เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 1708

2025-03-27 18:00

(กูรูเช็ค)อัปเดตอาหารเสริมวิตามินดีมีกี่ฟอร์ม ต่างกันยังไง

วิตามินดี มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากอาหาร แถมยังช่วยรักษาระดับแร่ธาตุในเลือดให้เป็นปกติ ช่วยยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการสลายของมวลกระดูก เพราะฉะนั้นถ้าร่างกายเราขาดวิตามินดี ก็จะส่งผลให้การดูดซึมแคลเซียมในทางเดินอาหารลดลงและทำให้มวลกระดูกลดลงด้วย ที่สำคัญ RECEPTORS ในเซลล์ส่วนใหญ่มีวิตามินดีเป็นองค์ประกอบ วิตามินดีจึงมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน แต่อาหารเสริมวิตามินดีตามท้องตลาดมีหลายฟอร์มในปัจจุบันที่ผลิตออกมาให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ 

วันนี้กูรูเช็ครวบรวมมาให้แล้วสำหรับฟอร์มของวิตามินดีฉบับอัพเดต ที่ผู้ประกอบการต้องรู้! ก่อนผลิตอาหารเสริมวิตามินดี โดยวิตามินดีจะแยกเป็นแต่ละแบบฟอร์ม ดังนี้

รวมรูปแบบอาหารเสริมวิตามินดี แต่ละฟอร์มต่างกันยังไง

วิตามินดีที่ใช้ในการผลิตอาหารเสริมมี 3 รูปแบบหลัก แต่ละรูปแบบมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการทำงานรวมถึงข้อดีข้อเสีย และกลไกการทำงานในร่างกาย ที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. วิตามินดี2 (Ergocalciferol)

วิตามินดี2 หรือ ergocalciferol เป็นรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในอาหารเสริม โดยผลิตจากการฉายรังสีอัลตราไวโอเลตบนสาร ergosterol ที่พบในยีสต์ วิตามินดี2 เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่เป็นมังสวิรัติเนื่องจากไม่ได้มาจากสัตว์ แต่การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการเสริมวิตามินดี2 อาจส่งผลเชิงลบต่อระดับวิตามินดี3 ในเลือด

การวิเคราะห์แบบ meta-analysis พบว่าการเสริมวิตามินดี2 ทำให้ระดับ 25-hydroxyvitamin D3 (25(OH)D3) ในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม โดยลดลงประมาณ 13.51 nmol/L เมื่อเปรียบเทียบกับการเสริมวิตามินดี3 พบว่าวิตามินดี2 ทำให้ระดับ 25(OH)D รวมต่ำกว่ามาก โดยแตกต่างกันถึง 46.20 nmol/L ในการวัดระดับเมื่อสิ้นสุดการทดลอง (อ้างอิง)

จุดเด่นในการ active ของวิตามินดี2
วิตามินดี2 (Ergocalciferol): ต้องผ่านการเมตาบอไลซ์ทั้งที่ตับและไต ก่อนจะเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์ได้ มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับ 25(OH)D2 แต่ทำให้ระดับ 25(OH)D3 ลดลง

ข้อดีและข้อเสียของวิตามินดี2
ข้อดี:
- เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติเนื่องจากไม่ได้มาจากสัตว์
- ใช้ในการเสริมอาหารมานานและมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคกระดูกอ่อน (rickets)
ข้อเสีย:
- มีประสิทธิภาพน้อยกว่าวิตามินดี3 ในการเพิ่มระดับ 25(OH)D ในเลือด
- ทำให้ระดับ 25(OH)D3 ในเลือดลดลง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
- มีความเสถียรน้อยกว่าวิตามินดี3

เหมาะกับสูตรอาหารเสริมแบบไหน 
วิตามินดี 2 เหมาะสำหรับทำอาหารเสริมสำหรับผู้บริโภคที่เป็นมังสวิรัติ เนื่องจากวิตามินดี2 มาจากมีแหล่งที่มาจากพืช เช่น เชื้อราหรือบางชนิดของเห็ด นอกจากนี้ วิตามินดี 2 ยังใช้ในการรักษาภาวะที่เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินดี เช่น โรคกระดูกอ่อน (Rickets) และภาวะฮีโปพาราไทรอยด์ (Hypoparathyroidism) (อ้างอิง)

สูตรอาหารเสริมที่เหมาะสม
1. อาหารเสริมสำหรับมังสวิรัติ: วิตามินดี 2 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสัตว์
2. อาหารเสริมสำหรับโรคกระดูกอ่อนและภาวะฮีโปพาราไทรอยด์: วิตามินดี 2 ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสเฟต ซึ่งจำเป็นสำหรับการรักษาโรคเหล่านี้
3. อาหารเสริมสำหรับผู้ที่มีปัญหาการดูดซึม: วิตามินดี 2 สามารถใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมสารอาหารจากลำไส้หรือโรคตับ
ข้อควรพิจารณา
- ประสิทธิภาพ: วิตามินดี 2 อาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าวิตามินดี 3 ในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือด ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้งาน 
- การบริโภค: ควรบริโภควิตามินดี 2 พร้อมอาหารที่มีไขมันเพื่อเพิ่มการดูดซึม

ตัวอย่างอาหารเสริมที่ใช้วิตามินดี2

Freeda Vitamin D2 2000 IU เป็นวิตามินดี 2 สำหรับมังสวิรัติ  ให้วิตามินดี2 2,000 IU ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นที่ช่วยรักษาความแข็งแรงของกระดูกและการทำงานของภูมิคุ้มกัน เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงวิตามินดี 3 จากสัตว์ เสริมสร้างสุขภาพกระดูกและการดูดซึมแคลเซียม มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง แคลเซียมมีความจำเป็นต่อการรักษาความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม

Real Mushrooms Vitamin D2 Vegan D อาหารเสริมReal Mushrooms แคปซูลวิตามินดี 2 ดีกว่า D2 ที่หมักจากยีสต์ เพราะทำมาจากเห็ดออร์แกนิกที่เก็บเกี่ยวด้วยมือและสัมผัสกับแสง UV ซึ่งช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีได้อย่างมาก เป็นวิตามินดี2 1,000 IU จากเห็ดทั้งดอก เพื่อส่งเสริมพลังงาน อารมณ์ที่ดีขึ้น และสุขภาพกระดูกและกล้ามเนื้อ  อาหารเสริมวีแกนของเรายังได้รับการรับรองจาก USDA ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ปราศจากกลูเตน ไม่ใช่จีเอ็มโอ และเป็นวีแกนอีกด้วย

ผู้ประกอบการสามารถหาวิตามินดี2 ได้ที่

ผู้ประกอบการที่อยากเจาะกลุ่มลูกค้าที่อยากช่วยเรื่องการดูแลสุขภาพกระดูก และภูมิคุ้มกัน สามารถใชฟอร์มนี้ได้ โดยสามารถหาวิตามินดี2 ได้ที่

1. บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: จังหวัดสมุทรสาคร
ผลิตภัณฑ์: รับผลิตอาหารเสริมครบวงจร (OEM/ODM) มาตรฐานสากล
คุณสมบัติ: มีโรงงานที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GMP และ ISO22000 มีทีมงานผู้
เชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรมและวิศวกรรม

2. บริษัท โควิก เคทท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
ที่ตั้ง: จังหวัดปทุมธานี
ผลิตภัณฑ์: ผลิตอาหารเสริม, เครื่องสำอาง, และสารสกัดจากสมุนไพร
คุณสมบัติ: มีโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP และ HALAL มีความเชี่ยวชาญใน
การผลิตอาหารเสริมและเครื่องสำอาง 

3. บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด
ที่ตั้ง: จังหวัดสมุทรปราการ
ผลิตภัณฑ์: ผลิตยาสำเร็จรูปและแบ่งบรรจุผลิตภัณฑ์ยา
คุณสมบัติ: เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มีประสบการณ์
ยาวนานกว่า 119 

4. บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: จังหวัดสมุทรปราการ
ผลิตภัณฑ์: ผลิตยาสำเร็จรูป, ยา OTC, และอาหารเสริม
คุณสมบัติ: มีโรงงานที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GMP และมีความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (OEM)

2. วิตามินดี3 (Cholecalciferol)

วิตามินดี3 หรือ cholecalciferol เป็นรูปแบบที่ร่างกายมนุษย์สามารถสร้างได้เองเมื่อผิวหนังได้รับแสงแดด และเป็นรูปแบบที่นิยมใช้มากที่สุดในอาหารเสริมทั่วโลก วิตามินดี3 มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับ 25(OH)D ในเลือดได้ดีกว่าวิตามินดี2 โดยมีปัจจัยสำคัญคือโปรตีนจับวิตามินดี (Vitamin D binding protein, VDBP) มีความชอบต่อวิตามินดี3 มากกว่าวิตามินดี2 เนื่องจากความแตกต่างในโครงสร้างทางเคมี

การศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบวิตามินดีต่างๆ แสดงให้เห็นว่าวิตามินดี3 มีความเสถียรมากกว่าและมีประสิทธิภาพในการยกระดับวิตามินดีในเลือดดีกว่าวิตามินดี2 อย่างชัดเจน นอกจากนี้ การศึกษาในผู้สูงอายุพบว่าการเสริมวิตามินดี3 ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในกล้ามเนื้อแขนและขา (อ้างอิง)

จุดเด่นในการ active ของวิตามินดี3
วิตามินดี3 (Cholecalciferol): ต้องผ่านการเมตาบอไลซ์ทั้งที่ตับและไตเช่นเดียวกัน แต่มีความชอบต่อ VDBP มากกว่า ทำให้มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับ 25(OH)D ในเลือดดีกว่าวิตามินดี2

ข้อดีและข้อเสียของวิตามินดี3
ข้อดี:
- มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับ 25(OH)D ในเลือดดีกว่าวิตามินดี27
- VDBP มีความชอบต่อวิตามินดี3 มากกว่า ทำให้การขนส่งในร่างกายมีประสิทธิภาพมากกว่า
- มีความเสถียรมากกว่าวิตามินดี2 
- เป็นรูปแบบเดียวกับที่ร่างกายสร้างเมื่อผิวหนังได้รับแสงแดด
ข้อเสีย:
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติเนื่องจากมาจากสัตว์
- ยังต้องผ่านการเมตาบอไลซ์ทั้งที่ตับและไตก่อนออกฤทธิ์ ทำให้ออกฤทธิ์ช้ากว่าแคลซิเฟดิออล

เหมาะกับสูตรอาหารเสริมแบบไหน 
วิตามินดี3 เหมาะสำหรับสูตรอาหารเสริมที่ต้องการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดอย่างรวดเร็วและประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี เช่น ผู้สูงอายุ เด็กที่ไม่ได้รับวิตามินดีจากนมแม่ ผู้ที่มีผิวสีเข้ม ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมสารอาหารจากลำไส้

สูตรอาหารเสริมที่เหมาะสม
1. อาหารเสริมสำหรับกระดูกและกล้ามเนื้อ: วิตามินดี 3 ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสเฟต ซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างและรักษากระดูกที่แข็งแรง.
2. อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ: ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) และกระดูกอ่อน (Osteomalacia) ในผู้ใหญ่.
3. อาหารเสริมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี: เช่น ผู้ที่มีผิวสีเข้มหรือมีน้ำหนักเกิน
วิธีการใช้งาน
- การผสม: วิตามินดี 3 สามารถผสมกับไขมันหรือน้ำมันเพื่อเพิ่มการดูดซึมได้
- รูปแบบ: มักมาในรูปแบบเม็ด แคปซูล หรือน้ำยาบำรุง
- ปริมาณ: ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากการได้รับวิตามินดีมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะเป็นพิษได้
ข้อควรระวัง
- การดูดซึม: วิตามินดี 3 เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ดังนั้นควรบริโภคพร้อมอาหารที่มีไขมันเพื่อเพิ่มการดูดซึม
- ผลข้างเคียง: อาจมีอาการแพ้หรือส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรระมัดระวัง

ตัวอย่างอาหารเสริมที่ใช้ฟอร์มวิตามินดี3

NOW Vitamin D-3 High Potency 1000 IU  เป็นวิตามินดี-3 ชนิดแคปซูลที่มีความเข้มข้นสูงช่วยให้ฟันแข็งแรง ส่งเสริมสุขภาพของกล้ามเนื้อ แคปซูลวิตามินดี-3 จาก NOW® มอบวิตามินที่สำคัญนี้ในรูปแบบแคปซูลเหลวที่ดูดซึมได้สูง วิตามินดีมักได้รับจากอาหารหรือร่างกายสร้างขึ้นจากพลังงานอัลตราไวโอเลตของดวงอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม วิตามินดีไม่ได้มีมากในอาหาร เนื่องจากผู้คนจำนวนมากหลีกเลี่ยงแสงแดด การเสริมวิตามินดีจึงมีความจำเป็นมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายได้รับวิตามินดีในปริมาณที่เพียงพอ ผลิตภัณฑ์นี้อาจมีสีที่แตกต่างกันตามธรรมชาติ

Blackmores Vitamin D3 1000IU แต่ละแคปซูลได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อให้ได้รับวิตามินดี 3 ในปริมาณรายวัน ซึ่งมีความสําคัญต่อการรักษากระดูกให้แข็งแรงและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน. วิตามินดี 3 ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมส่งเสริมสุขภาพกระดูก. แคปซูลกลืนง่ายและสามารถรับประทานได้ทุกวันโดยเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรสุขภาพ และเหมาะสําหรับบุคคลที่ต้องการเสริมอาหารและสนับสนุนสุขภาพโดยรวม

ผู้ประกอบการสามารถหาวิตามินดี3 ได้ที่

1. บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: สมุทรสาคร
ผลิตภัณฑ์: รับผลิตอาหารเสริมครบวงจร (OEM/ODM) มาตรฐานสากล
คุณสมบัติ: มีโรงงานที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GMP และ ISO22000 มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรมและวิศวกรรม

2. บริษัท ควอลิตี้ พลัส อินเตอร์เทค จำกัด
ที่ตั้ง: ปทุมธนี
ผลิตภัณฑ์: ให้บริการสร้างแบรนด์วิตามินแบบ OEM รวมถึงวิตามินรวมและวิตามินอื่นๆ
คุณสมบัติ: มีเครื่องมือในการผลิตแบบครบวงจร สามารถผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของคุณ 

3. 3C GROUP
ที่ตั้ง: กรุงเทพมหานคร
ผลิตภัณฑ์: นำเข้าวัตถุดิบอาหารเสริมและให้บริการผลิตอาหารเสริม
คุณสมบัติ: มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีความสามารถระดับโลกเพื่อทำการวิจัยและคัดสรรวัตถุดิบ

4. Pharma Nord S.E.A.
ที่ตั้ง: กรุงเทพมหานคร
ผลิตภัณฑ์: ผลิตอาหารเสริมและสมุนไพรบำบัด โดยเน้นถึงปริมาณสัดส่วนของสารที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือด (Bioavailability) และความปลอดภัย
คุณสมบัติ: เป็นหนึ่งในผู้นำในด้านการผลิตอาหารเสริมในยุโรป และมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA ในประเทศไทย

3. แคลซิเฟดิออล (Calcifediol หรือ 25-hydroxyvitamin D3)

แคลซิเฟดิออลเป็นรูปแบบที่ผ่านการเมตาบอไลซ์ขั้นแรกที่ตับแล้ว จึงเป็นรูปแบบที่อยู่ใกล้กับรูปแบบที่ออกฤทธิ์ (active form) มากกว่าวิตามินดี2 และดี3 การศึกษาพบว่าแคลซิเฟดิออลมีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่ารูปแบบอื่น 

ในการศึกษาเปรียบเทียบพบว่าการให้แคลซิเฟดิออลขนาด 20 mcg/วัน สามารถเพิ่มระดับ 25(OH)D จาก 16.7 เป็น 50.6 ng/ml ซึ่งมากกว่าการให้วิตามินดี3 ขนาด 60 mcg/วัน (เพิ่มจาก 17.8 เป็น 30.1 ng/ml) แม้ว่าขนาดของแคลซิเฟดิออลจะน้อยกว่าถึง 3 เท่า นอกจากนี้ แคลซิเฟดิออลยังเพิ่มระดับ 1,25-dihydroxyvitamin D (1,25(OH)2D) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่วิตามินดี3 ไม่ได้เพิ่มระดับนี้อย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิง)

จุดเด่นในการ active ของแคลซิเฟดิออล
แคลซิเฟดิออล (25(OH)D3): เป็นรูปแบบที่ผ่านการเมตาบอไลซ์ที่ตับแล้ว จึงต้องผ่านการเมตาบอไลซ์เพียงขั้นตอนเดียวที่ไตเพื่อเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์ ทำให้ออกฤทธิ์ได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า

ข้อดีและข้อเสียของแคลซิเฟดิออล
ข้อดี:
- เพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินดี3
- ข้ามขั้นตอนการเมตาบอไลซ์ที่ตับ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการทำงานของตับ
- เพิ่มระดับ 1,25(OH)2D (รูปแบบที่ active) ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- มีประสิทธิภาพสูงแม้ใช้ในขนาดน้อยกว่าวิตามินดี3
ข้อเสีย:
- มีราคาแพงกว่าวิตามินดี2 และดี3
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติเช่นเดียวกับวิตามินดี3

เหมาะกับสูตรอาหารเสริมแบบไหน 
Calcifediol (25-hydroxyvitamin D3) เป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือด เหมาะสำหรับสูตรอาหารเสริมที่ต้องการผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมสารอาหารจากลำไส้หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดอย่างรวดเร็ว

สูตรอาหารเสริมที่เหมาะสม
1. อาหารเสริมสำหรับกระดูกและกล้ามเนื้อ: Calcifediol ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสเฟต ซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างและรักษากระดูกที่แข็งแรง
2. อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ: ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) และกระดูกอ่อน (Osteomalacia) ในผู้ใหญ่
3. อาหารเสริมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี: เช่น ผู้ที่มีผิวสีเข้มหรือมีน้ำหนักเกิน
4. อาหารเสริมสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว: Calcifediol มีการดูดซึมที่ดีและสามารถเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดได้เร็วกว่าวิตามินดี 3 (Cholecalciferol)

ข้อดีของ Calcifediol ในการทำสูตรอาหารเสริม
- การดูดซึม: มีการดูดซึมที่ดีจากลำไส้ โดยไม่ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในตับ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมหรือโรคตับ
- ประสิทธิภาพ: มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินดี 3 ในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือด โดยเฉพาะในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือมีปัญหาการดูดซึม
- ความปลอดภัย: เป็นรูปแบบที่ปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก FDA ในการรักษาภาวะที่เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินดี

ตัวอย่างอาหารเสริมที่ใช้ฟอร์มแคลซิเฟดิออล

Bio-Practica Calcifediol-D แคลซิเฟไดออลเป็นรูปแบบของวิตามินดีที่สามารถดูดซึมได้ทางชีวภาพ แคลซิเฟไดออลเสริมจะช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าถึง 3 เท่า สุขภาพระบบภูมิคุ้มกัน รักษาระดับวิตามินดีในร่างกาย เสริมการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากอาหาร ดูแลสุขภาพหัวใจ สุขภาพฟันให้แข็งแรง และการทำงานของกล้ามเนื้อ

Opti Active D ประกอบด้วยวิตามินดีรูปแบบที่ออกฤทธิ์ 10 ไมโครกรัม ซึ่งก็คือ แคลซิเฟไดออล โมโนไฮเดรต เพื่อการดูดซึมที่ดีเยี่ยม Opti Active D ช่วยรักษาสุขภาพและความแข็งแรงของกระดูก และสนับสนุนการสร้างแคลเซียมในกระดูก วิตามินดีช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมไม่เพียงพออาจทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนในภายหลังได้ Opti Active D ยังช่วยรักษาการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย

ผู้ประกอบการสามารถหาแคลซิเฟดิออลได้ที่

1. บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: จังหวัดสมุทรสาคร
ผลิตภัณฑ์: รับผลิตอาหารเสริมครบวงจร (OEM/ODM) มาตรฐานสากล
คุณสมบัติ: มีโรงงานที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GMP และ ISO22000 มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรมและวิศวกรรม

2. บริษัท ฟาร์มา นอร์ด เอส.อี.เอ. จำกัด
ที่ตั้ง: กรุงเทพมหานคร
ผลิตภัณฑ์: ผลิตอาหารเสริมและสมุนไพรบำบัด โดยเน้นถึงปริมาณสัดส่วนของสารที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือด (Bioavailability) และความปลอดภัย
คุณสมบัติ: เป็นหนึ่งในผู้นำในด้านการผลิตอาหารเสริมในยุโรป และมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA ในประเทศไทย

และผู้ประกอบการสามารถหาวิตามินดีทุกฟอร์ม จากบริษัทต่างประเทศ ได้ที่
1. DSM Nutritional Products (เดิมคือ Roche)  เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวิตามินดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีโรงงานหลายแห่งทั่วโลก
2. BASF  เป็นบริษัทเคมีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีส่วนร่วมในการผลิตวิตามินดี
3. Lonza  เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนานในการผลิตสารอาหารเสริม รวมถึงวิตามินดี
4. Zhejiang Garden Biochemical Co., Ltd.  เป็นบริษัทจากจีน ที่มีส่วนร่วมในการผลิตวิตามินดี

กลไกการเมตาบอไลซ์วิตามินดีในร่างกาย

กระบวนการเปลี่ยนแปลงวิตามินดีในร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับวิตามินดี2 หรือดี3 จะเกิดการเมตาบอไลซ์ที่ตับเป็น 25-hydroxyvitamin D (25(OH)D) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ระดับวิตามินดีในร่างกาย จากนั้น 25(OH)D จะถูกขนส่งไปที่ไตโดยจับกับโปรตีนจับวิตามินดี (VDBP) ในกระแสเลือด และที่ไต 25(OH)D จะถูกเปลี่ยนเป็น 1,25-dihydroxyvitamin D (1,25(OH)2D) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์
มีข้อสังเกตว่า VDBP มีความชอบต่อวิตามินดี3 มากกว่าวิตามินดี2 เนื่องจากความแตกต่างในโครงสร้างทางเคมี ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วิตามินดี3 มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดดีกว่าวิตามินดี2 (อ้างอิง)

ประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือด
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวิตามินดีแต่ละรูปแบบพบว่า แคลซิเฟดิออล (25(OH)D3) มีประสิทธิภาพมากที่สุด ตามด้วยวิตามินดี3 และวิตามินดี2 ตามลำดับ 
ในการศึกษาหนึ่งพบว่าการให้แคลซิเฟดิออลขนาด 20 mcg/วัน สามารถเพิ่มระดับ 25(OH)D จาก 16.7 เป็น 50.6 ng/ml ในขณะที่การให้วิตามินดี3 ขนาด 60 mcg/วัน (มากกว่า 3 เท่า) เพิ่มระดับจาก 17.8 เป็นเพียง 30.1 ng/ml 
นอกจากนี้ การเสริมแคลซิเฟดิออลยังเพิ่มระดับ 1,25(OH)2D (รูปแบบที่ active) จาก 56.5 เป็น 74.2 pg/ml อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่วิตามินดี3 ไม่ได้เพิ่มระดับนี้อย่างมีนัยสำคัญ (49.5 เป็น 53.0 pg/ml) แสดงให้เห็นว่าแคลซิเฟดิออลมีประสิทธิภาพสูงกว่าในการเพิ่มทั้งระดับ 25(OH)D และ 1,25(OH)2D (อ้างอิง)

การเลือกใช้วิตามินดี 2 หรือ ดี 3 แบบไหนดีกว่า?
อาหารเสริมวิตามินดี 2 และวิตามินดี 3 จะช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีของคุณเพื่อป้องกันหรือรักษาภาวะขาดวิตามิน เมื่อพิจารณาว่าคุณควรทานวิตามินดี 2 หรือดี 3 มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา จากการศึกษาพบว่าวิตามินดี 3 มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับวิตามินดี ดังนั้นแพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิตามินดี 3 เป็นวิธีการรักษาภาวะขาดวิตามินดี บางคนอาจชอบรับประทานวิตามินดี 2 มากกว่าเนื่องจากมาจากพืช ในขณะที่วิตามินดี 3 มาจากสัตว์ (อ้างอิง)

สรุป

วิตามินดีที่ใช้ในอาหารเสริมมี 3 รูปแบบหลัก คือ วิตามินดี2 (Ergocalciferol) วิตามินดี3 (Cholecalciferol) และแคลซิเฟดิออล (25-hydroxyvitamin D3) แต่ละรูปแบบมีข้อดีข้อเสียและประสิทธิภาพในการทำงานแตกต่างกัน โดยวิตามินดี3 มีประสิทธิภาพดีกว่าวิตามินดี2 ในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือด เนื่องจาก VDBP มีความชอบต่อวิตามินดี3 มากกว่า ในขณะที่แคลซิเฟดิออลมีประสิทธิภาพและความเร็วในการออกฤทธิ์มากกว่าทั้งวิตามินดี2 และดี3 เนื่องจากเป็นรูปแบบที่ผ่านการเมตาบอไลซ์ที่ตับแล้ว แต่ก็มีราคาสูงกว่า

ดังนั้นผู้ประกอบการควรเลือกทำสูตร อาหารเสริมวิตามินดีให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า การเลือกรูปแบบวิตามินดีที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะบุคคล ผู้ที่ต้องการผลเร็วหรือมีปัญหาการทำงานของตับอาจเลือกแคลซิเฟดิออล ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติอาจเลือกวิตามินดี2 และผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่ดีอาจเลือกวิตามินดี3

ทางทีมกูรูเช็คก็หวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาสินค้าของตัวเอง และใครที่สนใจ Consult สร้างแบรนด์ ฟรี!! ก็สามารถ แอด LINE : @gurucheckacademy หรือคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://line.me/R/ti/p/@gurucheckacademy

เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

1708

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “