ์เร็วภายใน 7 วันและยาวนานถึง 90 วันในเรื่องความคล่องตัวของข้อต่อ

6. LocVita™  
LocVita™ ของ INNOBIO ใช้เทคโนโลยีไมโครเอ็นแคปซูเลชั่น ที่จดสิทธิบัตรของเราเพื่อแก้ปัญหาความไม่เสถียรของส่วนประกอบของวิตามิน สามารถละลายได้ทั้งในไขมันและในน้ำ และสะดวกต่อการใช้งานมากกว่าส่วนประกอบของวิตามินแบบเดิมซึ่งไวต่อแสง ความร้อน และค่า pH 
ปัจจุบันวิตามิน LocVita™ ใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคและอาหารเพื่อสุขภาพ LocVita® Vitamin D3 มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพกระดูกและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นมังสวิรัติ  จากด้านเทคนิค INNOBIO สามารถปรับแต่งผงไมโครแคปซูล เม็ดบีด และน้ำมันเพื่อตอบสนองความต้องในการใช้งานที่แตกต่างกัน ด้านคุณสมบัติก็ได้ยื่นขอการรับรองวีแกนในอิตาลีและสหราชอาณาจักร เพื่อรับรองความเป็นออร์แกนิกสำหรับผลิตภัณฑ์ และยื่นขอการรับรองออร์แกนิกของ USDA ของผลิตภัณฑ์วิตามิน D3 วีแกน LocVita® เพื่อเป็นโซลูชันแหล่งใหม่สำหรับตลาดวิตามิน D3 

7. MenaQ7® 
MenaQ7® เป็นวิตามิน K2 จากธรรมชาติที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วในรูปแบบ MK-7 เพียงชนิดเดียวสำหรับสุขภาพกระดูกและหัวใจ ด้วยผลการศึกษาทางคลินิกมากกว่า 22 ชิ้น ที่พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ MenaQ7® โมเลกุลวิตามิน K2 ที่บริสุทธิ์ที่สุดซึ่งได้มาจากกระบวนการหมักตามธรรมชาติและคิดค้นโดยโรงงานมาตฐานที่ผลิตในยุโรป ตามมาตรฐานของ Gnosis by Lesaffre

8. VeCollal® Type 2
VeCollal® Type 2 เป็นคอลลาเจนไทป์ 2 ในมนุษย์ที่เลียนแบบคอลลาเจนในกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ใช้ร่วมกับตัวกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพที่กำหนดเป้าหมายไปที่การแสดงออกทางพันธุกรรม ถือเป็นศักยภาพในการดูแลกระดูกและข้อต่อ
VeCollal Type 2 ถือเป็นสารใหม่ที่ช่วยป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมและโรคกระดูกพรุน โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมชาติในการฟื้นฟูสุขภาพข้อต่อและยังเป็นผลิตภัณฑ์มังสวิรัติ และปราศจากสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งต่างจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารข้อต่อยอดนิยมส่วนใหญ่ เช่น MSM กลูโคซามีน คอนโดรอิทิน หรือคอลลาเจนจากกระดูกอกไก่
VeCollal® Type 2 มีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ลดการอักเสบ  กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูกอ่อน และเพิ่มการหล่อลื่นข้อต่อ
นอกจากนี้ยังมี Vitamin C, Elderberry extract และ curcumin ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยธรรมชาติ

สรุป

ปัจจุบันตลาดอาหารเสริมบำรุงกระดูกและข้อ มีการเติบโตมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุนเพิ่มขึ้น  จึงทำให้อาหารเสริมสำหรับบำรุงกระดูกและข้อเข่า เข้ามามีบทบาทในตลาดเป็นอย่างมาก จนมีมูลค่าสูงที่สุดของตลาดอาหารเสริมเฉพาะด้านเลยนะ ดังนั้นการที่เราจะเจาะกลุ่มวัยทำงานด้วยอาหารเสริมบำรุงกระดูกและข้อ จึงเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการอาหารเสริมต่อไป

ทางทีมกูรูเช็คก็หวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาสินค้าของตัวเอง และใครที่สนใจ Consult สร้างแบรนด์ ฟรี!! ก็สามารถ แอด LINE : @gurucheckacademy หรือคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://line.me/R/ti/p/@gurucheckacademy