เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 2177

2025-01-27 18:00

(กูรูเช็ค)อัปเดต พฤติกรรมของผู้บริโภค ตั้งราคาอาหารเสริมเท่าไหร่ถึงขายดี!

กูรูเช็ค

• วิเคราะห์เรทการใช้จ่ายซื้ออาหารเสริมว่าเติบโตขึ้นมากน้อยเเค่ไหน จากพฤติกรรมการซื้อ 1 ปีที่ผ่านมา

วิเคราะห์เรทพฤติกรรมการใช้จ่ายซื้ออาหารเสริมว่าเติบโตขึ้นมากน้อยเเค่ไหน จากพฤติกรรมการซื้อ 1 ปีที่ผ่านมา จาก Dynata
จากผลสำรวจ Dynata ที่ร่วมกันวิจัยกับ Mintel ในคนจำนวน 1,234 คน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จากผู้บริโภคคนไทยที่รับประทานวิตามิน แร่ธาตุ หรืออาหารเสริมในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า 
• ผู้บริโภคที่รับประทานอาหารเสริมทุกวัน มีเรทการใช้จ่ายอาหารเสริม เกิน 2,000 บาท อยู่ที่ 35 %
• ผู้บริโภคที่รับประทานอาหารเสริมทุกวัน มีเรทการใช้จ่ายอาหารเสริม 1,000-2,000 บาท อยู่ที่ 20 %
• ผู้บริโภคที่รับประทานอาหารเสริมทุกวัน มีเรทการใช้จ่ายอาหารเสริม ต่ำกว่า 1,000 บาท อยู่ที่ 32 %

รวมผลสำรวจวิเคราะห์เรทการใช้จ่ายของคนไทย ที่ซื้อวิตามิน อาหารเสริมมากที่สุด จาก Dynata เมื่อมองไปอนาคต ผู้ใช้วิตามิน อาหารเสริมของไทยทุกคนตั้งใจที่จะลงทุน ซื้อในผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองทานอยู่เหล่านี้ต่อไป โดย 58% เชื่อมั่นว่าอาหารเสริม วิตามิน สามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพของพวกเขาได้
การบริโภควิตามิน อาหารเสริมที่เพิ่มขึ้นนั้น จำเป็นต้องมีการจัดสรรงบประมาณที่สูงขึ้น ในปีต่อไป ผู้บริโภคบางรายอยู่ที่ 35% วางแผนที่จะใช้จ่ายอย่างน้อย 2,000 บาทต่อเดือน (เทียบเท่าอย่างน้อย 60 บาทต่อวัน) สำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ 

ผู้ประกอบการและแบรนด์ต่างๆ สามารถใช้ข้อมูลนี้เป็นพื้นฐานในการพัฒนากลยุทธ์ด้านราคาที่มีการแข่งขันสำหรับผู้บริโภคเป้าหมายหลักของแบรนด์ได้ โดยการตั้งราคาสินค้าให้เหมาะสมกับรูปแบบผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้

การใช้กลยุทธ์ Competitive Pricing และ Penetration Pricing เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่และแบรนด์หน้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาด การกำหนดราคาต่ำกว่าคู่แข่งในช่วงแนะนำผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้นและเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคให้หันมาซื้อมากขึ้น โดยจะกำหนดตามชนิดของผลิตภัณฑ์ ราคาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมซึ่งผู้บริโภคแต่ละคนอาจจะได้รับจำนวนชนิดวิตามินที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพและความต้องการดูแลในแต่ละบุคคล

• เทคนิคการเพิ่มกำไรจากการผลิต

การเพิ่มกำไรจากการผลิตอาหารเสริม ไม่ใช่แค่ลดต้นทุน แต่ผู้ประกอบการต้องพัฒนากลยุทธ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์
สร้างแบรนด์: เพิ่มความน่าเชื่อถือและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ในตลาด
การตลาดดิจิทัล: ใช้สื่อออนไลน์ในการโปรโมท เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในต้นทุนที่ต่ำกว่า
การปรับปรุงสูตร: พัฒนาสูตรอาหารเสริมให้ตรงกับความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่าขายต่อหน่วย

• เทคนิคการตั้งราคา หลังทำแบรนด์อาหารเสริม

- การตั้งราคาที่ง่ายต่อการคำนวณ 
- ตั้งราคาให้ลงท้ายด้วยเลข 9
- การตั้งราคาแบบรวมเป็นชุด
- การตั้งราคาแบบให้ส่วนลด
- การตั้งราคาให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า

