เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 12736

2023-05-29 16:00

(กูรูเช็ค) เเชร์ 5 วิธีลดน้ำหนัก ครบจบเข้าใจง่าย ทำ IF มีกี่แบบ ทำแบบไหนดี!?

กูรูเช็ค

INTERMITTENT FASTING (IF)

เป็นการลดน้ำหนักโดยเน้นจำกัดเวลาการกินเป็นช่วงๆ คือ ช่วงอด (FASTING) ช่วงกิน (FEEDING) เพื่อให้ช่วงที่เราอดเนี่ยมีการดึงไขมันเก่ามาใช้เป็นพลังงานนั่นเองน้า

เคยสงสัยมั้ยคุณๆ เลขที่เราเห็นเอาโดยส่วนใหญ่จะเป็นเลขสองตัว อย่าง  12/12 16/8 มายังไง ตัวหน้าก็จะเป็นเลขของช่วงเวลาที่เราต้องอดอาหารคุณ ๆ (FASTING) ส่วนตัวหลังก็เป็นเลขช่วงเวลาที่กินได้นะ (FEEDING) 

แต่สังเกตช่วงอดจะเริ่มอย่างต่ำสุดเลย คือ 12 ชั่วโมง และเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆน้า เพราะว่าเวลาที่เราอดอาหารเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ขึ้นไป มีงานวิจัยบอกว่าจะทำให้ร่างกายเราได้สับสวิตซ์ไปใช้ไขมัน เปลี่ยนไขมันในร่างกายมาเป็นพลังแทน การใช้พลังจากอาหารโดยเฉพาะพวกแป้งน้ำตาลที่เรากินเข้าไปในแต่ละมื้อนั่นเองนะ ดังนั้นเราจะไม่เห็นแบบ 10/14 8/16 เพราะต้องอดให้ได้อย่างน้อย 12 ชั่วโมงติดกันนั่นเองค่ะ ซึ่ง IF ก็มีหลากหลายแบบนะคุณๆ กูรูเช็คจะหยิบมาพูด 5 แบบที่ส่วนใหญ่นิยมกันเนอะ 

• รวม 5 วิธีทำ IF

1. 12/12 หรือ 4-4-12

จริง ๆ การแบ่งย่อยทาน 3 มื้อ  ก็คือย่อยเวลาให้ทำตามง่ายขึ้นน้า
แบบนี้คือ กำหนดระยะห่างระหว่างมื้อแรกกับมื้อ 2 ที่ 4 ชั่วโมง  มื้อ 2 กับมื้อ 3 (มื้อสุดท้ายของวัน) 4 ชั่วโมง และหลังจากนั้นก็ไม่ทานอะไรเลยจนถึงวันถัดไปค่ะ ซึ่งแต่ละมื้อก็จะมีเวลายืดหยุ่นให้สามารถทานได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

2. 16/8 หรือสาย IF เรียกว่า LEANGAINS 

เป็นวิธีที่คนนิยมทำมากที่สุดนะ สามารถทำได้เรื่อยๆหลายคนบอกทำได้ตลอดชีวิตเลย ไม่หิว ไม่รู้สึกอดหรือทรมาน เวลาค่อนข้างสบายเลยคุณๆ จะมีช่วง อด 16 ชั่วโมง ช่วงกิน 8 ชั่วโมง 
กูรูเช็คก็ใช้วิธีนี้อยู่นะคะ แต่ทริคคือ จะเริ่มมื้อแรกตอน 11.00 น. ให้รู้สึกว่าร่างกายได้หิวหน่อย ค่อยเริ่มกิน จะดึงเอาไขมันมาใช้ได้ดี

3. 18/6

จะมีช่วง อด 18 ชั่วโมง ช่วงกิน 6 ชั่วโมงน้า

4. 20/4

วิธีนี้ค่อนข้างเซียนสำหรับคนที่ทำIF มาสักพักแล้วร่างกายคุ้นชินแล้วเนอะ  จะมีช่วง อดถึง 20 ชั่วโมง ช่วงกินแค่ 4 ชั่วโมง แต่หลายเสียงที่ทำก็บอกว่าลดได้เร็วเลยนะ อันนี้กูรูเช็คก็ยังไม่เคยลองเลยเหมือนกัน 

5. แบบกินมื้อเดียว ONE MEAL A DAY

โหดขึ้นมาอีก ก็คือ กินแค่ครั้งเดียวต่อวัน คล้ายกับกับการทำIF 23/1 ที่กินแค่ 1 ชั่วโมงต่อวัน แต่ไม่ได้สโคปว่าต้อง 1 ชั่วโมง อันนี้กินเสร็จคือจบ สั้นกว่า 1 ชั่วโมงอีก อันนี้ความเห็นหม่องใครทำก็น่าจะต้องดูสารอาหารที่เราทานดี ๆ ว่าครบเหมาะกับความต้องการของร่างกายมั้ยเนอะ ไม่ใช่มื้อเดียวแต่หนักแป้งน้ำตาล ก็ไม่ดีเหมือนกัน 

ถ้าคนที่มีโรคประจำตัวด้วย ควรปรึกษาคุณหมอก่อนทำนะคะ ใครเป็นเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง ไม่ควรทำวิธีสุดท้ายนะ อาจจะทำให้เกิดอาการน้ำตาลต่ำลงมามากได้ เพราะช่วงอดอินซูลินจะไม่ถูกกระตุ้นน้า บางคนถึงกับเกิดอาการช็อคได้ 

• ควรเริ่มทำ IF ยังไงดี?

ใครอยากเริ่มทำ IF จะเริ่มจาก 4-4-12 ก่อนก็ได้นะคะ ถ้าชินแล้วอยากลดให้ได้เร็วกว่าเดิมก็ควรปรับเวลาเพิ่มเวลา FASTING หรือเวลาอดเพิ่มขึ้น อาจจะค่อย ๆ ขยับ จาก 4-4-12  เป็น 16/8 18/6 อาจไปจนถึง 20/4 และขยับไปเป็น ONE MEAL A DAY เพราะยิ่งเมื่อระยะเวลาที่ร่างกายเราอดมากเท่าไหร่ ระดับอินซูลินยิ่งต่ำนานมากขึ้น ก็ดึงไขมันออกมาได้ดีขึ้นนั่นเอง 

อย่างรีวิวจากงานวิจัยนึงจะเห็นว่า ONE MEAL A DAY มีแนวโน้มที่สามารถช่วยลดไขมันในร่างกาย น้ำหนักตัว ได้ดีกว่า แบบ 16/8 นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจากระยะเวลา กับกลุ่มอายุ ที่ทดสอบของต่างกัน กูรูเช็คว่าก็อาจจะมีผลจากตรงนี้บ้าง แต่ก็คิดว่าถ้าไปลองเทียบทำเองจริง ๆ ONE MEAL A DAY ก็น่าจะให้ผลลดได้สูงกว่าแหละคุณ ๆ ใครลองเทียบแล้วผลเป็นไงมาแชร์กันได้นะคะ

ส่วนใครไม่เน้นหักโหมทำได้เรื่อย กูรูเช็คก็แนะนำเป็น 16/8 คุณ ๆ ทำได้ยาว ๆ เลย เพราะลดน้ำหนักที่มีความสุข ไม่ต้องทนหิวน่าจะดีที่สุดน้า ใครลองแล้วแบบไหนอยู่ ทำแบบไหนอยู่ ได้ผลยังไง มาแชร์กันได้น้า 

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ

กูรูเช็คขอบคุณข้อมูลจาก

https://onlinelibrary.wiley.com/doi/epdf/10.1002/oby.22065
เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

12736

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “