เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 1698

2025-04-07 16:25

(กูรูเช็ค) แบ่งกลุ่มพฤติกรรมลูกค้า ทำการตลาดอาหารเสริมให้ตรงใจ

ในการทำการตลาดจะต้องศึกษาพฤติกรรม ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายก่อน และเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็ใช้แบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรม จะช่วยให้การทำแคมเปญ ทำการตลาดมีความเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยสามารถแบ่งพฤติกรรมของลูกค้าได้ตามนี้

แบ่งตามพฤติกรรมการซื้อ (Purchasing Behavior)

แนวทางของการแบ่งกลุ่มพฤติกรรมของลูกค้า จะดูจากการกระทำระหว่างที่กำลังตัดสินใจซื้อสินค้า ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์มีความเข้าใจลูกค้าในหลาย ๆ มุมมอง รวมถึงวิธีที่ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจซื้อสินค้า ความซับซ้อนในการตัดสินใจซื้อ บทบาทของลูกค้า อุปสรรคระหว่างการซื้อ และพฤติกรรมแบบไหนที่บ่งบอกความต้องการซื้อมากและน้อยที่สุด


พฤติกรรมการซื้อแบ่งออกได้อีก 4 ประเภทหลัก ได้แก่
1.ความซับซ้อน
2.การแสวงหาความหลากหลาย
3.การลดความไม่สอดคล้อง
4.ลักษณะนิสัย
 

แบ่งตามผลประโยชน์ที่ลูกค้าต้องการ (Benefits Sought)

เวลาที่ลูกค้ามองหาสินค้าที่ต้องการ ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติ ประโยชน์ และปัญหาเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องการสำหรับลูกค้า หากมีผลประโยชน์ ผลลัพธ์จากสินค้าอาหารเสริมสิ่งไหนที่เขาต้องการมากกว่าสิ่งอื่น นั่นก็จะเป็นเหตุผลหลักที่ลูกค้าเลือกซื้อ


อย่างการเลือกลูกค้าเป้าหมายมา 2 คน ที่มีข้อมูลด้านประชากรเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องของค่านิยม เลยต้องวิเคราะห์เพิ่มเติมว่าคุณสมบัติที่สำคัญของสินค้าอาหารเสริมที่พวกเขาต้องการคืออะไร เช่นลูกค้า A เลือกซื้ออาหารเสริมเพราะราคาถูก แต่ลูกค้า B เลือกซื้ออาหารเสริมเพราะหาซื้อได้ง่าย
 

แบ่งตามกระบวนการซื้อของลูกค้า (Buyer Journey Stage)

เป็นการแบ่งตามสถานะการรับรู้ของลูกค้าที่มีต่อสินค้า ตาม Customer Journey เป็นทฎษฏีที่จะแสดงให้เห็นว่าก่อนที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าอาหารเสริมนั้น จะต้องผ่านขั้นตอนไหนมาบ้าง ทำให้รู้ว่าขั้นตอนไหนที่เป็นอุปสรรคต่อลูกค้า แล้วเอามาปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดได้ ว่าควรเริ่มเจาะกลุ่มไหนก่อน เช่น ลูกค้ากลุ่ม C ที่ยังไม่เคยรู้จักแบรนด์อาหารเสริมของเรา หรือลูกค้ากลุ่ม B ที่มักบอกต่ออาหารเสริมแบรนด์เรากับคนอื่น
 

แบ่งตามการใช้งาน (Usage)

เป็นการวิเคราะห์ว่าลูกค้าจะกลายเป็นลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ของเรา หรือว่าจะเปลี่ยนไปเลือกซื้อแบรนด์อื่นแทน แบ่งเป็นผู้ใช้ระดับสูง ผู้ใช้ระดับกลาง และผู้ใช้ระดับเบา


1.ผู้ใช้ระดับสูง จะใช้อาหารเสริมของแบรนด์เราเป็นหลัก และซื้อสินค้าอยู่บ่อย ๆ
2.ผู้ใช้ระดับกลาง จะใช้อาหารเสริมแบรนด์เราเป็นประจำ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา และสถานการณ์ที่เหมาะสม เช่น ต้องการอาหารเสริมวิตามิน ดี และเแบรนด์ของเรามีรีวิวดีที่สุด ลูกค้ากลุ่มนี้เลยเลือกใช้
3.ผู้ใช้ระดับเบา จะใช้สินค้าอาหารเสริมแบรนด์เราน้อยกว่าแบรนด์อื่น อาจจะเคยซื้อเพียงแค่ครั้งเดียว
 

แบ่งตามโอกาส หรือ ช่วงเวลา (Occasion or Timing)

การแบ่งตามโอกาสและจังหวะเวลา จะทำให้มองเห็นได้ว่เาหตุการณ์แบบไหนบ้างที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อสินค้าของแบรนด์เรา เช่น


1.โอกาสทั่วไป เช่น ซื้ออาหารเสริมในช่วงวันธรรมดา 
2.โอกาสส่วนตัวที่เกิดขึ้นซ้ำ อย่างการซื้อในโอกาสที่พิเศษ เช่น ซื้ออาหารเสริมเนื่องในวันเกิด วันครบรอบ
3.โอกาสส่วนตัวที่หายาก เป็นโอกาสที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย หรือว่าคาดเดาได้ยาก เช่น ซื้ออาหารเสริมเป็นของเยี่ยมไข้คนป่วย หรือซื้ออาหารเสริมเพื่อพกไปเที่ยวต่างประเทศ
 

แบ่งตามความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty)

ความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อ การใช้งาน และระยะเวลาในการซื้อสินค้า ลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์มักจะกลับมาซื้ออาหารเสริมอยู่ซ้ำ ๆ และนึกถึงแบรนด์เราเป็นแบรนด์แรกที่ต้องการซื้อ ต่างจากลูกค้าทั่วไปที่จะเลือกซื้อตามเวลาที่ต้องการ การรักษาลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์เลยมีความคุ้มค่ามากกว่าที่จะหาลูกค้าใหม่ไปเรื่อย ๆ เพราะลูกค้าที่มีความภักดีของแบรนด์ก็จะช่วยบอกต่อสินค้าให้คนใหม่ ๆ ได้ต่อไป

แบ่งตามสถานะของลูกค้า (User Status)

เป็นการแบ่งจากสถานะของลูกค้าทั่วไป โดยจะมีทั้ง 


1.คนที่ไม่เคยใช้สินค้าของแบรนด์
2.คนที่มีแนวโน้มจะใช้สินค้าของแบรนด์
3.คนที่ซื้อสินค้าครั้งแรก
4.คนทั่วไปที่ใช้สินค้าของแบรนด์
5.คนที่เปลี่ยนไปใช้สินค้าแบรนด์อื่น
 

ประโยชน์ของการแบ่งกลุ่มพฤติกรรม

1.เพื่อความแม่นยำในการทำการตลาด
แบรนด์สามารถปรับกลยุทธ์ทางการตลาดตามความแตกต่างของพฤติกรรมแต่ละกลุ่มได้ เพื่อที่จะทำการตลาดตามกลุ่มเป้าหมายได้โดยเฉพาะ 
 

2.ให้ประสบการณ์กับลูกค้าที่ส่วนตัวมากขึ้น
การแบ่งกลุ่มพฤติกรรมสามารถใช้ในการทำการตลาดส่วนบุคคล โต้ตอบระหว่างกันได้แทนการส่งข้อความทั่วไป
 

3.ระบุตัวลูกค้าที่มีความสนใจได้
จะทำให้ทีมการตลาดของแบรนด์ระบุกลุ่มเป้าหมาบ และกำหนดเปอร์เซ็นต์การมีส่วนร่วมกับการทำการตลาดของแบรนด์ได้ และทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ทางแบรนด์ส่งไปยังลูกค้าเป้าหมายจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
 

4.ประหยัดค่าใช้จ่าย
การแบ่งกลุ่มทำให้เข้าใจลูกค้าที่มากขึ้น ทำให้แบรนด์สามารถใช้เงินและทรัพยากรในส่วนการตลาดได้เต็มที่กับกลุ่มเป้าหมายกลุ่ม ๆ หนึ่ง ที่มีความสนใจในตัวแบรนด์จริง ๆ และมีแนวโน้มจะซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น
 

5.สร้างความภักดีต่อแบรนด์
การแบ่งกลุ่มพฤติกรรมจะทำให้เห็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความภักดีของแบรนด์ได้ชัดเจนขึ้น  การมอบประสบการณ์ดี ๆ ตอบกลับไป เป็นการสร้างความประทับใจให้ลูกค้าจนกลายเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ และแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ ต่อไป
 

การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรม จะทำให้การทำการตลาดมีความเข้าใจลูกค้าปัจจุบันมากขึ้น และปรับกลยุทธ์ตามพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายได้


ทางทีมกูรูเช็คก็หวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาสินค้าของตัวเอง และใครที่สนใจ Consult สร้างแบรนด์ ฟรี!! ก็สามารถ แอด LINE : @gurucheckacademy หรือคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://line.me/R/ti/p/@gurucheckacademy
 

กูรูเช็คขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.marketing91.com/behavioral-segmentation/
https://www.marketthink.com
เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

1698

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “