เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 1715

2025-03-26 11:00

(กูรูเช็ค)อัปเดตอาหารเสริมวิตามินซีมีกี่ฟอร์ม ต่างกันยังไง

วิตามินซี เป็นวิตามินที่จำเป็น ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตเองได้ มีบทบาทหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ วิตามินซีสามารถละลายน้ำได้พบในผักและผลไม้หลายชนิด เช่น ส้ม สตรอเบอร์รี่ ผลไม้กีวี พริกหยวก บรอกโคลี คะน้า และผักโขม 

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะแนะนำให้บริโภควิตามินซีจากอาหาร แต่หลายคนหันไปหาอาหารเสริมเพื่อให้ได้รับปริมาณวิตามินซีต่อวันที่เหมาะสม

แต่อาหารเสริมวิตามินซีตามท้องตลาดมีหลายฟอร์มในปัจจุบันที่ผลิตออกมาให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ วันนี้กูรูเช็ครวบรวมมาให้แล้วสำหรับฟอร์มของวิตามินซีฉบับอัพเดต ที่ผู้ประกอบการต้องรู้! ก่อนผลิตอาหารเสริมวิตามินซี โดยวิตามินซีจะแยกเป็นหมวด ดังนี้

1. วิตามินซีสำหรับคนเป็นสิว

มีอาหารเสริมวิตามินซีที่เหมาะสำหรับคนมีสิว โดยวิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและปรับปรุงสภาพผิว นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยแดงและจุดด่างดำหลังสิวได้
- ประโยชน์ของวิตามินซีต่อสิว  
ลดการอักเสบ: วิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นสารต้านการอักเสบ ช่วยลดการแดงและบวมของผิวหนังที่เกิดจากสิว
ปรับปรุงสภาพผิว: ช่วยปรับปรุงสภาพผิวและลดจุดด่างดำหลังสิว โดยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและลดการสร้างเม็ดสี
ลดรอยแดง: วิตามินซีช่วยลดรอยแดงและรอยดำหลังสิวได้โดยการยับยั้งการสร้างเมลานิน
- รูปแบบของอาหารเสริมวิตามินซี 
เม็ดหรือแคปซูล: วิตามินซีสามารถบริโภคได้ในรูปแบบเม็ดหรือแคปซูล โดยมักมีปริมาณตั้งแต่ 25-1,000 มก. ต่อเม็ด 

รูปแบบวิตามินซีสำหรับช่วยเรื่องสิว 
- ASCORBIC ACID เป็นอนุพันธ์ Active form หรือรูปแบบที่เราได้พบทั่วไปซึ่งไม่ว่าจะเป็น
วิตามินซีชนิดใดก็จะแตกตัวได้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ทำงานได้เป็น ascorbic acid มีค่า pH เป็นกรดช่วยต้านอนุมูลอิสระให้ผิว (อ้างอิง)

- ASCORBIC ACID WITH BIOFLAVONOIDS
รูปแบบวิตามินซีที่มีการเติมสาร flavonoids หรืออาจเป็นวิตามินซีจากผลไม้ที่มีวิตามินซีที่สูงและมีองค์ประกอบของ flavonoids ช่วยยับยั้งและชะลอกระบวนการ Oxidative Stress ที่ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นการอักเสบของร่างกาย โดยมีการรายงานว่าสามารถที่จะช่วยเพิ่มอัตราการดูดซึมของวิตามินซี นิยมนำมาทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (อ้างอิง)

- MINERAL ASCORBATE
เป็นวิตามินซีชนิดที่มีความเป็นกรดน้อยกว่าวิตามินซีรูปแบบ ascorbic acid เนื่องจากมีเกลือที่ทำหน้าที่เป็น buffered ให้กับกรด มีส่วนช่วยในการลดการระคายเคืองกระเพาะอาหารและเพิ่มการดูดซึมกับความคงตัวของ ascorbic acid 

การรับประทานร่วมกับสารอื่น
- ผลิตภัณฑ์ที่รวมวิตามินซีร่วมกับสารอื่นๆ: เช่น ซิงค์ (Zinc) และวิตามินอี (Vitamin E) ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบของผิว
- กินวิตามินซีคู่กับ กลูต้าไธโอน ช่วยผิวขาว กระจ่างใส
- กินวิตามินซีคู่กับ คอลลาเจน ช่วยให้ผิวสวย สุขภาพดี ให้ผิวดูยืดหยุ่น
- กินวิตามินซีคู่กับ ธาตุเหล็ก ช่วยเพิ่มการดูดซึม
- กินวิตามินซีคู่กับ วิตามินเอ และวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวพรรณ

2. วิตามินสำหรับช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน

วิตามิน c ทำหน้าที่เป็นโคแฟกเตอร์(Cofactor) ให้กับเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการป้องกันภูมิคุ้มกันโดยรวม มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการทำงานของทั้งระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด(Innate Immunity) และระบบภูมิคุ้มกันแบบปรับตัว(Adaptive Immunity)  ช่วยทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว โดยเฉพาะกลุ่มเซลล์ฟาโกไซต์อย่างนิวโทรฟิล ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเซลล์เหล่านี้จะเคลื่อนตัวเข้าไปยังบริเวณที่มีการติดเชื้อได้รวดเร็วขึ้น(Chemotaxis) และสามารถจับรวมถึงกลืนกินเชื้อโรคเพื่อนำไปทำลายได้ดียิ่งขึ้น(Phagocytosis) (อ้างอิง)
รูปแบบการบริโภค  วิตามินซีสามารถบริโภคได้ในหลายรูปแบบ เช่น:
- เม็ดหรือแคปซูล : มักมีปริมาณตั้งแต่ 25-1,000 มก. ต่อเม็ด
- แท็บเล็ตเคี้ยวได้ : เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลืนเม็ด, มักมีปริมาณตั้งแต่ 25-500 มก.
- เม็ดฟอง : ใช้ละลายในน้ำ, มักมีปริมาณ 500-1,000 มก.
- สารละลายฉีด : ใช้สำหรับการฉีดเข้าเส้นเลือดโดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการผลกระทบเร็ว
ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำ
- ปริมาณทั่วไป: สำหรับผู้ใหญ่, ปริมาณที่แนะนำคือ 75-90 มก. ต่อวัน 
- ปริมาณสำหรับภูมิคุ้มกัน : สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน, การใช้วิตามินซี 1,000-2,000 มก. ต่อวันสามารถช่วยลดระยะเวลาของโรคหวัดได้
ข้อควรระวัง
- ปรึกษาแพทย์ : ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้วิตามินซีในปริมาณสูง.
- การดูดซึม : วิตามินซีสามารถดูดซึมได้ดีในหลายรูปแบบ แต่ควรเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเอง
- ผลข้างเคียง : การบริโภควิตามินซีมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงหรือท้องเสียได้ แต่โดยทั่วไปแล้ววิตามินซีปลอดภัยเมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
การรับประทานร่วมกับสารอื่น
- รับประทานร่วมกับซิงค์ : การใช้วิตามินซีร่วมกับซิงค์สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี
- รับประทานร่วมกับวิตามินอื่นๆ : วิตามินซีสามารถใช้ร่วมกับวิตามินอื่นๆ เช่น วิตามิน D และซีลีเนียม เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ในการกำจัดเชื้อโรคและช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรคได้ดีขึ้น
พบว่าการเสริมวิตามินซีอย่างน้อย 250 mg/วัน ช่วยเพิ่ม NEUTROPHILS CHEMOTAXIS 20% โดยผลด้านนี้จะดีขึ้นถ้ากินคู่กับ VITAMIN E (อ้างอิง)
 
รูปแบบวิตามินซีสำหรับช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน
- แคลเซียมแอสคอร์เบต EC (Calcium Ascorbate EC): เป็นรูปแบบที่มีค่า pH เป็นกลาง ไม่ทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง และช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้ดีขึ้น  มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า Calcium Ascorbate EC มีความสามารถในการเพิ่มระดับวิตามินซีในเซลล์เม็ดเลือดขาว (leukocytes) ซึ่งสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน (อ้างอิง)

3. วิตามินซีสำหรับคนเป็นโรคกระเพาะ

การบริโภควิตามินซีในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ เนื่องจากวิตามินซีเป็นกรด (ascorbic acid) ซึ่งอาจกัดกระเพาะในบางคน
รูปแบบที่เหมาะสมสำหรับคนเป็นโรคกระเพาะ
วิตามินซีแบบเกลือแคลเซียมแอสคอร์เบต: เป็นรูปแบบที่มีค่า pH เป็นกลาง ไม่ทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง และช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้ดีขึ้น
วิตามินซีแบบชงดื่ม: สะดวกและง่ายต่อการบริโภค โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการกลืนเม็ด
ข้อควรระวัง
ปริมาณที่แนะนำ: ควรบริโภควิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 2,000 มก. ต่อวัน เพื่อลดผลข้างเคียง
การรับประทาน: ควรรับประทานวิตามินซีพร้อมหรือหลังอาหาร เพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะ.
ประโยชน์ต่อผู้เป็นโรคกระเพาะ
การลดการอักเสบ: วิตามินซีอาจช่วยลดการอักเสบในกระเพาะอาหาร แต่ผลกระทบอาจไม่มากนักในผู้ที่มีโรคกระเพาะเรื้อรัง
การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: วิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีโรคกระเพาะและต้องการความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน

  • คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารสามารถกินวิตามินซีได้มั้ย

คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือมีแผลในกระเพาะอาหารส่วนใหญ่จะไม่กล้าทานวิตามินตัวนี้ เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าวิตามินซีมีความเป็นกรด หลายคนจึงเกิดความเข้าใจว่าหากทานวิตามินซีแล้วจะระคายเคืองกระเพาะอาการ ทำให้แสบท้อง ในผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารจึงเลือกที่จะไม่ทานวิตามินซี ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะขาดวิตามินซี หรือภูมิคุ้มกันของร่างกายลดน้อยลง แต่ถ้ารับประทานในปริมาณที่มากเกินไปหรือมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ก็อาจเกิดนิ่วในไตได้เพราะวิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำและขับออกทางปัสสาวะในรูปออกซาเลตและกรดยูริก
แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาของโรคกระเพาะอาหารก็สามารถที่จะรับประทานวิตามินซีได้ เพราะในปัจจุบันนี้วิตามินซีมีให้เลือกซื้อในหลากหลายรูปแบบ เพราะวิตามินซีที่ดีไม่ได้มีแค่ Ascorbic acid เท่านั้น  

สำหรับวิตามินซีที่ตอบโจทย์สำหรับคนเป็นโรคกระเพาะมากที่สุดในท้องตลาดตอนนี้คือ วิตามินซีที่ไม่เป็นกรด หรือ วิตามินซีที่ทำการเติมเกลือแอสคอร์เบต (Mineral ascorbate) ที่อยู่ในรูปแบบ Calcium ascorbate และ Sodium ascorbate เนื่องจากมีเกลือที่ทำหน้าที่เป็น buffered ให้กับกรด มีส่วนช่วยในการลดการระคายเคืองกระเพาะอาหารและเพิ่มการดูดซึมกับความคงตัวของวิตามินซี ทำให้ผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเกิดจาก ascorbic acid ลดลงและยังช่วยเสริมแคลเซียมให้กับร่างกาย ทำให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหารและผู้ที่กังวลเกี่ยวกับการทาน Ascorbic acid เข้าไป สามารถทานวิตามินซีประเภทนี้ได้อย่างสบายใจ และได้รับคุณประโยชน์จากวิตามินซีอย่างครบถ้วน (อ้างอิง)
 
รูปแบบวิตามินซีสำหรับคนเป็นโรคกระเพาะ

- รูปแบบเกลือกรดแอสคอร์บิก (BUFFERED C)
วิตามินซีรูปแบบนี้จะมีความเป็นกรดลดลง ช่วยลดผลข้างเคียงจากการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ แต่ได้ผลไม่แตกต่างจากวิตามินซีธรรมดา ในกลุ่มนี้มีข้อระวังในการเลือกทานให้ดี เพราะมีการดูดซึมสารอื่นร่วมด้วย เช่น
• SODIUM ASCORBATE มี SODIUM 111 mg/1000 mg ระวังในคนเป็นโรคไตและความดันโลหิตสูง
• POTASSIUM ASCORBATE มี POTASSIUM 175 mg/1000 mg ระวังการทานในคนที่ไตวาย หรือทานยาบางชนิดที่อาจทำให้โพแทสเซียมสูงจนเป็นอันตราย
• MAGNESIUM ASCORBATE อาจทำให้ท้องเสีย ปวดมวนท้อง คลื่นไส้ได้
 
- รูปแบบ LIPOSOMAL VITAMIN C
เป็นวิตามินซีรูปแบบที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมได้ดีกว่าวิตามินซีธรรมดา(L-ASCORBIC ACID) และสามารถกินสองรูปแบบพร้อมกันได้โดยไม่แย่งกันดูดซึม ที่สำคัญคือดูดซึมดีมากถ้าดีกว่านี้ก็คือฉีดเข้าเส้นแล้วคุณๆ ด้วยความที่ดูดซึมได้ดี เขาเลยมีการเอามาใช้ในคนที่ต้องการ DOSE สูงๆ เช่น เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งนะ แต่ถึงแม้จะออกฤทธิ์ได้ดี แต่ก็ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงระคายเคืองกระเพาะอาหารด้วยนะ

• รวมรูปแบบอาหารเสริมวิตามินซี แต่ละฟอร์มต่างกันยังไง

- ASCORBIC ACID
เป็นอนุพันธ์ Active form หรือรูปแบบที่เราได้พบทั่วไปซึ่งไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีชนิดใดก็จะแตกตัวได้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ทำงานได้เป็น ascorbic acid มีค่า pH เป็นกรด มีความคงทนที่ต่ำ สามารถถูกทำลายได้ด้วยแสง ความร้อน ความชื้นและการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน สามารถละลายน้ำได้ดี มีสีที่ใสเคลียร์ หากนำมาใช้ในการรับประทานอาจเกิดการระคายเคืองกระเพาะ ซึ่ง Ascorbic acid สามารถผลิตเป็นผงที่มีความละเอียดที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม ยาฉีด (Injection) ทำเป็นเม็ดแบบ Tablet กับ Capsule และแป้งที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหาร (อ้างอิง)
 
- BUFFERED C
วิตามินซีจะมีความเป็นกรดลดลง ช่วยลดผลข้างเคียงจากการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ แต่ได้ผลไม่แตกต่างจากวิตามินซีธรรมดา ในกลุ่มนี้มีข้อระวังในการเลือกทานให้ดี เพราะมีการดูดซึมสารอื่นร่วมด้วย
เช่น SODIUM ASCORBATE มี SODIUM 111 mg/1000 mg ระวังในคนเป็นโรคไตและความดันโลหิตสูง
POTASSIUM ASCORBATE มี POTASSIUM 175 mg/1000 mg ระวังการทานในคนที่ไตวาย หรือทานยาบางชนิดที่อาจทำให้โพแทสเซียมสูงจนเป็นอันตราย MAGNESIUM ASCORBATE อาจทำให้ท้องเสีย ปวดมวนท้อง คลื่นไส้ได้
 
- ESTER-C
กลุ่มนี้จะมีส่วนผสมของ CALCIUM ASCORBATE + METABOLITES (dehydroascorbic acid, CA THREONATE) มี CALCIUM 90-110 mg/1000mg ระวังการกินในคนที่มีความเสี่ยงต่อแคลเซียมสูง หรือคนที่กินแคลเซียมเสริมอยู่แล้ว มีการศึกษาพบว่าช่วยในเรื่องการดูดซึมได้ดีขึ้น ส่วนงานวิจัยอื่น ๆ พบว่า ผลที่ได้ไม่แตกต่างจากวิตามินซีธรรมดา
 
- PUREWAY C
การศึกษายังไม่มาก พบว่าไม่แตกต่างจากวิตามินซีธรรมดา แต่เจอรายงานที่พบว่า PUREWAY C ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระอย่างมีนัยสำคัญ
 
- ASCORBYL PALMITATE
เป็นวิตามินซีที่อยู่ในรูปที่สามารถละลายในไข (fat-soluble) มันได้ ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำเป็นรูปแบบนี้เนื่องจากให้ความคงทนและปกป้องวิตามินซีให้คงฤทธิ์ของแอนตี้ออกซิแดนท์ โดยนิยมนำมาใช้ตั้งแต่เป็นสารเติมในอาหารเพื่อยืดอายุของน้ำมันพืชไปจนถึงนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้วยเช่นกัน (อ้างอิง)

- LIPOSOMAL VITAMIN C
เป็นรูปแบบที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมได้ดีกว่าวิตามินซีธรรมดา (L-ASCORBIC ACID) และสามารถกินสองรูปแบบพร้อมกันได้โดยไม่แย่งกันดูดซึม ที่สำคัญคือดูดซึมดีมาก  ด้วยความที่ดูดซึมได้ดี เลยมีการเอามาใช้ในคนที่ต้องการ DOSE สูงๆ เช่น เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่ถึงแม้จะออกฤทธิ์ได้ดี แต่ก็ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงระคายเคืองกระเพาะอาหารด้วยนะ (อ้างอิง)
 
- ASCORBIC ACID WITH BIOFLAVONOIDS
รูปแบบวิตามินซีที่มีการเติมสาร flavonoids หรืออาจเป็นวิตามินซีจากผลไม้ที่มีวิตามินซีที่สูงและมีองค์ประกอบของ flavonoids โดยมีการรายงานว่าสามารถที่จะช่วยเพิ่มอัตราการดูดซึมของวิตามินซี นิยมนำมาทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (อ้างอิง)
Bioflavonoids หรือ flavonoids เป็นสารประกอบ polyphenolic พบในพืช แต่รายงานผลการวิจัยยังไม่ชัดเจน เพราะมีทั้งข้อมูลที่บอกว่า Bioflavonoid ช่วยการดูดซึมวิตามินซีดีขึ้น 30-40% (อ้างอิง)
  
- MINERAL ASCORBATE
เป็นวิตามินซีชนิดที่มีความเป็นกรดน้อยกว่าวิตามินซีรูปแบบ ascorbic acid เนื่องจากมีเกลือที่ทำหน้าที่เป็น buffered ให้กับกรด มีส่วนช่วยในการลดการระคายเคืองกระเพาะอาหารและเพิ่มการดูดซึมกับความคงตัวของ ascorbic acid เช่นกัน ซึ่ง mineral ascorbate มีหลายตัวโดยที่นิยมใช้ในประเทศไทยได้แก่ Sodium ascorbate และ Calcium ascorbate โดยจะมีความแตกต่างกันที่จุดเด่นอย่างเช่น calcium ascorbate จะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมได้ดีขึ้น ดังนั้น ascorbic acid ที่ทำการเติมเกลือเหล่านี้จะพบว่านิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม อาหารและเครื่องดื่ม

• สรุปรูปแบบของผลิตภัณฑ์วิตามินซีต่างๆ ในท้องตลาด

1. Ascorbic acid มีค่า pH = 4  
2. Ascorbate salt เช่น Sodium ascorbate, Calcium ascorbate มีค่า pH = 7 เหมาะกับผู้บริโภคที่มีปัญหากระเพาะอาหารอักเสบง่าย   
3. Vitamin C plus Bioflavonoid มีรายงานวิจัยระบุอัตราส่วนของวิตามินซีกับสารไบโอฟลาโวนอยด์ที่ 4:1จะช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีได้ 
4. Vitamin C metabolite เช่น แอลทรีโอเนต แต่พบภายหลังว่าช่วยการดูดซึมวิตามินซีได้ในระดับที่ไม่แตกต่างจากการทานวิตามินซีแบบสังเคราะห์ทั่วไป 
5. Vitamin C Ester เช่น Ascorbyl palmitate นิยมใช้กับผลิตภัณฑ์ skin care เนื่องจากมีความคงตัวที่ดี 
6. Encapsulated vitamin C เช่น Lipid metabolite encapsulation มีรายงานว่าช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า
7. Liposomal vitamin C เทคโนโลยีลดขนาดอนุภาคของวิตามินซีด้วย Lipid bilayer เพื่อเพิ่มการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

• รูปแบบวิตามินซีที่น่าสนใจ

Nutrimin C™
เป็นผลิตภัณฑ์วิตามินซีนำเข้าของ 3C group ที่มี 3 องค์ประกอบคือ วิตามินซี bioflavonoid และ fatty acid ซึ่งเป็นการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีในการบรรจุวิตามินซีให้อยู่ในรูป Microencapsulation ด้วย Lipid metabolite มีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว และคงอยู่ในร่างกายได้สูงกว่าวิตามินซีทั่วไปถึง 233% และมีประโยชน์ในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้มากกว่าวิตามินซีรูปแบบอื่นถึง 2.5 เท่า สามารถนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่ม (อ้างอิง)
C-fresh™
 วิตามินซี C-fresh™ เป็นผลิตภัณฑ์วิตามินซีนำเข้าของ 3C group ซึ่งเป็นรูปแบบ powder และนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
C-Tab™ 
วิตามินซี C-Tab™ เป็นผลิตภัณฑ์วิตามินซีนำเข้าของ 3C group ซึ่งเป็นรูปแบบ Granule และนิยมนำมาใช้บรรจุลงแคปซูลและตอกเม็ดยาขนาด 1,000 มก.

• ตัวอย่าง Vitamin C 5 Formula Recommendation  
C-Youth สำหรับดูแลสุขภาพผิวพรรณ ลดความหมองคล้ำบนใบหน้า  
KEY BENEFITS  
- ช่วยปกป้องผิวจากรังสี Uv  
- ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสบนใบหน้า  
- ช่วยให้ผิวมีความกระชับ ชุ่มชื้น เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ 
C-Guard สำหรับดูแลสุขภาพปอดและหลอดเลือดที่ได้รับผลกระทบมาจากมลพิษฝุ่น  
KEY BENEFITS 
- ลดระดับสารอนุมูลอิสระในร่างกายสำหรับผู้ที่ต้องใช้ร่างกายหนัก 
- ยกระดับภูมิคุ้มกันต่อต้านโรคไข้หวัด  
- ลดระดับสาร Histamine ที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ 
 C - Pm2.5 สำหรับดูแลสุขภาพปอดและหลอดเลือดที่ได้รับผลกระทบมาจากมลพิษฝุ่น  
KEY BENEFITS 
- ดูแลสุขภาพหัวใจและปอดสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหามลพิษฝุ่น PM2.5  
- ดูแลสุขภาพหลอดเลือดสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ  
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพปอดในการหายใจดีขึ้นสูงสุดมากกว่า 4 เท่า 
 C-Relax สำหรับดุแลสุขภาพสมองและบรรเทาความเครียด 
KEY BENEFITS 
- ช่วยลดความเครียดและวิตกกังวลช่วยลดอาการใจสั่นจากความวิตกกังวล 
- ช่วยลดระดับฮอร์โมนเครียดคอร์ติซอล 
- ช่วยเพิ่มระดับสมาธิและความรู้สึกมั่นคงทางจิตใจ  
C-Joint สำหรับดูแลสุขภาพข้อเข่า  
KEY BENEFITS 
- ดูแลสุขภาพกระดูกในผู้ที่มีปัญหากระดูกพรุนโดยช่วยเพิ่มจำนวนเซลสร้างกระดูกมากขึ้น 2 เท่า โดยชะลอการสิ้นอายุขัยของเซลออกไป และเพิ่มเนื้อกระดูกมากขึ้นเกือบ 2 เท่า 
- ดูแลสุขภาพข้อต่อในผู้ที่มีปัญหา โรคเก๊าท์โดยช่วยลดระดับกรดยูริกที่เป็นสาเหตุของโรค 
- ดูแลสุขภาพข้อต่อในผู้ที่มีปัญหาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์โดยช่วยลดการอักเสบของข้อเพิ่มเติมจากการใช้ยารักษา

• ตัวอย่างผลิตภัณฑ์วิตามินซีที่น่าสนใจ

NOW Foods Vitamin C-1000 Buffered Complex 
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินซี ไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งสามารถช่วยรักษาเนื้อเยื่อให้แข็งแรงโดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นระหว่างการเผาผลาญปกติและการสัมผัสกับความเครียดจากสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์นี้ให้แคลเซียมแอสคอร์เบตซึ่งเป็นวิตามินซีในรูปแบบบัฟเฟอร์ที่สามารถใช้งานได้ทางชีวภาพและไม่เป็นกรด เสริมด้วยไบโอฟลาโวนอยด์ แบบ slow release ที่ค่อยๆปล่อยสารสำคัญ ซึ่งทำงานร่วมกับวิตามินซีได้ดีเยี่ยม

Blackmores Buffered C Sustained Release
แบล็คมอลวิตามินซี ประกอบด้วยวิตามิน ซี ไบโอฟลาโวนอยด์ เฮสเพอริดิน รูทิน และโรสฮิพ เป็นสูตรที่ค่อยๆ ปลดปล่อยวิตามิน ซี ในทางเดินอาหาร ทำให้มีการดูดซึมของวิตามินซีอยู่ตลอดเวลามากกว่า 8 ชั่วโมง เป็นสูตรที่ลดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร เสริมไบโอฟลาโวนอยด์ เพิ่มการดูดซึมวิตามิน ซี ใช้ในคนที่ขาดวิตามิน ซี เสริมวิตามิน ซี ในร่างกาย

Nature's Sunshine Vitamin C 1000 Time Release
Nature's Sunshine วิตามินซี 1000 ออกฤทธิ์ตามเวลาพร้อมไบโอฟลาโวนอยด์จะค่อยๆ ส่งมอบวิตามินซีตลอดทั้งวันเพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพระบบภูมิคุ้มกันและลดระยะเวลาของการเป็นหวัด รักษาสุขภาพระบบภูมิคุ้มกัน

ทางทีมกูรูเช็คก็หวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาสินค้าของตัวเอง และใครที่สนใจ Consult สร้างแบรนด์ ฟรี!! ก็สามารถ แอด LINE : @gurucheckacademy หรือคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://line.me/R/ti/p/@gurucheckacademy


เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

1715

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “