น้ำมันพืช กรดไขมันอิ่มตัวมีได้ตั้งแต่ 5% ไปจนถึง 90% ไม่นับรวมพวกน้ำมันจากอัลมอนด์ ข้าวโพด เชียบัตเตอร์ อื่นๆ ที่ไม่ค่อยเอามาทำน้ำมันที่จะมีไขมันน้อยมาก น้อยกว่า 5%
แล้วอีกเหตุผลที่ว่า ทำไมเราต้องทานน้ำมันพืชสลับกันหลายแบบ เพราะว่าน้ำมันพืช 1 ชนิดไม่สามารถให้ทั้งไขมันเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งร่างกายเราต้องการในสัดส่วนที่เหมาะสม 
อย่างแรก น้ำมันตัวฮิตติดบ้าน ที่หลายคนต้องมีคือ น้ำมันถั่วเหลือง ก็จะขอเอาน้ำมันถั่วเหลือง องุ่น มาพูดนะเพราะคนพูดถึงกันเยอะ และเค้ามีการันตีว่าเป็นยอดขายอันดับ 1 กลุ่มน้ำมันถั่วเหลือง จากผลสำรวจผู้บริโภค (จากนิตยสาร No.1 Marketeer)

1. องุ่น : น้ำมันถั่วเหลือง

น้ำมันถั่วแหลืองเนี่ยมีไขมันอิ่มตัวที่ 16% ซึ่งจัดว่าน้อย แปลว่าดี และมีจุดเกิดควันสูง ก็เป็นเรื่องดีนะ ถามว่าทำไมต้องสูงถึงดี คำตอบคือค่าสูง แปลว่าเกิดควันได้ยาก หมายถึงจะลดโอกาสเกิดสารก่อมะเร็งได้นะ
ทางองุ่นเอง ก็เคลมว่าน้ำมันเก็บได้ไม่เป็นไข ซึ่งถูกต้องค่ะ น้ำมันถั่วเหลืองจะไม่เป็นไขแม้อยู่ในตู้เย็น และ เหมาะทั้งผัด ทอด ผสมน้ำสลัด แต่ส่วนตัวมองว่าน้ำมันถั่วเหลืองไม่ใช่น้ำมันมาทำสลัดได้ดีเหมือนน้ำมันมะกอก แต่ถ้าใครชื่นชอบกลิ่นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะคะ

ความแตกต่างของน้ำมันถั่วเหลืองกับน้ำมันพืชชนิดอื่น : 
น้ำมันถั่วเหลือง จัดอยู่ในกลุ่ม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ได้ประโยชน์มากกว่าบริโภคไขมันอิ่มตัว เพราะลดระดับไขมันตัวร้ายในร่างกายได้ แต่ถ้าทานเพียวๆต่อเนื่อง ก็ลดระดับไขมันตัวดีในร่างกายเช่นกันนะ

วิธีทาน : แนะนำทานคู่กับน้ำมันรำข้าว หมายถึง นอกจากที่บ้านจะมีน้ำมันถั่วเหลืองแล้ว ก็ควรมีน้ำมันรำข้าวด้วย มาไว้ใช้สลับกันเพื่อให้เกิดความสมดุล เพราะน้ำมันถั่วเหลืองเอง ก็ยังไม่ใช่กลุ่มไขมันที่ดีที่สุด
ราคา : น้ำมันถั่วเหลืององุ่น ขวด 1 ลิตร อยู่ที่ 60 บาท

2. มรกต : น้ำมันปาล์ม

มรกต น้ำมันปาล์ม อีกน้ำมันยอดฮิต ที่คว้ารางวัลที่ 1 ในใจผู้บริโภคนาน 7 ปี น้องเค้ามีส่วนผสมของVITAMIN E, OMEGA 3 6 9 ทอดแล้วกรอบ รสไม่เปลี่ยน จุดเกิดควันสูงก็ทนความร้อนสูงได้นานเนอะ หืนช้า 

ความแตกต่างของน้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว(ทั้งสองเป็นประเภทเดียวกันนะคะ)กับน้ำมันพืชชนิดอื่น : 
จริงๆแล้วน้องเค้าเหมาะกับเอาไปใช้ทอดในอุตสาหกรรมหรือการประกอบอาหารที่ต้องใช้การทอดปริมาณมากหรือทอดนาน เพราะน้ำมันปาล์มมีส่วนของ ไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งไม่ดีต่อหัวใจ เสี่ยงเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด  ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงหรือไม่ทานประจำนะ

วิธีทาน : น้ำมันปาล์มเนี่ยคนนิยม เนื่องจากราคาถูก ก็แนะนำว่านานๆกินทีหรือใช้ไม่เกิน 5 ช้อนชาต่อวัน ต่อวันนะ ไม่ใช่ต่อมื้อก็จะดีที่สุดค่ะ เอาลงไปทอดนะ ไม่ใช่หมายถึงการกินเข้าปาก และที่ว่ามีกรดไขมันอิ่มตัวสูง คือเท่าไหร่ คำตอบคือ 50% มันอันดับสองแล้ว เพราะอันดับแรกคือ น้ำมันมะพร้าว ที่มีไขมันอิ่มตัว 92% ในขณะที่น้ำมันถั่วเหลือง ก็คือองุ่น มี 16% นะ
ราคา : น้ำมันปาล์ม มรกต ราคาขวด 1 ลิตร อยู่ที่ 64 บาท อันที่จริงก็ไม่ได้ถูกนะ

3. องุ่น : น้ำมันคาโนลา

อีกน้ำมันพืชตัวหนึ่งที่เป็นที่นิยม และมีประโยชน์ไม่แพ้ชนิดอื่นๆ อย่างน้ำมันจากต้นคาโนลา น้ำมันคาโนลา จุดเด่นคือ เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA) เพื่อนๆในกลุ่มเดียวกันคือ น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันรำข้าว 
น้ำมันคาโนลา ตราองุ่น ก็เป็นน้ำมันคาโนลา 100% มีจุดเกิดควันค่อนข้างสูง(แต่น้อยกว่าน้ำมันรำข้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันเมล็ดชา) หมายถึง ทนความร้อนได้ดีในการผัด ทอด มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 6 9 ทำน้ำสลัดได้

ความแตกต่างของน้ำมันคาโนลา น้ำมันมะกอก กับน้ำมันพืชชนิดอื่น : 
มีกรดไขมันอิ่มตัวน้อยที่สุด คือ 6% และอีกทั้งยังมีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากกว่า กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน คือจัดว่าดี เพราะเพิ่มระดับไขมันดีในร่างกาย และยังช่วยลดระดับไขมันตัวร้ายอย่าง แอลดีแอลคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ แต่ข้อเสียคือ แพง นั่นเองนะคะ

วิธีทาน : แนะนำทานสลับกับน้ำมันถั่วเหลือง เพราะจะได้กลุ่มไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนไปด้วยเพื่อความสมดุลแบบเดิม
ราคา : น้ำมันคาโนลา ขวด 1 ลิตรราคา 79 บาท ก็เพิ่มตังค์ขึ้นมาประมาณเกือบ 20 บาท

4. เนเชอเรล : น้ำมันคาโนลาผสมน้ำมันดอกทานตะวัน

ยี่ห้อเนเชอเรลก็แมสอยู่ของยี่ห้อน้ำมันพืช เพราะเหมือนทาน 1 ได้ถึง 2 ในสูตรเป็นน้ำมันคาโนลา 80% น้ำมันทานตะวัน 20% มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 6 9 ใช้ผัด ปิ้ง ย่าง ทำน้ำสลัด อบเบเกอรี่ได้เพราะกลิ่นค่อนข้างดี
มีรับรองคุณภาพฮาลาล และได้สัญลักษณ์ อาหารรักษ์หัวใจ หรือการรับรองจากมูลนิธิโรคหัวใจ หมายความว่าพอเห็นสัญษณ์นี้แปลว่ามั่นใจ ไว้ใจได้เลย ว่า ดีต่อหัวใจค่ะ

ความแตกต่างของน้ำมันคาโนลาผสมดอกทานตะวันกับน้ำมันพืชชนิดอื่น :
ก็มีสัดส่วนของ กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวทั้งเชิงซ้อนและเชิงเดี่ยว หมายความว่า จะปรับสมดุลไขมันในร่างกายได้เหมาะสมนั่นเอง ก็แน่นอนว่าจะดีและสะดวกมากขึ้นกว่าการเลือกทานน้ำมันคาโนลาเพียว แต่ระวังตรงที่น้ำมันทานตะวันปกติแล้วจะหืนง่าย ควรเก็บในที่ปิด

วิธีทาน : ถ้าไม่มั่นใจในการเก็บรักษา แนะนำให้ปรุงเสร็จแล้วทานเลย เช่น ทำขนม เค้ก หรือเมนูผัดต่างๆ เพราะทิ้งไว้นานเดี๋ยวกลิ่นหืน
ราคา : น้ำมันคาโนลาผสมน้ำมันทานตะวัน เนเชอเรล 1 ลิตร ราคา 109 บาท

5. เบอร์ทอลลี่ : น้ำมันมะกอก

มาถึงตาของน้ำมันมะกอก ยี่ห้อแมสที่เอามา ก็คือ Bertolli (เบอร์ทอลลี่) ไม่เอามาก็เหมือนไม่ได้พูดถึงน้ำมันมะกอก เพราะเค้ามีหลายสูตร ต่างกัน ที่กลิ่น สูตรวันนี้จะเป็นตัว EXTRA LIGHT สูตรที่มั่นใจว่าไม่มีกลิ่น ใช้ปรุงอาหาร ผัด ทอดได้ เพราะเค้าเคลมว่าทนความร้อนได้ 242 องศา ซึ่งต่างจากน้ำมันมะกอกทั่วไปที่จะทนความร้อนได้น้อยแค่ประมาณ 190 องศา ส่วนคุณๆ ที่อยากควบคุมปริมาณแคลอรี เค้ามีแบบ spray ฉีดลงกระทะได้เลยปริมาณจะน้อยลง

ความแตกต่างของน้ำมันมะกอกกับน้ำมันพืชชนิดอื่น :
น้ำมันมะกอก มีกรดไขมันอิ่มตัวน้อย คือ 14% แปลว่าไขมันดีสูง แต่ต้องเลือกยี่ห้อดีๆ เพราะยี่ห้ออื่นทั่วๆไปจะมีกลิ่นแรง จุดเกิดควันต่ำ ทำให้ไม่ค่อยเหมาะทำเมนูทอดน้ำมันท่วมไฟแรง จะเหมาะกับทำน้ำสลัดมากกว่า

วิธีทาน : แน่นอนว่า ถ้าไว้ทานติดบ้าน ไม่ควรมีขวดเดียวทานคู่กับน้ำมันรำข้าวหรือถั่วเหลืองจะดีกว่า เพราะจะได้รับในส่วนของ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนเข้าไปด้วย แต่แนะนำว่าถ้าจะทานเพียว ก็แนะนำทานไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน อันนี้ใช้ได้กับน้ำมันทุกตัวนะคะ
ราคา : น้ำมันมะกอกเบอร์ทอลลี่ 100% ขวด 1 ลิตร 450 บาท

6. คิง : น้ำมันรำข้าว

มาถึงน้ำมันตัวที่ง่าย จบ คือน้ำมันรำข้าว ยี่ห้อที่เอามาเป็นของน้ำมันรำข้าวคิง น้ำมันรำข้าว 100% เป็นสินค้าน้ำมันตัวแรกของไทย ที่ได้สัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” ที่พูดไปแล้วก่อนหน้านี้ แล้วด้วยความเป็นรำข้าว นอกจากมีวิตามินอี แล้วยังมี PHYTOSTEROL ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล มี OLISANOL สารต้านอนุมูลอิสระ พวกที่พูดถึงนี้จะเจอได้ในน้ำมันรำข้าว สามารถทำอาหาร ทอด ผัด น้ำสลัด อบ ได้สารพัด ไม่ใส่สารกันหืน

ความแตกต่างของน้ำมันรำข้าวกับน้ำมันพืชชนิดอื่น :
จะเข้าใจกันว่า น้ำมันรำข้าว เป็นน้ำมันคนรวย ราคาแพง แต่ความจริงถือว่าเป็นน้ำมันที่ดี ถ้าให้เลือกติดบ้าน 1 ขวด ก็จะแนะนำเป็นน้ำมันรำข้าว เพราะสารพัดประโยชน์ เหมาะสมกับการดูแลสุขภาพในราคาที่ไม่โอเวอร์เกินไป แต่ถ้าดีขั้นกว่าจากใจ ก็ควรมีน้ำมันถั่วเหลืองประกบด้วย ใช้สลับกันไป จะสบายใจที่สุดค่ะ พูดถึงน้ำมันรำข้าว มีไขมันอิ่มตัวตัวต่ำ คือ 18% และมีจุดเกิดควันสูงสุด ถ้าไม่นับรวมน้ำมันอะโวคาโด ที่ไม่ค่อยนิยมนัก ก็จัดว่า เหมาะกับการปรุงอาหาร ทอดน้ำมันท่วมในครัวเรือนจะดีมาก กลิ่นหอม

วิธีทาน : ทานคู่กับน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อเพิ่มไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนให้ร่างกายสมดุล ทานไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน 
ราคา : น้ำมันรำข้าวคิง ขวด 1 ลิตร ราคา 78 บาท ราคาน้ำมันรำข้าวต่างกันไปแต่ละยี่ห้อ

7. ภัทรพัฒน์ : น้ำมันเมล็ดชา

แนะนำน้ำมันพืชอีกตัวที่คิดว่าหลายๆคนอาจจะยังไม่เคยเห็น คือ น้ำมันเมล็ดชา ได้ยินคำว่าชา แล้วอาจคิดไปว่า มาจากใบชาหรอ จริงๆไม่ใช่นะ เค้ามาจากต้นชาน้ำมัน ในบ้านเราจะเจอใน ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน มูลนิธิชัยพัฒนา จริงๆเป็นที่รู้จักกันสักพักแล้ว คุณๆเค้าสามารถใช้ปรุงอาหารได้ดีค่ะ ผัด ทอด ราดน้ำสลัด หมักเนื้อ ได้ครบถ้วน เหมาะกับคนรักสุขภาพเลย 

ความแตกต่างของน้ำมันเมล็ดชากับน้ำมันพืชชนิดอื่น :
มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงที่สุด คือ มีส่วนน้ำมันดีที่สุดมากที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับตัวอื่น คือ 78% ข้อดีของไขมันเชิงเดี่ยวนี้ย้ำให้อีกที คือ ลดไขมันตัวร้าย เพิ่มไขมันดี เพราะฉนั้น ลดโอกาสเกิด คอเลสเตอรอลสูง หัวใจ หลอดเลือดได้ แถมยังใช้ปรุงอาหารใช้ความร้อนสูงได้ดี เพราะจุดเกิดควันสูง ที่ 252 องศา สูสีมากับน้ำมันรำข้าวเลย 

วิธีทาน :  ตัวนี้ทานตัวเดียวได้ค่ะ หรือถ้างบพอก็ทานคู่กับน้ำมันถั่วเหลืองร่วมด้วย สลับกัน ก็จะยิ่งมั่นใจค่ะ
ราคา : น้ำมันเมล็ดชา 250 มล. 200 บาท แพงที่สุดแล้วนะ

สรุปแบบเข้าใจง่ายมากที่สุดคือ แนะนำว่า ควรมีน้ำมันรำข้าวกับน้ำมันถั่วเหลืองติดบ้าน 2 ขวด ใช้สลับกัน  ส่วนสลับบ่อยแค่ไหน เนื่องจากวันนึงเราต้องได้รับ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนครบเนอะ แต่ที่ควรได้รับมากกว่าคือไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เพราะงั้น ถ้ากินเมนูใช้น้ำมัน 3 มื้อ ก็แนะนำว่า รำข้าว 2 ถั่วเหลือง 1 แต่ถ้าจะคำนวณง่ายๆ เพราะบางคนไม่ได้กินเมนูน้ำมันทุกมื้อ ก็ให้เป็นสัดส่วน ประมาณ 2 : 1 ใน 1 อาทิตย์ กูรูเช็คว่ากำลังดีนะ ทั้งในแง่สุขภาพและประหยัดงบ แล้วก็ใครที่รักสุขภาพมากแถมมีงบมากพอ ก็ลองซื้อน้ำมันเมล็ดชามาสลับกับน้ำมันถั่วเหลืองก็ได้นะ

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