เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 4367

2024-05-14 12:00

(กูรูเช็ค) โพรไบโอติก สามารถลดการอักเสบ และลดการเกิดภาวะไขมันที่ตับได้!

สารบัญ

PROBIOTIC กับ การทำงานของตับ 

ตับ คือ อวัยวะที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นอวัยวะที่มีความเกี่ยวข้อง กับการทำงานในร่างกายหลายๆระบบมาก โดยเฉพาะเรื่องระบบทางเดินอาหาร การดูดซึมสารอาหาร และภูมิคุ้มกัน ช่วยปกป้องร่างกายของเรา จากเชื้อแบคทีเรียไม่ดี 
 

ซึ่งการทำงานของตับ ก็มีความเกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ในลำไส้ ถ้าชนิดของจุลินทรีย์ในลําไส้ มีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้เกิดโรคอ้วนและภาวะดื้ออินซูลิน หรือก็คือ ร่างกายเกิดการสะสมพลังงานจากการย่อยมากขึ้น ไขมันที่ร่างกายเก็บสะสมมีมากขึ้นทำให้เราเสี่ยงเป็น “โรคไขมันพอกตับโดยที่เราไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์” หรือมีชื่อว่า non-alcoholic fatty liver disease(NAFLD) และมักจะพบโรคนี้ร่วมกับโรคอ้วนและภาวะ metabolic syndrome อีกด้วย

รู้จักโพรไบโอติก ฉบับอัพเดตเพิ่มเติม คลิ๊ก

จุลินทรีย์หรือ Probiotic ในลําไส้ที่เสียสมดุล 

Probiotic ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการเกิด NAFLD และภาวะตับอักเสบ (Non-alcoholic steatohepatitis, NASH) จุลินทรีย์ในลําไส้ที่เสียสมดุลไปทําให้เกิด การรั่วของผนังลําไส้(gut leakiness) ส่งผลให้แบคทีเรียในลําไส้เล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด และเกิด ภาวะ metabolic endotoxemia ตามมาด้วยการอักเสบที่ตับในที่สุด

ดังนั้น การใช้ Probiotics เพื่อปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลําไส้ ก็เป็นทางเลือกนึงในการรักษา (NAFLD) และ (NASH) ให้ดีขึ้นได้นะคุณๆ

วิธีเลือกอาหารเสริม Probiotic ให้เห็นผลเรื่องปรับสมดุลลำไส้

เลือกอาหารเสริมที่สูตรมี Probiotic จำพวก Lactobacillus spp. เป็นแบคทีเรียที่เกาะติดลำไส้ และ Bifidobacterium spp. เป็นแบคทีเรียที่ทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร โพรไบโอติกทั้ง 2 ชนิด เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ของมนุษย์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเป็นแบคทีเรียที่มีคุณสมบัติทนต่อกรด สามารถจับที่บริเวณผิวของเยื่อบุลำไส้ แล้วผลิตสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อก่อโรคชนิดอื่นๆได้

และ Probiotic เค้าไม่ได้มีแค่ 2 ชนิดนี้เท่านั้น ยังมีชนิดอื่นๆที่มีประโยชน์กับระบบอื่นๆในร่างกาย คุณๆก็สามารถศึกษา ก่อนเลือกทานอาหารเสริมโพรไบโอติกให้ตรงกับความต้องการของร่างกาย ได้นะค่ะ

 

ซึ่งปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ที่ควรเลือกทาน จุลินทรีย์ต่อซองไม่ควรต่ำกว่า 1,000 ล้าน CFU (Colony Forming Unit) และถ้าแบรนด์ไหนมีเทคโนโลยีที่มาช่วยเป็นแคปซูล ป้องกันโปรไบโอติกจากกรดในกระเพาะอาหารด้วย ถือว่าดีเลยคุณๆ

เช็คข้อดี ข้อเสียของอาหารเสริมโพรไบโอติกแต่ละแบบยอดฮิตในตลาด คลิ๊ก 

 

สรุป

อาหารเสริมโพรไบโอติกในปัจจุบันมีให้คุณๆเลือกเยอะมาก ทำให้คุณๆที่เป็นผู้บริโภคควรรู้วิธีที่จะเลือกทานอาหารเสริมให้เหมาะกับตัวเอง เพื่อไม่ให้เป็นการลงทุนกับสุขภาพที่เสียเงินเปล่า หรืออาจส่งผลกระทบกับร่างกายของเรา หรือคุณที่เราซื้ออาหารเสริมไปให้ 
อย่างคุณๆที่ต้องการทานอาหารเสริมโปรไบโอติก เพื่อช่วยเรื่องของลำไส้และการทำงานของตับ ก็ควรเลือกโพรไบโอติกอย่าง Lactobacillus spp. และ Bifidobacterium spp. แล้วก็อย่าลืมเช็คเรื่องประเภทของอาหารเสริมโพรไบโอติก  ว่าแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียในการทานยังไงบ้างนะ

 

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ

เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

4367
gurucheck

ปรึกษาพัฒนาสูตรกับผู้เชี่ยวชาญเภสัชกร R&D

“กูรูเช็คสร้างชุมชนสำหรับเจ้าของเเบรนด์ และโรงงาน OEM จากความต้องการจริงของตลาดอาหารเสริม สกินเเคร์ และผู้บริโภค ด้วยประสบการณ์ตรงในการเป็นผู้รีวิว เราจึงตั้งใจเป็นที่ปรึกษา พัฒนาสูตร(NPD)ให้กับเจ้าของเเบรนด์ เเละเป็นแพลตฟอร์มที่รวมโรงงาน OEM ที่มีความเก่งในเเต่ละด้านไว้ ให้ตอบโจทย์การผลิตอาหารเสริม สกินเเคร์ ที่ออกฤทธิ์ได้จริงตามงานวิจัย ซึ่งเป็นนโยบายหลักของเรา เพื่อยกระดับวงการอาหารเสริม สกินเเคร์ของไทยให้เเข่งขันได้ในระดับสากล“