ธุรกิจอาหารเสริมนั้น หากมองผิวเผินเทียบต้นทุนสินค้า กับราคาขาย จะพบกว่า กำไรดีจริงๆ แต่อย่าลืมว่า ธุรกิจอาหารเสริม เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก ดังนั้นแล้วหากส่วนต่างระหว่างทุนกับกำไร ถ้าผู้ประกอบการไม่ได้แบ่งไว้ทำการตลาดเลย ก็ทำให้แบรนด์พังได้เหมือนกัน

• ยกตัวอย่างอาหารเสริมประเภทไหน ควรตั้งราคาอยู่ที่เท่าไหร่

1. อาหารเสริมรูปแบบเม็ด

รูปแบบอาหารเสริมแบบเม็ดเป็นชนิดผงอัดเม็ด มาพร้อมสารสกัดต่างๆ ที่สำคัญในการบำรุงร่างกาย อัดรวมผสมเข้าด้วยกัน มีรูปแบบเม็ดที่หลากหลาย เช่น วงกลม วงรี ขนาดใหญ่เล็กแล้วแต่การผลิต หรือสารอาหารที่ใส่เข้าไปในอดีต อาหารเสริมแบบอัดเม็ดจะเป็นรูปแบบและประเภทของอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ถนัดกับการกินยาแบบเม็ด 

ค่าผลิตขั้นต่ำของอาหารเสริมรูปแบบเม็ด : กำลังผลิตขั้นต่ำอยู่ที่ 30,000 เม็ด
ค่าผลิตอาหารเสริมรูปแบบเม็ด : ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ เม็ดละ 1-15 บาท
อาหารเสริมรูปแบบเม็ด ควรตั้งราคาอยู่ที่เท่าไหร่

ถึงแม้ว่าอาหารเสริมแบบเม็ด จะมีข้อเสียอยู่สำหรับคนบางกลุ่ม รวมทั้งถ้าหากว่าเป็นแบรนด์ดังที่มีกำลังการผลิตมาก อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่อง ฟอยล์แผง หรือ กล่องมาเพิ่ม อาจจะต้องคิดถึงค่าใช้จ่ายในส่วนการแพ็คสินค้าด้วย ควรตั้งราคาอยู่ที่ 1,000 – 1,500 บาท

2. อาหารเสริมรูปแบบแคปซูล

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบบแคปซูล ช่วยให้ง่ายต่อการกลืนมากขึ้น ช่วยกลบกลิ่นของตัวอาหารเสริม ทำให้ไม่ต้องรับรสชาติในการกิน แคปซูลจะผลิตจากเจลาตินของสัตว์เป็นส่วนใหญ่ มีผงของอาหารเสริมอยู่ภายใน หลังจากรับประทาน ตัวแคปซูลจะไปละลายในกระเพาะ แล้วก็ดูดซึมสารได้ที่กระเพาะอาหารทันที

ค่าผลิตขั้นต่ำของอาหารเสริมรูปแบบแคปซูล : กำลังผลิตขั้นต่ำอยู่ที่ 30,000 แคปซูล
ค่าผลิตอาหารเสริมรูปแบบแคปซูล : ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ เม็ดละ 1-15 บาท
อาหารเสริมรูปแบบแคปซูล ควรตั้งราคาอยู่ที่เท่าไหร่

รูปแบบแคปซูล (Capsule) เป็นรูปแบบของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่รับความนิยมสูงสุดในตลาดด้วยลักษณะผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม ผลิตง่าย ต้นทุนไม่สูงมาก จึงเป็นที่มาให้ผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายๆแบรนด์เลือกใช้แบบแคปซูล ควรตั้งราคาอยู่ที่ 500 - 1,000 บาท

3. อาหารเสริมรูปแบบน้ำ

รูปแบบอาหารเสริมประเภทน้ำ หรือช็อต ดริ๊ง (shot Drink) มีส่วนช่วยในการรับประทานที่ง่ายขึ้น เป็นอาหารเสริมที่สะดวก รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการทานอาการเสริมชนิดเม็ด เพราะรับประทานง่าย อร่อย สะดวก หาซื้อง่ายตาม เซ่เว่น และห้างสรรพสินค้าทั่วไป 
ปัจจุบันที่การดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มไม่ได้เป็นแค่การเติมน้ำเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย แต่เป็นการเติมคุณค่าทางโภชนาการให้ร่างกาย จึงเป็นที่มาให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมรูปแบบน้ำ (Shot Drink) เป็นที่นิยมมากขึ้น เช่น Sport drink, Energy drink, Protein drink, Beauty drink เป็นต้น

ค่าผลิตขั้นต่ำของอาหารเสริมรูปแบบน้ำ : กำลังผลิตขั้นต่ำอยู่ที่ 5,000 ขวด
ค่าผลิตอาหารเสริมรูปแบบน้ำ : ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ขวดละ 4-20 บาท
อาหารเสริมรูปแบบน้ำ ควรตั้งราคาอยู่ที่เท่าไหร่
 

สำหรับรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ของอาหารเสริมแบบน้ำ จะต้องเป็นขวดเท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณ และขนาดที่สามารถพกพา หรือใช้งานได้สะดวกมากน้อยแค่ไหน เช่น เกลียวเปิด ฝาเปิด หรือ จะใช้เป็นการล็อกแบบไหน ซึ่งถ้าสามารถนำสารสกัดที่ปริมาณเพียงพอต่อวันใช้ในขวดเดียวได้ จะทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบบน้ำดูน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากมันพร้อมดื่ม ราคาต่อหน่วยก็อาจจะสูงไปนิด อีกอย่างคืออายุค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ในรูปที่ละลายมาแล้ว เวลาเลือกแพกเกจก็ดูที่ขวดได้รับการปกป้องจากแสง ควรตั้งราคาอยู่ที่ขวดละไม่เกิน 500 บาท

4. อาหารเสริมรูปแบบผง

รูปแบบอาหารเสริมชนิดผง ที่ช่วยให้การพกพาง่ายมากขึ้นในรูปแบบซอง หรือต้องการปริมาณที่คุ้มค่าก็มีแบบกระปุกให้เลือกซื้อ สามารถละลายในน้ำได้ มีจุดเด่นคือมีลักษณะเป็นผงละเอียด เก็บรักษาได้นาน เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบกินยาเม็ด หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกในการกินอาหารเสริม ซึ่งอาหารเสริมประเภทผงนี้ส่วนมากจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเสริมคอลลาเจน ที่ช่วยให้จัดเก็บรักษาได้ดี

ค่าผลิตขั้นต่ำของอาหารเสริมรูปแบบน้ำ : กำลังผลิตขั้นต่ำอยู่ที่ 10,000 ซอง
ค่าผลิตอาหารเสริมรูปแบบน้ำ : ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ซองละ 6-25 บาท
อาหารเสริมรูปแบบผง ควรตั้งราคาอยู่ที่เท่าไหร่

สำหรับอาหารเสริมชนิดผงนั้น เป็นผลิตภัณฑ์จะมีขนาดใหญ่ อาจจะส่งผลในเรื่องของขนาด กับ น้ำหนัก กับ อาหารเสริมประเภทผง ต้องระวังความชื้น เพราะรูปแบบผงจะมีจุดอ่อนอยู่ที่ตรงนี้ อาจจะเสียหายง่าย ค่าใช้จ่ายเรื่อง หีบห่อ หรือ บรรจุภัณฑ์ อาจจะมีเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเก็บรักษายังสามารถผสมกับสารสกัดอื่นได้หลายรูปแบบ แต่ก็ต้องใช้ซองที่ใหญ่ขึ้น น้ำหนักก็มากขึ้นด้วย ยังไงผู้ลงทุนก็ต้องคิดในจุดนี้ ควรตั้งราคาอยู่ที่ 1,000 – 2,000 บาท

สรุป

อย่างไรก็ตาม เทคนิคการตั้งราคาต่างๆ เป็นเพียงราคาหรืองบเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งแต่ละโรงงานที่ผลิตก็จะมีราคาหรือค่าบริการที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ต้นทุนไม่เหมือนกัน ดังนั้นเจ้าของแบรนด์ต้องทำการศึกษาและติดต่อโรงงานไว้หลายๆ ที่เพื่อนำมาเปรียบเทียบเพื่อเลือกโรงงานที่เหมาะสมที่สุด ละการตั้งราคานั้น ไม่ใช่เพียงใช้เฉพาะแต่หลักในการคำนวน แต่ผู้ขายจะต้องใช้ความสามารถในการชักจูงใจด้วย ธุรกิจอาหารเสริมของเราก็จะประสบความสำเร็จ และมียอดขายที่น่าพึงพอใจแน่นอนค่ะ

ทางทีมกูรูเช็คก็หวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาสินค้าของตัวเอง และใครที่สนใจ Consult สร้างแบรนด์ ฟรี!! ก็สามารถ แอด LINE : @gurucheckacademy หรือคลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://line.me/R/ti/p/@gurucheckacademy


เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

2177

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “