เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 1804

2025-03-05 18:00

(กูรูเช็ค)รวมสารสกัดขมิ้น กาแฟ และพริก ในสูตรอาหารเสริม ดียังไง?

การที่ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของแบรนด์จะผลิตอาหารเสริมซักตัว ประสิทธิภาพของอาหารเสริมเริ่มต้นที่“วัตถุดิบ”หากวัตถุดิบอาหารเสริมไม่มีคุณภาพ หรือสารสักดที่นำมาใส่ไม่มีสรรพคุณตามที่เคลม  ย่อมส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่งจะสังเกตได้จากผลลัพธ์หลังจากรับประทาน อาจจะไม่เกิดผลอะไรหรือไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จนผู้รับประทานไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนี้ วันนี้กูรูเช็คมาแนะนำจากที่สำรวจเกี่ยวกับการใช้สารสกัดจากธรรมชาติร่วมกันของสารสกัดทั้ง 3 ตัว ถึงประสิทธิภาพ ประโยชน์ในการนำมาผลิตอาหารเสริม ได้แก่

ขมิ้นชัน (Curcumin) เป็นสมุนไพรจากธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมในการใช้เพื่อบำรุงและรักษาอาการป่วยในโรคบางชนิด เช่น โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน และปัญหาข้อเข่าเสื่อม ทั้งแบบสดและแบบบดเป็นผง เนื่องจากขมิ้นชันมีสารสำคัญ เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก

กาแฟ (Coffee) เป็นแหล่งของสารอาหารต่าง ๆ เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และกรดโฟลิก อีกทั้งยังอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ มากมาย แต่สารซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดของกาแฟ คงหนีไม่พ้น คาเฟอีน ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นสมองและระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กะเปร่าและป้องกันอาการเมื่อยล้า

พริก (Chili) อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม เหล็ก ใยอาหาร เป็นต้น ซึ่งเป็นเหล่าสารอาหารที่ดีต่อกลไกร่างกายพื้นฐานหลายอย่าง เช่น สารสื่อประสาทในสมอง ระบบหมุนเวียนโลหิต การสร้างกล้ามเนื้อ สารต้านอนุมูลอิสระ

• การศึกษาวิจัยประโยชน์ร่วมกันของสารสกัดขมิ้นชัน กาแฟ และพริก

สารสกัดขมิ้นชัน กาแฟ และพริกที่ผสมใหม่ซึ่งบรรจุอยู่ในสารพาไขมันที่มีโครงสร้างระดับนาโน มีแนวโน้มว่าจะช่วยต่อสู้กับการอักเสบได้

นักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทดลอง เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบที่ใช้ร่วมกันของสารสกัด และรวมถึงการนำไปประยุกต์ใช้ในตัวพาไขมันที่มีโครางสร้างนาโน(NLC)  เพื่อปรับปรุงเสถียรภาพและการดูดซึมทางชีวภาพในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
โดยได้ปรับอัตราส่วนของสารสกัดขมิ้นชัน กาแฟอาราบิกา และพริก ให้เหมาะสมที่สุดเพื่อเพิ่มปรบะสิทธิภาพางเภสัชวิทยา โดยอัตราส่วนที่เหมาะสมคือ 1:3:4 หรือ 1400 : 6000 : 8000 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร(ขมิ้น:กาแฟ:พริก) เพื่อเพิ่มการต้านอนุมูลอิสระสูงสุด
 

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า สารสกัดที่ผสมกันสามารถต้านอนุมูลอิสระสูงกว่า เมื่อเทียบกับใช้สารสกัดเดี่ยวในการเป็นสารต้านอนุมูลิสระ นักวิจัยเน้นย้ำว่าอาหารเสริมแบบผสมนี้ "ช่วยลดการหลั่งของไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบได้ อย่างมีประสิทธิภาพในความเข้มข้นที่ต่ำกว่าสารสกัดขมิ้นชันเพียงอย่างเดียว" อัตราส่วนที่ทดสอบ แล้วอาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าขมิ้นชันในขณะที่ยังคงรักษาผลต้านการอักเสบตามต้องการไว้ได้ (อ้างอิง)

นอกจากนี้ การศึกษานี้ยังได้สำรวจการห่อหุ้มการรวมสารสกัดที่ปรับให้เหมาะสมลงใน NLC เพื่อเพิ่ม เสถียรภาพและประสิทธิภาพ "สารสกัดที่รวมกันนี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสูตร NLC และยังแสดงให้เห็นความสามารถในการกระจาย ตัวอีกครั้งหลังขั้นตอนการทําให้แห้งแบบพ่นฝอย 
แคปไซซินในพริก ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความเสถียรมากกว่าเคอร์คูมินภายใต้สภาวะกดดันทั้งหมดใน สูตร NLC และที่น่าสนใจคือ เคอร์คูมินในสูตร NLC ช่วยเพิ่มความเสถียรภายใต้สภาวะเบส (อ้างอิง)

• การพัฒนาสารสกัดขมิ้นชัน กาแฟ และพริกในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าความท้าทายที่สำคัญในการใช้สารสกัดขมิ้นและพริกในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อสุขภาพคือความไม่เสถียรของสารสกัด เนื่องจากการสลายตัวด้วยแสงและออกซิเดชัน 
การศึกษาพบว่าการห่อหุ้มสารสกัดเหล่านี้ไว้ใน NLC ช่วยเพิ่มเสถียรภาพของสารสกัดภายใต้สภาวะ กดดันได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งกลไกการปล่อยเคอร์คูมินหลักจาก NLC สามารถให้ผลประโยชน์การปล่อยแบบควบคุมในสูตรอาหารเสริมได้ การวิจัยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสำรวจอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอาหารเสริมจากพืช สำหรับความผิดปกติของการเผาผลาญและการอักเสบ

• สารสกัดเหมาะสำหรับอาหารเสริมไหน

การวิจัยได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของการผสมสารสกัดทั้งขมิ้นชัน กาแฟ และพริกในฐานะกลยุทธ์การกำหนดสูตร สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) เช่น โรคอ้วน เบา หวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด

• การวิจัยในอนาคต

หลังจากการทดสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว การศึกษาได้สรุปว่า "สารสกัดผสมแสดงให้เห็นถึง ศักยภาพในการใช้เป็นอาหารเสริมทางโภชนาการที่ออกฤทธิ์คงที่และต่อเนื่องเพื่อต่อสู้กับอาการที่ เกี่ยวข้องกับการอักเสบ" อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยอมรับว่าในการตัดสินใจนี้ "มีข้อควรพิจารณาบางประการที่ควรทราบเกี่ยวกับการศึกษานี้"

ข้องกับการอักเสบ มะเร็ง และการเผาผลาญไขมันและคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นการผสมผสานที่เหมาะสมที่สุดของสารสกัดทั้ง 3 ชนิดนี้จะช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนการเผาผลาญหลักต่างๆ ได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังเสนอวิธีการรักษาที่สะดวก เช่น การใช้ยาหรืออาหารเสริมในอนาคตอีกด้วย

• ผู้ประกอบการสนใจผลิตโดยใช้สารสกัด 3 ตัวนี้ ต้องดูเรื่องอะไรบ้าง

1. แหล่งที่มาของสารสกัดควรได้รับการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหา ของสารประกอบออกฤทธิ์สำคัญ เช่น เคอร์คูมิน แคปไซซิน กรดคลอโรจีนิก และคาเฟอีน มีความสม่ำเสมอก่อนที่จะนำไปใช้ในการเตรียมสูตร”
2. อัตราส่วนของสารสกัดผสมได้รับการปรับเล็กน้อยเพื่อรับมือกับความท้าทายในทางปฏิบัติที่พบในระหว่างกระบวนการ กำหนดสูตร" ซึ่งปริมาณที่เหมาะสมจะต้องศึกษาเพิ่มเติม
3. จากการศึกษานักวิจัยได้ยืนยันว่าจะต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม และ "ขั้นตอนต่อไปจะเกี่ยวข้องกับการศึกษาในร่างกายมนุษย์ ของส่วนผสมนี้และสำรวจเทคนิคอื่นๆ เช่น การกระจายตัวของของแข็ง เพื่อปรับปรุง คุณสมบัติในการปล่อยและความเสถียรของสารสกัดแบบผสม

ดังนั้น ผู้ประกอบการที่จะทำธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ดูสุขภาพที่เกี่ยวกับการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ เช่นโรคอ้วน เบา หวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด จากสารสกัดจากขมิ้นชัน กาแฟ และพริก ที่ผสมรวมกันเพื่อเสริมฤทธิ์กันในสูตร ที่กูรูเช็คได้รวบรวมข้อมูลมาให้นี้เพื่อเป็นแนวทางธุรกิจอาหารเสริม ถือว่าน่าสนใจ ตอบโจทย์ทางเลือกสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเสริมที่มาจากธรรมชาติ และนำไปปรับใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์ต่อไปในอนาคต

ทางทีมกูรูเช็คก็หวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาสินค้าของตัวเอง และใครที่สนใจ Consult สร้างแบรนด์ ฟรี!! ก็สามารถ แอด LINE : @gurucheckacademy หรือคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://line.me/R/ti/p/@gurucheckacademy


เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

1804

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “